พายุดีเปรสชั่นช่วยไม่ได้ ผจญภัยแล้งแล้ว31จว.

"ดีเปรสชั่นทำแล้งแล้ว 31 จว."



วันนี้ (7 พ.ค.) นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่า

ขณะนี้มีพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งรวม 31 จังหวัด

232 อำเภอ 27 กิ่งอำเภอ โดยแยกเป็นภาคเหนือ 10 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด ภาคกลาง 3 จังหวัด และภาคตะวันออก 2 จังหวัด ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 2,141,931 คน 672,825 ครัวเรือน

พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบจำนวน 127,913 ไร่

โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ การปรับปรุงซ่อมแซมและสร้างภาชนะเก็บน้ำ และการแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ ทางศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

นายสมชัย เรืองสุทธินฤภาพ

ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบน เปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุดีเปรสชันที่ทำให้ฝนตกหลายพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงต้องหยุดภารกิจทำฝนหลวง เพราะสภาพท้องฟ้าปิด

แต่หลังจากพายุสลายตัวแล้วจะเริ่มภารกิจตามปกติ

เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้ง รวมทั้งเพิ่มปริมาณน้ำให้กับเขื่อน 4 แห่ง ซึ่งเหลือไม่ถึงครึ่งของความจุ ได้แก่ เขื่อนแม่กวง และเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง และเขื่อนภูมิพล จ.ตาก



ด้านนายธาดา สุขปุณพันธ์

ผู้อำนวยการศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องในระยะ 2-3 วันที่ผ่านมา ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำให้กับเขื่อนแม่งัดฯ และเขื่อนแม่กวงเพียงเล็กน้อย

ซึ่งยังต้องเก็บกักน้ำไว้ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร

ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่คาดว่าจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง จากนั้นเดือนกรกฎาคมจะเริ่มพร่องน้ำเพื่อเตรียมรับมรสุม ทั้งนี้ เขื่อนและอ่างเก็บน้ำใน จ.เชียงใหม่ ยังมีความมั่นคงแข็งแรง พร้อมรองรับปริมาณน้ำช่วงฤดูฝนนี้

ส่วนที่ จ.พิษณุโลก ในวันนี้

ฝนยังตกต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประกาศห้ามประชาชนและนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกในระยะนี้ เพราะเกรงอันตราย อาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือดินโคลนถล่ม

เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนสะสมบนเทือกเขาแถบ

อ.นครไทย และ อ.ชาติตระการ ซึ่งอาจไหลหลากลงมาตามแหล่งน้ำตกต่างๆ นอกจากนี้ ยังเตือนประชาชนพื้นที่ตามเทือกเขาร่องกล้าและเทือกเขาแสลงหลวง ให้ระมัดระวังด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากฝนที่ตกลงมาติดต่อกันนานหลายวัน

ทำให้พื้นที่ข้าวนาปรังหลายแห่งเกิดน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะพื้นที่ อ.บ้านตาก จ.ตาก น้ำฝนจากเทือกถนนธงชัยไหลบ่าเข้าลงขุนห้วยแม่สลิด และขุนห้วยตาก ทะลักเข้าท่วมขังพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังใน ต.เกาะตะเภา ต.ท้องฟ้า ต.ตากตก

และ ต.ตากออก รวม 4 ตำบล

ส่งผลให้นาข้าวได้รับความเสียหายแล้วกว่า 100 ไร่ อย่างไรก็ตามเกษตรกรในพื้นที่ อ.บ้านตาก เริ่มทยอยเข้าไปเก็บเกี่ยวผลผลิตกันบ้างแล้ว โดยหวังว่าจะยังคงเหลือส่วนที่ยังใช้ได้ส่วนหนึ่ง นำไปผึ่งแสงแดด เพื่อไล่ความชื้น และนำไปใช้สำหรับเลี้ยงสัตว์ หากข้าวทั้งหมดไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์