บุกปล้นพ่อค้าปลายิงทิ้งสยอง ก่อนฉกจตุคามเกลี้ยง

3 คนร้ายสวมหมวกไอ้โม่งคลุมหน้า บุกปล้นบ้านพ่อค้าปลา แล้วใช้อาวุธปืนยิง

หลังเจ้าตัวต่อสู้จนดับสยอง พร้อมงฉก จตุคาม-พระเครื่องดัง" ไปยกพวง

(11พค.) เวลา 03.30 น. พ.ต.ท.อธิวุฒิ ไวยกาญจน์

สว.เวรสอบสวน สภ.อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์และฆ่าเจ้าทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 134/2 ม.8 ต.ฉวาง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชำนาญ แป้นนาบอน ผกก.สภ.องฉวาง และกำลังชุดสอบสืบสวน และหน่วยกู้ภัยฉวาง เข้าทำการตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุภายในห้องนอนบ้านเลขที่ดังกล่าว

พบศพนายถาวร เดชสถิตย์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 ม.1 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าบริเวณกกหูขวา 2 นัดกระสุนทะลุเบ้าตาซ้าย เลือดไหลชุ่มที่นอน โดยในที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้และรื้อค้นจนข้าวของกระจุยกระจาย

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าบ้านดังกล่าว

อาศัยอยู่ด้วยกันรวม 6 คน ประกอบธุรกิจค้าปลาสดในตลาด อ.ฉวางและใกล้เคียง ก่อนเกิดเหตุได้เปิดประตูบ้านไว้เพื่อให้คนในบ้านออกไปตลาด แต่ในขณะเดียวกันได้มีคนร้ายจำนวน 3 คนสวมหมวก

ไอ้โม่งคลุมหน้ามีอาวุธปืนครบมือ

วิ่งบุกเข้าไปในบ้านและใช้อาวุธปืนขู่บังคับให้บอกที่ซ่อนทรัพย์สิน แต่นายถาวรได้ฮึดสู้จึงถูกคนร้ายยิงจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนที่กลุ่มโจรจะรื้อค้นเอาทรัพย์สินไปประกอบด้วยเงินสด 10,000 บาท

กล้องวีดีโอ 1 ตัวมูลค่ากว่า 3 หมื่นบาท

สร้อยสแตนเลสห้อยพระเครื่องของผู้ตายที่แขวนอยู่กับหิ้งพระ 1 ชุด ประมาณ 5 องค์ รวมทั้งเหรียญจตุคามรามเทพ และเหรียญเกจิอาจารย์ชื่อดังเก่าแก่อีกหลายรุ่น ซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้

นอกจากนี้ยังมีสร้อยคอทองคำ

และเหรียญจตุคามรามเทพเลี่ยมทองน้ำหนักรวม 10 บาทที่คนร้ายไม่สามารถเอาไปได้ เนื่องจากถูกคนในบ้านเก็บซ่อนไว้ได้ทัน

พ.ต.ท.อธิวุฒิ ไวยกาญจน์

พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า พฤติการของคนร้ายเชื่อว่าประสงค์ต่อทรัพย์ และมีการเตรียมตัวมาก่อเหตุเป็นอย่างดี มีการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายเป็นอย่างดี และรู้ช่วงเวลาชัดเจน

จึงอาศัยช่วงจังหวะที่ผู้เสียหายเปิดประตูบ้าน

เพื่อไปขายของวิ่งสวนเข้าไปใช้อาวุธปืนบังคับ แต่เข้าใจว่าผู้ตายได้พยายามต่อสู้ขัดขืนจึงถูกยิงจนเสียชีวิต ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบประจักษ์พยานที่เหลือในบ้าน 5 ปากเพื่อหาลักษณะเบาะแสของคนร้ายและจะได้ติดตามสืบสวนหาตัวมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก