แม่ลูกอ่อนวัย17อยู่สลัมถูกไล่ที่

แม่ลูกอ่อนสลัมอาร์ซีเอวัย 17 ปี อุ้มลูก 10 เดือน ไม่รู้ชะตากรรม หลังสลัมถูกไล่ที่ พม.เต้นสำรวจสลัมช่วยเหลือครอบครัวแม่วัยรุ่น พบผลวิจัยเด็กสาวอายุต่ำกว่า 19 ปี คลอดปีละ 7 หมื่น ตกวันละ 200 คน

หลังจาก "คม ชัด ลึก" ได้เสนอปัญหาเด็กสาวแม่ลูกอ่อนที่ต้องเลี้ยงลูกตามลำพังในชุมชนแออัดนั้น

ล่าสุดพบแม่วัยเด็กอายุ 17 ปี ต้องเลี้ยงลูกวัย 10 เดือนตามลำพังข้างสลัมอาร์ซีเอที่กำลังจะถูกไล่รื้อ หากเอกชนไล่จนสำเร็จก็ไม่รู้ชะตากรรมว่า จะหาที่อยู่ให้ตัวเองและลูกน้อยอย่างไร

น.ส.มล (นามสมมติ) หนึ่งในตัวอย่างแม่วัยเด็ก

ที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี แต่มีลูกและเผชิญปัญหาการเลี้ยงลูกอยู่ในชุมชนแออัดอาร์ซีเอ บอกว่า ขณะนี้ชุมชนแออัดกระทุ่มเดี่ยว หรือที่เรียกกันว่าสลัมอาร์ซีเอ ด้านข้างแหล่งท่องเที่ยวอาร์ซีเอ หรือศูนย์การค้ารอยัลซิตี้ อเวนิว ถนนพระราม 9 กำลังจะถูกไล่รื้อจากเอกชนที่เป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งตนกับลูกน้อยวัย 10 เดือน ยังไม่รู้จะย้ายไปอยู่ที่ไหน

แม้ น.ส.มลจะบอกว่าอายุได้ 17 ปีแล้ว

แต่ด้วยความเป็นเด็กสาวตัวเล็กผอมสูงไม่เกิน 150 เซนติเมตร ผู้คนจึงมองเห็นภาพพี่สาวคนเล็กกำลังอุ้มน้องวัย 10 เดือนมากกว่าแม่กำลังให้นมลูก น.ส.มล อาศัยอยู่ที่ชุมชนแออัดอาร์ซีเอมาตั้งแต่ 3 ขวบ

โดยย้ายมาจาก จ.อุบลราชธานี พร้อมกับแม่

พออายุได้ 16 ปี ก็มีแฟนอายุแก่กว่า 1 ปี จากนั้นไม่นานก็ตั้งท้องมีลูก แต่แฟนยังชอบเที่ยวเตร่เหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ทำให้ต้องออกไปหางานทำ เพื่อเอาเงินมาซื้อนมให้ลูก ระหว่างทำงานก็ต้องจ้างคนเลี้ยงเด็กในชุมชนช่วยดูลูกแทน

"ชีวิตหนูไม่รู้จะทำยังไง คลอดลูกแล้วแฟนก็ไม่มีรายได้ประจำ

บางทีก็รับจ้างได้วันละ 200 บาท แต่ลูกต้องกินนมทุกวัน หนูหางานทำยาก เพราะยังเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี ไปแอบทำงานเป็นแม่บ้านตามบริษัท เงินเดือนไม่กี่พันบาท ต้องมาแบ่งให้คนรับจ้างเลี้ยงลูกเดือนละ 1,800 บาท

ตอนกลางวันให้ลูกกินนมกระป๋อง กลางคืนก็ให้กินนมตัวเอง

เวลาลูกป่วยต้องยืมเงินพาไปหาหมอ เหมือนเคราะห์ซ้ำตอนนี้สลัมกำลังถูกเจ้าของที่ไล่ ไม่รู้ว่าถ้าเขารื้อบ้านทิ้งแล้วจะย้ายไปอยู่ที่ไหน" น.ส.มล กล่าว

ด้าน นายเผชิญ ประธานชุมชนกระทุ่มเดี่ยว

กล่าวว่า ชาวบ้านอาศัยอยู่ที่นี่มานานกว่า 20 ปีแล้ว ตอนนี้มีประมาณ 120 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ทำงานเป็นลูกจ้าง ยาม เด็กเสิร์ฟ พนักงานในอาร์ซีเอ ตอนนี้กำลังถูกไล่รื้อ เมื่อปลายปี 2549

มีชายฉกรรจ์หลายร้อยคนมาบุกรื้อไล่ให้ชาวบ้านออกไป

แต่ชาวบ้านกว่า 300 คนร่วมมือกันสู้และพยายามขอร้องให้กันที่ส่วนหนึ่งไว้ให้เช่า เพราะในชุมชนมีชาวบ้าน เด็ก และวัยรุ่นหลายครอบครัวที่ยังไม่มีที่ไป

"ชาวบ้านขอแค่เวลาหาที่อยู่ใหม่

ขอเวลากู้โครงการบ้านมั่นคง และขอค่ารื้อถอน เพื่อเป็นทุนไปสร้างบ้านใหม่บ้าง พวกเรามีแต่คนจน เป็นลูกจ้างทำงานในอาร์ซีเอ ถ้าเขาให้ย้ายไปอยู่ไกลๆ ก็ไม่รู้จะมาทำงานไหวไหม ตอนนี้มีเด็กเล็กประมาณ 50 คน วัยรุ่นอายุ 15-18 ปี อีก 60 กว่าคน

เด็กๆ ต้องย้ายโรงเรียน พ่อแม่หางานทำใหม่เป็นเรื่องใหญ่

ต้องใช้เวลา เหมือนเรื่องของน้องมล ที่ชาวบ้านต่างเห็นใจ ยังเป็นเด็กแต่ต้องไปหางานทำเลี้ยงลูก ปกติพ่อแม่ในสลัมไม่มีเวลาอบรมลูก ไหนจะหางานทำ กังวลเรื่องโดนไล่รื้อ ค่าเรียน ค่ากิน ฯลฯ

เด็กวัยรุ่นก็เลยจับกลุ่มติดเกม มีแฟน

บางคนก็เข้าหาสิ่งเสพติด รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือเด็กในสลัมบ้าง" นายเผชิญ กล่าว

เช่นเดียวกับนางวิไล กรรมการชุมชนแออัดแห่งหนึ่งในคลองเตย

บอกว่า ปัญหาเด็กในชุมชนแออัดกำลังรุนแรงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเด็กที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง อาศัยอยู่กับญาติหรือถูกเลี้ยงดูอย่างไม่มีคุณภาพ พอโตวิ่งเล่นได้เด็กจะเริ่มติดเกมตามเพื่อน จากนั้นก็ติดกาว เมื่ออายุ 12-13 ปี เด็กหญิง เด็กชายก็หาแฟนแล้วก็ย้ายออกจากบ้าน

เมื่อจำเป็นต้องใช้เงิน แต่ไม่มีงานทำก็เป็นช่องว่าง

ให้แก๊งค้ายาเสพติดเข้าไปสนิทสนม ให้ความช่วยเหลือ ทำตัวเป็นพ่อพระแม่พระ ทำเป็นให้ความอบอุ่น ให้ที่อยู่ที่กิน ให้โทรศัพท์มือถือ แล้วก็ขอให้เด็กช่วยวิ่งยาบ้าหรือไปขายยาเสพติด

"เด็กกลุ่มนี้ไม่กลัวพ่อแม่หรือญาติ

เพราะครอบครัวไม่มีความอบอุ่นตั้งแต่ต้น ใครไม่เชื่อก็ให้ลองไปเดินสำรวจในชุมชนแออัดคลองเตยได้เลย เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่เคยถูกเลี้ยงดูอย่างอบอุ่นหรือเอาใจใส่ และตอนนี้ก็เริ่มตั้งท้องมีลูกกันแล้ว

ลูกที่เกิดมาก็ถูกเลี้ยงแบบตามบุญตามกรรม

เพราะพ่อแม่ก็ยังเป็นเด็กเป็นวัยรุ่นกันอยู่ ชาวบ้านในชุมชนรู้ดีถึงปัญหานี้ เด็กมีปัญหาถูกตอกย้ำ แต่ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะตัวเองก็ต้องปากกัดตีนถีบเอาตัวให้รอด ไม่มีใครหวังพึ่งหน่วยงานรัฐ เพราะรู้ดีว่ามาสักพักก็หายไป ไม่ได้อยากช่วยเด็กอย่างจริงจัง จนเด็กพวกนี้โตกลายเป็นโจร สร้างปัญหาให้สังคม" นางวิไล กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก "คม ชัด ลึก"

เสนอปัญญาแม่วัยเด็กในชุมชนแออัดที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น และกำลังเลี้ยงดูลูกอ่อนตามลำพังนั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้วางแผนติดตามให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว

นางภิลิวัลย์ ฉัตรมณีฤกษ์ หัวหน้าสำนักงานพัฒนาสังคม

และสวัสดิการกรุงเทพ 3 คลองเตย (พสก.คลองเตย) ให้ข้อมูลว่า พื้นที่ พสก.3 ดูแลชุมชนแออัด 8 เขต คือ คลองเตย พระโขนง บางนา บางคอแหลม สวนหลวง วัฒนา สาทร และยานนาวา มีชุมชนแออัดรวมทั้งสิ้นประมาณ 250 แห่ง โดยเฉพาะในเขตคลองเตยมีประมาณ 40 แห่ง

หัวหน้า สนง.พัฒนาสังคมฯ ยอมรับว่า

ในชุมชนแออัดหลายแห่งมีเยาวชนหญิงที่กลายเป็นแม่ลูกอ่อนเพิ่มมากขึ้นจริง โดยเฉพาะชุมชนแออัดคลองเตย เนื่องจากเด็กๆ ถูกทอดทิ้งตั้งแต่เป็นเด็กเล็ก เมื่อเป็นวัยรุ่นก็เริ่มประพฤติตัวไม่เหมาะสม ติดกาว ติดเกม ติดยาเสพติด สาเหตุหลักมาจากครอบครัวอ่อนแอ

พ่อแม่บางส่วนอยู่ในวงจรยาเสพติด

ทำให้เลี้ยงลูกอย่างไม่มีคุณภาพ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นเด็กหลายคนถูกพ่อแม่หรือญาติชักจูงสู่วงจรยาเสพติด คือ ให้วิ่งยา ขายยา และติดคุก

"เมื่อเดินเข้าไปในสลัมคลองเตยจะเห็นเลยว่า

ลูกเด็กเล็กแดงถูกเลี้ยงดูอย่างไม่เหมาะสม เป็นปัญหาเชิงลึกของสังคม ยอมรับว่าที่ผ่านมายังไม่มีการพูดถึงปัญหาเรื่องเด็กหญิงเด็กชายที่มีลูก ทั้งที่ตัวเองก็ยังเป็นเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี หลายคนมีลูกตั้งแต่อายุ 12-13 ปี

วิธีแก้ไขเบื้องต้นควรสำรวจชีวิตเด็กในชุมชนแออัด

ทุกแห่งอย่างละเอียดว่า มีสภาพชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร โดยเฉพาะชุมชนแออัดใน กทม.และปริมณฑล เช่น เด็กติดยา เด็กติดเกม เด็กไม่เรียนหนังสือ ฯลฯ หรือปัญหาอื่นที่เกิดขึ้นในเด็ก

แต่ยังไม่มีผู้ตระหนักถึง

เช่น เด็กมีลูกขณะยังไม่พร้อม เมื่อได้ตัวเลขแท้จริงมาแล้ว หน่วยงานรัฐต้องเข้าไปหาวิธีช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน" นางภิลิวัลย์ กล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก "โครงการวิจัยพัฒนาการแบบองค์รวมของเด็กไทย"

ซึ่งเป็นโครงการวิจัยระยะยาวในเด็กไทย ได้รับความสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย (สกว.) พบว่า จากการสุ่มสำรวจตัวอย่างเด็กและเยาวชนไทยทั้งสิ้น 9,488 คน ในปี 2544

มีเด็กกำพร้าหรือเด็กที่อยู่ตามลำพัง

ไม่มีพ่อแม่ปู่ย่าตายายหรือญาติอาศัยอยู่ด้วยสูงถึงร้อยละ 8 นอกจากนี้ เด็กไทยร้อยละ 86 อาศัยอยู่ใกล้แหล่งอบายมุข เช่น ร้านขายสุรา สถานเริงรมย์ บ่อนการพนัน

เช่นเดียวกับผลสำรวจสภาวการณ์เด็กและเยาวชนไทย

ของสถาบันรามจิตติพบว่า เด็กที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดเป็นหนึ่งในเด็กกลุ่มที่มีคุณภาพชีวิตต่ำ และมีความเสี่ยงสูงต่ออบายมุขและการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ยิ่งไปกว่านั้นเด็กที่ไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ หรือพ่อแม่ไม่เอาใจใส่

ขาดพื้นฐานความรักจากครอบครัว

จะมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศมากขึ้น เช่น ตั้งท้องในวัยเรียน โดยตัวเลขล่าสุดมีเด็กอายุต่ำกว่า 19 ปี ตั้งครรภ์และมาทำคลอดปีละ 7.1 หมื่นคน หรือวันละประมาณ 200 คน มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ถูกละเมิดทางเพศเพิ่มสูงถึง 5,300 คนต่อปี หรือวันละ 15 คน และมีจำนวนเด็กถูกส่งเข้าสถานพินิจฯ ปีละ 3 หมื่นคน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก