เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม คุมตัว นายทรงกรด ศรีประสงค์ ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบิ๊กซีศรีนครินทร์
ผู้ต้องหาคดีปลอมแปลงเอกสารและทำการลักทรัพย์ มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท จากบัญชีของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ฝากขังไว้ที่ สน.พหลโยธิน เข้ามาเปรียบเทียบลายเซ็นที่กองบังคับการกองปราบปราม
โดย นายทรงกรด ได้เปิดเผยว่า ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของลูกค้าตามปกติเท่านั้น และไม่เคยรู้จักกับ นางอำพร เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด
เจอกันเฉพาะตอนที่มาทำธุรกรรมทางการเงิน เหตุผลที่ไม่ได้เอะใจกับการเบิกถอนเงินจำนวนมากนั้น เพราะคิดว่าทางสถาบัน น่าจะมีระบบการตรวจสอบที่ดีแล้ว ด้านการแจ้งให้กับทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ทราบนั้น มีการแจ้งทุกครั้งที่ลูกค้ามีการเบิกจ่ายเงินสดเกิน 2 ล้านบาท เพราะข้อมูลจะเข้าในระบบของธนาคารและแจ้งไปทาง ปปง. อัตโนมัติทุกครั้งอยู่แล้ว จึงไม่คิดว่า นางสาวอำพร จะสามารถยักยอกเงินได้ และหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ในข้อหาสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐในการกระทำความผิด และคัดค้านการประกันตัว
ด้าน นางสาวอำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้ต้องหา
อาการป่วยยังไม่ดีขึ้น ซึ่งการที่จะย้ายมารักษาตัวต่อที่ ร.พ.ตำรวจ นั้น ต้องตรวจสอบโรคที่ผู้ต้องหาเป็นก่อนเพราะอาจต้องรักษากับหมอที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน แต่ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เพราะอยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดเวลา
ศาลจังหวัดมีนบุรี ไม่อนุญาตให้ประกันตัว นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 40 ปี ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซีศรีนครินทร์
และ น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อายุ 56 ปี ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ผู้ต้องหาที่ 1-2 ที่ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ์และใช้เอกสารปลอม หลังจากพนักงานสอบสวน กองปราบปราม คุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรีเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา
นับจากวันนี้ (24 ธันวาคม) ถึงวันที่ 4 มกราคม 58 เนื่องจากการสอบสวน ยังไม่เสร้จสิ้น ต้องสอบพยานบุคคลอีก 30 ปาก
และรอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และความเสียหายมีมูลค่ามาก จึงเกรงว่าหากได้รับการปล่อยตัวไป จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ภายหลังการฝากขังแล้วเสร็จ ญาติผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 500,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว แต่ศาลพิจารณาแล้ว ในชั้นนี้ยังไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำมีนบุรี