ลุงเพียรพาโจ้ มอบตัวตร.แล้ว

คดีพบระเบิดเพาเวอร์เจลภายในห้องพักย่านบางพลัดของนายสมพงษ์ หรือโจ้ อินทร์งาม

หลานชายแกนนำกลุ่มแนวร่วมพันธมิตรขับไล่

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ พ้นจากเก้าอี้ผู้นำประเทศ ก่อนเกิดการปฏิรูปการปกครองโค่นอำนาจหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ค. ที่ บช.น. นายเพียร ยงหนู

ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ

การไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วยจ.อ.พิพัฒน์ วงศ์ฤทธิ์ เลขาธิการสหภาพและแกนนำผู้ ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกว่า 20 คน นำตัวนายสมพงษ์ หรือโจ้ อินทร์งาม

ผู้ต้องสงสัยเป็นเจ้าของวัตถุระเบิด

จำนวนมหาศาลเข้าพบ พล.ต.ต. เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. และพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับ ระเบิดที่ซุกอยู่ในห้องพักของตัวเอง

พนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง

ก่อนแจ้งข้อหามีวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นได้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยนายสมพงษ์ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับระเบิดที่พบ

และขอปฏิเสธของกลางทั้งหมดไม่ทราบ

ไปอยู่ในห้องพักได้อย่างไร เนื่องจากไม่กลับไปที่ห้องนานกว่า 5 เดือนแล้ว พอรู้ข่าวว่าตัวเองตกเป็นผู้ต้องสงสัยเลยหลบไปตั้งหลักอยู่บ้านญาติย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ปรึกษากับญาติผู้ใหญ่และทนายความตัดสินใจเข้ามอบตัวสู้คดี

ด้านนายเพียร ยงหนู ลุงของนายสมพงษ์

เปิดเผยว่า ที่พาหลานชายมาเพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังตกเป็นข่าวหลานก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน พักอยู่กับ จ.อ.พิพัฒน์ วงศ์ฤทธิ์ ใน กทม.

เมื่อได้ปรึกษาทนายความ

อีกทั้งไม่อยากให้เสียชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล จึงนำหลานเข้ามอบตัว ส่วนจะไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มใดจนเกิดประเด็นทาง การเมืองหรือไม่นั้น อยากขอให้จบตรงนี้ ถ้ายังตอบโต้กันไปมา

ก็เหมือนราดน้ำมันใส่กัน

ทุกอย่างอยู่ที่กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน หลังจากนี้จะให้หลานชายบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ในวันที่ 1 ก.ค. ที่วัดเขาแดง จ.พัทลุง

พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. กล่าวว่า

ผู้ต้องหายืนยันให้การปฏิเสธ ส่วนรายละเอียดทางสำนวนนั้น พนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ โดยรวบรวมหลักฐานคำให้การของนายสมพงษ์ไปขยายผลทางคดี

เมื่อสอบปากคำเสร็จก็ปล่อยตัวผู้ต้องหา

ตำรวจดำเนินการไปตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏ แต่จะเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหรือไม่ต้องทำคดีไปตามความจริงและให้ความเป็นธรรม ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง

ขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้ว 20 ปาก

อยู่ระหว่างรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบสำนวน ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องมีเพียงคนเดียว แต่หากมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครก็จะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ