แจ้งจับเสี่ยใจถึง มีดสับนิ้ว ต้มประกัน 16 ล้าน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 พ.ค. โดยมีรายงานว่า นางอุพรรัตน์ บุญวงศ์ ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน)

จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์

รักษาการ ผบก.ป. ในวันที่ 21 พ.ค.นี้ ให้ดำเนินคดีกับนายพิเชษฐ์ พรตันติพงศ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/193 หมู่ 1 ต.กระทู้ อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต เจ้าของหอพักแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต หลังพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.

ได้สืบสวนนานกว่า 4 เดือน จนพบว่า

ผู้ ถูกกล่าวหามีพฤติกรรมหลอกลวงบริษัทประกันภัยหลายแห่ง หวังเงินประกันภัยที่ทำไว้รวมกว่า 16 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา นางอุพรรัตน์ได้เข้าพบ พ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ผกก.5 บก.ป. ให้สืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้

หลังรับแจ้งความในขณะนั้น พ.ต.อ.สมพงษ์สั่งการ

ให้ พ.ต.ท.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท. พรศักดิ์ พิทยารัตน์ สว.กก.5 บก.ป. และ พ.ต.ท.นิรันดร์ ปิตะกาศ สว.กก.5 ป. เข้าสืบสวนจนทราบว่า เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2549

ขณะนายพิเชษฐ์ทำอาหารอยู่ในบ้านเลขที่ 53/6

ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต อยู่ระหว่างใช้มีดสับกระดูกหมู ปรากฏว่ามีนายนเรศ พัดดา เพื่อนสนิท เดินเข้ามาในครัวพร้อมทำหม้อตกลงพื้น ทำให้นายพิเชษฐ์ตกใจสับกระดูกหมูผิด กลายเป็นสับลงบนนิ้วหัวแม่มือซ้ายตัวเองจนขาดกระเด็นตกลงไปในเตาถ่านจนไหม้เกรียม

จากนั้นเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต

ต่อมาได้แจ้งให้ บริษัทประกันภัยทราบ เพื่อขอรับเงินค่ารักษาและเงินชดเชย กลายเป็นคนพิการ แพทย์ต่อนิ้วให้ไม่ได้ เนื่องจากเซลล์บนนิ้วตายไปแล้ว

ต่อมาบริษัทประกันชีวิตเกิดข้อสงสัยหลายประการ

จนต้องมาแจ้งกองปราบปรามเพราะหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ประกันภัยได้ตรวจสอบภาพถ่ายนิ้วมือที่โรงพยาบาลบันทึกไว้แนบกับประวัติการรักษา พร้อมให้นายพิเชษฐ์แสดงท่าทางบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลับพบพิรุธ

โดยเฉพาะท่าจับกระดูกหมูที่นิ้วหัวแม่มือซ้าย

ไม่น่ายื่นออกมา พนักงานสอบสวนจึงสอบปากคำ นพ.พงษ์ศักดิ์ วจิตรุจนพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำศูนย์ข้อและกระดูกสันหลัง ประจำโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต

ให้การยืนยันว่า นิ้วหัวแม่มือซ้าย

ของนายพิเชษฐ์ขาดตั้งแต่ข้อนิ้วที่ 2 จากปลายนิ้ว แต่มีข้อผิดสังเกตบางประการ ขอให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำแพทย์นิติเวชอีกครั้งเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง

ต่อมาพนักงานสอบสวนกองปราบฯเข้าสอบปากคำ

พ.ต.ท.นพ.พัฒนา กิจไกรลาศ นายแพทย์ (สบ. 3) กลุ่มงานนิติพยาธิ สถาบันนิติเวชวิทยา พร้อมนำภาพถ่ายนิ้วมือและฝ่ามือของนายพิเชษฐ์ให้ดูในฐานะผู้เชี่ยวชาญ โดย พ.ต.ท.นพ.พัฒนาให้การว่า

นิ้วหัวแม่มือที่เห็นนั้นไม่สามารถถูกตัดกระเด็น

ออกจากกันได้ในครั้งเดียว และไม่น่าจะขาดออกจากกันในช่วงเวลาที่คมมีดตัดในครั้งแรกเพราะมีเนื้อและหนังบางส่วนยังเหลือติดกันอยู่ ดังนั้น การหลุดแยกจากกันของนิ้ว จะต้องเกิดจากแรงที่มากระทำหลังถูกคมมีดตัดครั้งแรกแล้ว

การสืบสวนของ กก.5 บก.ป. ยังพบด้วยว่านายพิเชษฐ์

เคยทำงานเป็นตัวแทนขายประกันชีวิตหลายแห่ง รู้วิธีการรวมทั้งขั้นตอนการขอรับสินไหมทดแทนเป็นอย่างดี จึงเป็นมูลเหตุที่สนับสนุนการกระทำผิด เมื่อตรวจสอบข้อมูลการทำประกันชีวิตของนายพิเชษฐ์ยังพบว่า

มีการทำประกันแตกต่างจากคนปกติ

โดยนายพิเชษฐ์ทำประกันชีวิตตัวเองไว้มากกว่า 30 บริษัท หากเสียชีวิตไป ผู้ที่รับผลประโยชน์จะได้รับเงินชดเชยรวมสูงถึง 67 ล้านบาทแต่กรณีนี้เป็นกรณีที่สูญเสียอวัยวะ นายพิเชษฐ์จะได้รับเงิน 25% ของกรมธรรม์ คือประมาณ 16 ล้านบาท

ภายหลังสืบสวนและสอบปากคำพยานผู้เชี่ยวชาญ

เชื่อได้ว่าการติดต่อขอรับเงินสินไหมทดแทนของนายพิเชษฐ์ น่าจะเป็นการกระทำความผิด กองปราบปรามจึงมีคำสั่งที่ 82/2550 ลงวันที่ 26 เม.ย. 2550 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเข้ามาทำคดีดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 13 นาย มี พ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ผกก.5 บก.ป. เป็นหัวหน้า

ทั้งนี้ ได้รายงานการสืบสวนเป็นที่เรียบร้อย

โดยรักษาการ ผบก.ป. มีคำสั่งให้ติดตามบริษัทประกันภัยทั้งหมดที่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นทราบว่ามีประมาณ 30 บริษัท เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพิเชษฐ์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ รักษาการ

ผบก.ป. กล่าวว่า ได้นัดให้บริษัทประกันภัยที่ได้รับความเสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษในวันที่ 21 พ.ค. ทั้งนี้ การสืบสวนได้ใช้ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และพฤติกรรมศาสตร์ในการสืบสวนสอบสวน

ซึ่งตนจะรื้อฟื้นการสืบสวนในเชิงพฤติกรรมของมนุษย์

ขึ้นอีกครั้งที่กองปราบปราม เนื่องจากคดีอาชญากรรมในปัจจุบันได้เปลี่ยน แปลงไปมาก อาจจะต้องนำทฤษฎีบางอย่างที่เป็นที่ยอมรับของตำรวจทั่วโลกมาใช้ในการทำคดีของตำรวจไทยด้วย

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ