เพลิงลุกไหม้ตลาดนัดสวนจตุจักร เสียหาย 10 คูหา

เพลิงไหม้ในตลาดนัดจตุจักร เสียหาย 10 คูหา คาด ไฟฟ้าลัดวงจร วอนผู้ประกอบการอย่าต่อสายไฟกันเอง

(2พ.ค.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ในฐานะกำกับดูแลหน่วยงานการพาณิชย์ กทม. เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ตลาดนัดจตุจักร ว่า จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ทราบว่า

เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.25 น.

โดยในวันนี้เป็นวันหยุดไม่มีผู้ค้า แต่เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยได้เดินสำรวจตลาดตามปกติแล้วเผอิญเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากร้านค้าล็อคที่ 285 โครงการที่ 24 ระหว่างซอย 4-5

เจ้าหน้าที่จึงได้นำถังดับเพลิงที่มีอยู่

ภายในตลาดไปดับเพลิง แต่เนื่องจากร้านค้าดังกล่าวเป็นร้านขายเสื้อผ้าจึงทำให้เพลิงลุกลามไปติดร้านข้างเคียงอย่างรวดเร็ว จึงได้ประสานไปยังสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(สปภ.)

ส่งรถดับเพลิงมายังที่เกิดเหตุ 6-7 คัน

ใช้เวลาดับเพลิงทั้งสิ้น 20 นาที เพลิงจึงสงบ หลังเข้าตรวจสอบพบร้านค้าถูกเพลิงเผาผลาญเสียหายไปทั้งสิ้น 10 คูหา พื้นที่ประมาณ 50 ตารางเมตร อย่างไรก็ตาม

ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้

เนื่องจากยังไม่สามารถติดต่อกับเจ้าของแผงได้ เพราะเป็นวันหยุดอย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้ ผอ.ตลาดนัด ทำการติดต่อเจ้าของร้านค้าเพื่อเข้ามาประเมินความเสียหาย

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้

ในครั้งนี้ ต้องรอให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบก่อน แต่ในเบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นเพราะไฟฟ้าลัดวงจร คงไม่ใช่การวางเพลิงแต่อย่างใด

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า

ในสัปดาห์นี้ตลาดนัดจตุจักร ยังจะเปิดทำการค้าตามปกติ โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นช่องทางเดินในซอย 24-25 ของโครงการที่ 24 ที่ถูกเพลิงไหม้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าพื้นที่เพื่อรอการประเมินความมั่นคงโครงสร้างแผงค้า

ซึ่งอาจจะต้องมีการก่อสร้างแผงค้าใหม่ทั้งหมด

โดยในระหว่างนี้กองอำนวยการตลาดนัดจตุจักร จะจัดแผงค้าที่ใหม่ให้ขายเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดนัดจตุจักรมีระบบป้องกันเพลิงไหม้อยู่แล้ว คือ มีจุดจ่ายน้ำประปาหัวแดง 8 จุด ตู้ดับเพลิง 9 แห่ง

แต่ในอนาคตจะเพิ่มให้มากขึ้น

รวมทั้งมีรถดับเพลิงจอดประจำการภายในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งตนจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้าติดตั้งเซฟทีคัตภายในแผงค้าให้มากขึ้น และขอความร่วมมือผู้ค้าอย่าต่อสายไฟกันเอง เพราะจะส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ได้ง่ายขึ้น

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก