ตุ๋นเสี่ยรถทัวร์1.3ล้านหลอกค้าดอลล่าร์ก๊กมินตั๋ง2หมื่นล้าน

ตำรวจรวบอดีตนักร้องดังวงจุฬารักษ์ "มนต์นคร นาคพวง " หลังวางฟอร์มเส้นใหญ่ในลาว หลอกตุ๋นเงิน 1.3 ล้านจากเสี่ยรถทัวร์เมืองอุดรธานี

อ้างจ่ายค่าผ่านทางขนดอลล่าร์ก๊กมินตั๋ง

เข้าไทยมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท หวังกินส่วนแบ่ง 20 เปอร์เซนต์กว่า 4 พันล้าน สุดท้ายหายเข้ากลีบเมฆ ผู้ต้องหาอ้างไม่ได้โกง แต่ถูกต้มมาอีกทอด

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 22 พ.ค. พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจ ภาค 4

ร่วมกับ พ.ต.อ.สรศักดิ์ เย็นเปรม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง จับกุมตัวนายแสงชัย หรือ มนต์นคร นาคพวง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 7 ต.โนนยอ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา

อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังวงจุฬารักษ์

เจ้าของบทเพลง จดหมายฉบับสุดท้ายผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.อุดรธานี ที่ 82/2548 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ ได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก นายจักรพงษ์ ดีศรี อายุ 47 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 99/24-27 ถ.รอบเมือง ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทจักรพงษ์ทัวร์ เดินรถโดยสารสายอุดร-เชียงใหม่ และเชียงราย-นครพนม เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่า

เมื่อเดือนมีนาคม 2547 นายแสงชัย ได้หลอกนายจักรพงษ์ ว่า

เป็นนักธุรกิจอยู่ที่ประเทศ สปป.ลาว รู้จักสนิมสนมกับผู้ใหญ่ในประเทศลาวหลายคน ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีลาว และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นอกจากนั้นยังอ้างว่า เป็นลูกเลี้ยงของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังลาว และยังเคยเป็นผู้ช่วย ดร.โกร่ง วีระพงษ์ รามางกูล

และยังเป็นที่ปรึกษาฝ่ายการเงิน การคลังของ สปป.ลาวด้วย

พร้อมกันนี้นายแสงชัย ยังโชว์ภาพถ่ายของตัวเองที่ถ่ายคู่กับคนที่อ้างว่าเป็นผู้ใหญ่ในประเทศลาวหลายคนจนเป็นที่น่าเชื่อถือ

นายจักรพงษ์ ระบุว่า ในช่วงแรกที่ได้รู้จักนายแสงชัยนั้น

นายแสงชัยได้ชักชวนให้ตนให้ ไปทำธุรกิจเดินรถโดยสาร เส้นทางระหว่างเวียงจันทน์ - ปากเซ โดยนายแสงชัยยืยันว่าสามารถพูดคุยกับผู้ใหญ่ระดับสูงในประเทศลาวให้เข้าไปทำธุรกิจได้อย่างสะดวก ถึงขั้นพากันเดินทางไปดูเส้นทางเดินรถที่ สปป.ลาว มาแล้ว

แต่นานวันเข้าเรื่องกับไม่คืบหน้ามีแต่นายแสงชัย

นำเสนอโครงการทำธุรกิจอื่นๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นการค้าไม้ การทำเหมืองแร่ ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ จะมีแต่รูปภาพและเอกสารมาให้ดูเท่านั้นและธุรกิจเหล่านี้ตนไม่ถนัด จึงไม่มีการดำเนินการอะไรต่อ

ต่อมานายแสงชัยได้มาหา และบอกว่า

กำลังทำธุรกิจค้าเงินดอลล่าร์สหรัฐ ที่กองทัพ ก๊กมินตั๋ง สมัยนายพลเจียง ไคเชค ที่ซุกซ่อนเอาไว้อยู่ประเทศเวียดนาม คิดเป็นเงินไทยจำนวน 20,609,280,000 บาท พร้อมกับนำภาพถ่ายเงินดอลล่าร์มาให้ดูด้วย

โดยการค้าเงินดอลล่าร์ครั้งนี้ นายแสงชัย

จะได้ส่วนแบ่ง 20 เปอร์เซนต์ของเงินทั้งหมด เป็นเงิน 4,121,856,000 บาท แต่การนำเงินดอลล่าร์มาจากเวียดนาม จะมีค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าผ่านทางในการลักลอบขนเข้ามาทางประเทศลาว

ซึ่งนายแสงชัย ไม่มีเงินสด จึงขอยืมเงินนายจักรพงษ์

โดยรับปากว่าจะคืนให้พร้อมดอกเบี้ย ทำให้นายจักรพงษ์ หลงกลจึงโอนเงินจำนวน 1,328,000 บาท สุดท้ายรู้ว่าถูกหลอกจึงมาแจ้งความดำเนินคดี

จากการสอบสวนนายแสงชัย นาคพวง ผู้ต้องหา

ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ตนเองก็ถูกหลอกอีกต่อหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก