ออกหมายจับเพิ่ม 5 คนร้ายคดีระเบิดทหาร-ยิงถล่มป้อมยาม

หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร เสียชีวิต 7 นาย ในพื้นที่ ต.บองอ อ.ระแงะ เมื่อวันที่ 9 พ.ค.และยิงถล่มป้อมยามในเขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อมยาม ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เรียกพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ และเปิดดูโทรทัศน์วงจรปิดตามถนนต่างๆ ในเขตเทศบาลตันหยงมัส อ.ระแงะ

โดยเฉพาะในรัศมีจุดเกิดเหตุคนร้ายจำนวน 6 คน ใช้อาวุธสงครามและรถยนต์กระบะเป็นพาหนะบุกถล่มยิงใส่ป้อมยามดังกล่าว โดยมีคนร้ายอีก 2 ชุด คอยคุมสถานการณ์อยู่บนถนนในเขตเทศบาล

ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก เพื่อสกัดกั้นเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนพากันหลบหนีหลังภารกิจเสร็จสิ้น< b>จนสามารถออกหมายจับได้ทันที รวม 4 ราย แล้ว

จากการสืบสวนสอบสวนและขยายผลเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวได้เพิ่มอีกในวันนี้ จำนวน 5 ราย รวมเป็น 9 ราย โดยแยกเป็นผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 7 นาย ที่บ้านบองอ ต.บองอ อ.ระแงะ 4 ราย

และคดียิงถล่มเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมยามอีก 5 ราย ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ยังมีส่วนพัวพันกันทั้ง 2 คดีอีกด้วย จึงถือเป็นผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุในคดีเดียวกันได้ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ร่วมก่อเหตุทั้ง 2 คดีที่เหลืออยู่ และยังหลบหนี จะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน และดีเอ็นเอจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

เพื่อรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งไปยังศาลจังหวัดนราธิวาส เพื่อขออนุมัติออกหมายจับต่อไป

ทางเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายตามเส้นทางต่างๆ พบว่า คนร้ายใช้ 2 เส้นทาง ในการหลบหนีคือ เส้นทางขึ้นไปยังเทือกเขาเมาะแต พื้นที่เชื่อมต่อไปยังพื้นที่เขตรอยต่อของ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และสามารถข้ามไปยังพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้

และเส้นทางขึ้นเทือกเขาสันกาลาคีรี ซึ่งมีพื้นที่รอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้านได้หลายพื้นที่ โดยเฉพาะรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย

ซึ่งมีพื้นที่ติดกับ อ.แว้ง อ.สุคิริน และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายทั้งหมดได้หลบหนีออกไปจากพื้นที่ อ.ระแงะ แล้ว

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ