ชิงเงิน2.5ล้านห้องน้ำธกส. เหยื่อสาวอ้างโจรสั่งแทงตัว

นายหน้าเงินกู้อ้างถูกมือมืดจ้วงแทงในห้องน้ำภายในธนาคาร ระหว่างรอหุ้นส่วนที่นำเงินไปปล่อยกู้

นำเงินต้นและดอก 2.5 ล้านบาทมาคืน

ตำรวจชี้มีพิรุธไม่เชื่อถูกคนร้ายชิงเงิน คาดอำพรางคดีหวังฮุบเงิน หลังตรวจสอบหุ้นส่วนที่อ้างนัดนำเงินมาจ่ายไม่มีตัวตนในทะเบียนราษฎร์

เหตุหญิงนายหน้าเงินกู้นอกระบบถูกแทงในห้องน้ำ

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ต.ท.วิโรจน์ สีน้ำเงิน สารวัตรเวร สภ.อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายชิงทรัพย์ในห้องน้ำ

อาคารหน่วย กิ่ง อ.โนนศิลา ภายในธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาบ้านไผ่ โดยพลเมืองดีนำคนเจ็บส่ง รพ.บ้านไผ่แล้ว

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณห้องน้ำ

ซึ่งมีห้องเดียวแยกห่างออกไปจากอาคาร พบมีดปอกผลไม้ปลายแหลมยาว 6 นิ้วตกอยู่ ใกล้กันพบกระเป๋าสะพายแบบหญิงมีร่องรอยถูกรื้อค้น ส่วนทรัพย์สินที่หายไป

ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีอะไรบ้าง

ส่วนคนเจ็บทราบชื่อคือ นางนุจนีย์ วิไลรัตน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 4 บ้านโนนรัง กิ่ง อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น

สอบถาม นายบุญศรี จันทร์เดิน อายุ 46 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 7 บ้านหลุบดา ต.โนนศิลา กิ่ง อ.โนนศิลา ชาวบ้านที่ไปใช้บริการ ธ.ก.ส.และเป็นเพื่อนบ้านผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า นางนุจนีย์ เป็นนายหน้าปล่อยเงินกู้ร่วมกับนางกัญนิพา ไม่ทราบนามสกุล

และทราบว่าได้นัดหมายมาพบกันที่ ธ.ก.ส.

ขณะเกิดเหตุเห็นนางนุจนีย์ เดินไปเข้าห้องน้ำเพียงคนเดียว หลังจากนั้นเห็นผู้หญิงสวมเสื้อยืดสีดำเดินไปทิศทางนั้น ต่อมาไม่นานได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงวิ่งไปดูพบนางนุจนีย์ถูกแทงนอนอยู่ที่พื้นห้องน้ำ จึงรีบช่วยเหลือ

นางมะลิวรรณ ชูสุวรรณ ผจก.ธ.ก.ส.สาขาบ้านไผ่

กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดให้บริการมา ช่วงเช้ายังไม่มีลูกค้ารายใดเข้ามาเบิกเงินถึง 2.5 ล้านบาท และจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดก็ไม่พบว่านางนุจนีย์ เดินเข้ามาภายในธนาคาร

อาจจะยังอยู่ในพื้นที่รอบนอกของธนาคาร

และบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นอาคารหน่วย กิ่ง อ.โนนศิลา เป็นที่ทำการบริการประชาชน และชั้น 2 เป็นห้องประชุมของ ธ.ก.ส. ซึ่งไม่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดติดอยู่ จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ารูปร่างลักษณะของคนร้ายเป็นอย่างไร

ต่อมาตำรวจได้ติดต่อสอบถาม

นางระมัย ศรีมงคล อายุ 48 ปี อาจารย์โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น หุ้นส่วนเงินกู้ของนางนุจนีย์ ทราบว่า ได้ร่วมกันทั้งหมด 3 คน คือ นางระมัยเป็นเจ้าของเงิน นางนุจนีย์เป็นคนประสานติดต่อ และนางกัญนิพา

ซึ่งเป็นคนนำเงินไปปล่อยกู้ให้ชาวบ้าน

ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาท เมื่อถึงเวลานางนุจนีย์จะรับเงินต้นและดอกเบี้ยจากนางกัญนิพามาส่งมอบให้นางระมัย แล้วแบ่งค่าตอบแทนกันไป ซึ่งทำร่วมกันเช่นนี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหาเรื่องถูกฉ้อโกงมาก่อน

นางระมัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม

ที่ผ่านมา ให้นางนุจนีย์ไปรับเงินจำนวน 2.5 ล้านบาท จากนางกัญนิพา มาให้ แต่ได้รับแจ้งว่า นางกัญนิพาเลื่อนนัดเป็นวันที่ 15 พฤษภาคม พอถึงเวลานางนุจนีย์บอกว่า

นางกัญนิพาขอเลื่อนนัดอีก

เป็นวันที่ 18 พฤษภาคม กระทั่งมาทราบว่านางนุจนีย์ถูกคนร้ายแทง แต่ไม่ทราบว่าจะถูกชิงเงิน 2.5 ล้านบาทหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่านางกัญนิพานำเงินมาให้หรือยัง

ด้าน พ.ต.ท.ธวัชชัย กุงเป้า รอง ผกก.สภ.อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

กล่าวว่า สอบสวนทราบว่า หุ้นส่วนอีกคนชื่อนางกัญนิพา ราษฎร ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งให้ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามตัว เบื้องต้นตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ นางนุจนีย์ไม่น่าจะมีเงินติดตัวจำนวน 2.5 ล้านบาทจริง

หรืออาจเป็นเรื่องหนี้สินที่นางนุจนีย์ติดตามทวงหนี้

ทำให้คนร้ายคิดจะเบี้ยวหนี้ จึงลงมือทำร้ายร่างกาย ซึ่งจากการสอบสวนนางนุจนีย์ พบว่าให้การวกวน บอกว่า หลังรับเงิน 2,530,000 บาท จากนางกัญนิพาแล้ว ได้เดินเข้าห้องน้ำ

จากนั้นคนร้ายสวมเสื้อสีดำ หมวกกันน็อคสีดำ

เข้ามาบังคับให้ใช้มีดแทงตัวเอง แล้วชิงเงินทั้งหมดไป แต่พอสอบสวนอีกครั้งระบุว่า คนร้ายสวมเสื้อสีขาว กางเกงสีดำ ซึ่งต้องสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง

พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น

กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า นางนุจนีย์ เดินเข้าห้องน้ำคนเดียว ฉะนั้นคดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่มีความผิดปกติอย่างมาก เพราะไม่มีใครเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับนางนุจนีย์เลย

และบาดแผลที่ถูกทำร้ายก็ไม่มากนัก

หากต้องการเงินไม่จำเป็นต้องทำร้ายร่างกายก็ได้ เพราะเป็นผู้หญิงอยู่ลำพังคนเดียว และที่เก็บเงินก็เป็นกระเป๋าสะพายข้างธรรมดา ดังนั้นเรื่องนี้จะมีการสอบสวนโดยละเอียด และเชื่อว่าวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ จะทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด ส่วนกรณีที่นางระมัย ปล่อยเงินกู้นอกระบบ จะต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

ส่วนอาการบาดเจ็บของนางนุจนีย์ น.พ.ประยูร โกวิทย์

ผอ.รพ.บ้านไผ่ กล่าวว่า คนไข้รู้สึกตัวดี บาดแผลมี 2 แห่ง บริเวณหน้าท้องข้างขวาใกล้กับสะดือ ความลึกประมาณ 2 ซม. และจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียดไม่พบว่าบาดแผลจะไปถึงลำไส้ หรือทำให้เลือดตกในอวัยวะภายใน ขณะนี้อาการปลอดภัยและพักรักษาตัวที่ห้องพักผู้ป่วยธรรมดาแล้ว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก