เมสเซ็นเจอร์รับแล้ว กุเรื่องปล้นมอบตัว-คดี8แสน

มอบตัวแล้วเมสเซ็นเจอร์บริษัทพริ้นติ้ง สารภาพเป็นคนอมเงินไว้เอง หลังเข้าแจ้งความถูกคนร้ายปล้นเงินบริษัทเกือบ 8 แสนบาท

ระหว่างทางนำเงินไปเข้าแบงก์

โดยไปยอมรับกับเจ้าของบริษัทก่อน แล้วพากันมาหาตำรวจ สารภาพกุเรื่องทั้งหมดเพราะหวังเงิน และใช้ไปแล้วส่วนหนึ่งนำไปใช้หนี้บัตรอิออนและไถ่ที่ดินให้แม่ ส่วนที่เหลืออีก 6 แสนมอบคืนนายจ้างไปแล้ว

เจ้าของห้างสุดใจป้ำยืนยันไม่เอาผิด

และรับเข้าทำงานเหมือนเดิม ตร.ทำได้แค่แจ้งข้อหาหนุ่มส่งเอกสารแจ้งความเท็จ

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

รับแจ้งจากนายแรยา แวดอเลาะ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 ถ.โรงเหล้า ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี พนักงานส่งเอกสารหรือเมสเซ็นเจอร์ บริษัทอัลนะห์ดี พริ้นติ้ง จำกัด เลขที่ 32 หมู่ 2 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ว่า

ถูกคนร้ายปล้นทรัพย์เงินสดจำนวน 780,000 บาท

ของบริษัทซึ่งเบิกมาจากธนาคารกรุงเทพ สาขานพวงศ์-ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จะไปเข้าบัญชีอีกธนาคารหนึ่ง ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ซูซูกิ สีแดง หมายเลขทะเบียน กทน 410 กทม.

ออกจากธนาคารกรุงเทพ

จะเลี้ยวซ้ายออกจากหน้าธนาคารโดยชะลอรถ ก็มีชายใส่ชุดดำสวมหมวกกันน็อก กระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถ ใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้ออกรถไป จนถึงถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก

มุ่งหน้าถนนปทุมธานี-เสนา หมู่ 2 ต.คลองควาย อ.สามโคก

คนร้ายจึงกระชากกระเป๋าใส่เงินกระโดดลงจากรถ แล้วถีบรถตกลงในป่าหญ้าข้างทาง ส่วนคนร้ายหลบหนีไป อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบพิรุธในคำให้การของนายแรยาหลายอย่าง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.00 น.

วันที่ 4 พ.ค. ที่สภ.อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี นายแรยาเดินทางมาเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.อ.ลาดหลุมแก้ว พร้อมด้วยนายฟาอิส อัลนะห์ดี อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 2 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว

เจ้าของบริษัทอัลนะห์ดี พริ้นติ้ง จำกัด

โดยนายแรยากล่าวว่า ขอยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นและเข้าแจ้งความเป็นความเท็จ ตนเป็นคนนำเงินดังกล่าวไปเอง แต่หลังจากทำลงไปก็สำนึกตัวว่าทำความผิด จึงติดต่อไปที่นายฟาอิสนายห้าง สารภาพเรื่องทั้งหมดและเข้ามอบตัวกับตำรวจในวันนี้

นายแรยาให้การว่า สำหรับเงินทั้งหมด

มีจำนวน 780,000 บาท ตนนำไปใช้จำนวน 180,000 บาท โดยใช้หนี้บัตรอิออน 140,000 บาท อีกส่วนหนึ่งนำไปไถ่ที่ดินบ้านแม่ที่จ.ปัตตานี ที่เหลืออีก 600,000 บาท นำไปฝากเพื่อนไว้และไปนำมามอบให้นายฟาอิสแล้ว เพราะสำนึกผิดและนึกถึงความดีของนายฟาอิสที่เลี้ยงดูครอบครัวของตนมาโดยตลอด

ด้านนายฟาอิสกล่าวว่า

เรื่องทั้งหมดเมื่อนายแรยาสำนึกผิดและนำเงินที่เหลือมามอบให้ ก็ไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด พร้อมจะให้อภัยเพราะที่ผ่านมาก็เป็นคนทำงานดีมาตลอด หลังจากนี้จะให้กลับมาทำงานที่บริษัทเหมือนเดิม

พ.ต.อ.ประภาส กล่าวว่า

กรณีที่นายแวยาอ้างว่าถูกคนร้ายชิงทรัพย์ จากการสืบสวนได้หารายละเอียดจากกล้อง ตามเส้นทางของถนนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ก็พบว่านายแรยามาคนเดียว พนักงานสอบสวนจึงเตรียมเรียกตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง

แต่ปรากฏว่านายแรยาเข้ามาพบตำรวจก่อน

สำหรับคดีนี้นายฟาอีสไม่ได้แจ้งความ จึงถือว่าไม่มีเจ้าทุกข์ไม่สามารถดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ได้ อย่างไรก็ตามตำรวจได้แจ้งข้อหานายแรยาว่าแจ้งความเท็จ ซึ่งนายฟาอิสได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวไป

รายงานข่าวแจ้งว่า การที่นายแรยาเข้ามอบตัวครั้งนี้

เพราะพบว่าตำรวจกำลังจะออกหมายเรียก เนื่องจากหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายแรยาอีกครั้ง และซักถามรายละเอียดตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุไปจนถึงถูกคนร้ายชิงเงินหลบหนีไป

ซึ่งคำให้การของนายแรยานอกจาก

จะไม่สอดคล้องกับเหตุการณ์ต่างๆ แล้ว ยังพบว่าเวลาจนมุมคำถามก็มักจะเลี่ยงพูดเป็นภาษายาวี เพื่อกลบเกลื่อน ทำให้ตำรวจเชื่อว่าเหตุการณ์ที่ถูกปล้นชิงทรัพย์ไม่เป็นความจริง เป็นเรื่องที่กุขึ้นเพื่อหวังเงินจำนวนดังกล่าว แต่เมื่อคดีไม่มีเจ้าทุกข์ จึงได้แต่ดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด