ดับปริศนา! ผอ.เอสซี แอสเสท สงสัยฆาตกรรม!?

"พบ กลายเป็นศพ ปริศนา ในศูนย์บริการโลหิต สภากาชาด"



เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ต.ณพงศ์ กปิตถัย พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.ปทุมวัน

รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตภายในศูนย์บริการโลหิต

สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ แขวงและเขตปทุมวัน จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจาก ร.พ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นจุดพักขยะด้านหลัง

เจ้าหน้าที่พบศพนายวิทยา ภาณุมาภรณ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 2 ซอยจอมทอง 3 แขวงและเขตจอมทอง กทม. ผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบภายในบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด

ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่ริมกำแพง สวมเสื้อยืดสีขาว ทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเขียวขี้ม้าลายทางสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำเงิน สวมรองเท้าหนังสีดำ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1-2 วัน

จากการตรวจสอบภายในตัวผู้ตายพบ

สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ แหวนเพชร 1 วง นาฬิกาข้อมือยี่ห้อไซโก้ 1 เรือน เช็คเงินสดธนาคารกรุงเทพจำนวนเงิน 1 แสนบาท 1 ใบ แว่นตา 1 อัน ตลับยา 1 อัน ร่มสีน้ำตาล 1 คัน ผ้าเช็ดหน้า 1 ผืน เงินสด 50 บาท จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน



พ.ต.ท.นพ.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา แพทย์นิติเวช

กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพศพผู้ตาย พบเพียงบริเวณใบหน้าบวมช้ำ แต่อาจจะเป็นบาดแผลที่เกิดหลังเสียชีวิต ส่วนตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย อย่างไรก็ตามจะต้องส่งศพไปชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชอีกครั้ง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า วานนี้

(3 พ.ค.) นางภัทรวรรณ ภาณุมาภรณ์ อายุ 42 ปี ภรรยาผู้ตายเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน ว่า ผู้ตายได้หายตัวไปตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 2 พ.ค.โดยผู้ตายทำงานอยู่ที่อาคารชินวัตร 3 และก่อนเกิดเหตุ

ผู้ตายได้ไปทำงานตามปกติ

จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น.ผู้ตายได้โทรกลับมาบอกลูกว่า จะกลับมากินข้าวที่บ้าน แต่จะแวะไปทำบุญที่สภากาชาดไทยก่อน จากนั้นก็หายตัวไป ต่อมาญาติได้ไปตรวจสอบก็พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วิช สีบรอนซ์เงิน

หมายเลขทะเบียน ษย-5553 กทม.

ของผู้ตายจอดอยู่ในลานจอดรถของที่เกิดเหตุ ภายในรถมีกระเป๋าสตางค์ กับโทรศัพท์มือถืออยู่ในรถ แต่ไม่พบผู้ตาย โดยผู้ตายมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับการได้ยินเสียงแว่วในหูอยู่ประจำ และรักษามาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว

ต่อมา ญาติผู้ตายประมาณ 10 คน

เดินทางมาดูศพผู้ตายที่เกิดเหตุ ซึ่งทั้งหมดออยู่ในอาการโศกเศร้าร่ำไห้ โดยนางภัทรวรรณ ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า ตนเองยังติดใจในสาเหตุการตายของสามีอยู่ เพราะอาจจะถูกทำร้ายก็เป็นได้ อีกทั้งจุดที่พบศพของสามี



และจุดที่พบรถจอดนั้นอยู่ห่างกันถึง 200-300 เมตร

ซึ่งสามีตนก็ไม่น่าจะไปทำอะไรในจุดเกิดเหตุเพราะเป็นที่เปลี่ยวและมืด แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ตนเองมาเอะใจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพราะสามีได้เดินเข้ามากอด แล้วพูดจาเหมือนปรับทุกข์กับตนว่า ต่อไปนี้ตนต้องเป็นเสาหลักของครอบครัวในการเลี้ยงลูก

นางภัทรวรรณ กล่าวต่อว่า

ปกติแล้วสามีเป็นคนดีมาก ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เลิกงานก็จะกลับบ้านตรงเวลาตลอด ส่วนเรื่องอาการป่วยของสามีนั้นเป็นมา 2 ปี แล้ว โดยสามีมักจะมีอาการหูแว่วได้ยินเสียงวี๊ดในหูตลอดเวลา รักษาอย่างไรก็ไม่หาย

ซึ่งตอนหลังมีเพื่อนมาแนะนำให้สามี

ลองรักษาด้วยวิธีการฉีดสเตมเซลล์ โดยลองฉีดมาแล้ว 3 ครั้ง ทุกครั้งก็จะจ่ายให้แพทย์ประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งเช็คเงินสดจำนวน 1 แสนบาทที่พบในตัวสามีนั้น ก็เป็นเงินที่จะเตรียมไว้จ่ายให้แพทย์

ต่อมา พ.ต.ท.อาคม จันทนลาช

รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเชิญตัวนายยุรนันท์ คำไหล อายุ 20 ปี รปภ.ของสถานเสาวภา ซึ่งอยู่ติดกับที่เกิดเหตุ และเป็นผู้พบผู้ตายในวันที่ 2 พ.ค.มาสอบปากคำที่สน.ปทุมวัน

โดยเบื้องต้น ให้การว่า ในวันที่ 2 พ.ค.ผ่านมา

ขณะที่เข้าเวรอยู่ประมาณ 18.00 น. ก็มีคนมาบอกตนว่า มีคนเข้าไปยุ่งกับกรงงู ตนจึงรีบไปดูก็พบผู้ตายกำลังใช้ไม้แหย่เข้าไปในกรงงูที่ปิดแล้ว จึงเข้าไปห้าม พร้อมกับถามผู้ตายว่าเข้ามาทำอะไร โดยผู้ตายบอกว่า เข้ามารอญาติ



นายยุรนันท์ กล่าวต่อว่า

ตนจึงบอกผู้ตายว่า มารอญาติตรงนี้ไม่ได้ ผู้ตายจึงถามหาทางไปห้องน้ำ ตนจึงเดินพาไป เมื่อผู้ตายเข้าห้องน้ำเสร็จ ก็ออกมาถามตนว่า จุดบริจาคเลือดของสภากาชาดไทยไปทางไหน

เมื่อตนบอกทางไปผู้ตายก็เดินจากไปทันที

จนกระทั่งวานนี้ (3 พ.ค.) ได้มีญาติผู้ตายนำรูปของผู้ตายมาถามหาตนจึงบอกไปว่าพบผู้ตายในวันที่ 2 พ.ค.เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะต้องรอผล

การผ่าชันสูตรศพของนายวิทยา และเรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งว่าเกิดจากโรคประจำตัว อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรมต่อไป



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์