สาวใหญ่แขวนจาตุคามฉกทอง ร้านทองห้างบิ๊กซีหนีลอยนวล

สาวใหญ่ออกอุบายลวงฉกทองคำในร้านขายทองห้างฯบิ๊กซี แต่โชคดีร้านแรกไหวตัวทัน

ก่อนไปลวงร้านใกล้กันได้ทองสำเร็จหนีลอยนวล

ตร.เผย ดูกล้องวงจรปิด คนร้ายเป็นหญิงกลางคนแขวนจาตุคาม เชื่อเป็นคนเดิมที่เคยฉกทองไปแล้ว 2 เดือนก่อน ส่วนร้านทองตั้งราง วัลผู้ใดแจ้งเบาะแสคนร้ายในภาพ วงจรปิดได้ให้ 5,000 บาท

(1พค.) เวลา 12.30 น. ร.ต.ท.บุญญศักดิ์ ติ๊บมา

พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองนครปฐม เปิดเผยว่า เกิดเหตุลักทรัพย์สร้อยคอทอง คำ บนห้างสรรพสิค้า บิ๊กซี ซูปเปอร์เซ็นเตอร์ ต.ห้วยจรเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

อยู่ภายในร้านขายทองคำห้างทองเยาวราช

กรุงเทพฯ สาขาบิ๊กซี นครปฐม โดยได้ทำการตรวจสอบจากกล้องทีวีวงจรปิด พบคนร้ายเป็นหญิงวัยกลางคน แต่งตัวดี ที่คอแขวนจตุคาม-รามเทพ ทำทีเป็นขอซื้อทอง ก่อนหลอกคุยกับพนักงานจนหลงกลฉกเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ออกจากร้านไป

นายทรงกรด หมื่นไชยวงค์ อายุ 25 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 2 ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงราย เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.30 น.มีพนักงานขายอยู่ในร้านรวม 4 คน ขณะนั้นได้มีหญิงวัยกลางคน อายุประมาณ 38 ปี

สวมเสื้อแขนกุดสีขาว สวมกางเกงขายาวสีดำ

สะพายกระเป๋าสีขาว ที่คอแขวนองค์จตุคาม-รามเทพ มาขอซื้อสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น โดยให้พนักงานหยิบออกมาให้ดูครั้งแรกจำนวน 3 เส้น แต่ยังไม่ถูกใจ จึงให้พนักงานงานหยิบออกมาดูอีก 1 เส้น

และทำทีเป็นเลือกลายและต่อราคา

และใช้ช่วงที่พนักงานเผลอหยิบเครื่องคิดเลขมาคิดราคาให้อยู่นั้น คนร้ายก็ใช้วิธีเอาหลังมือข้างซ้ายบังสร้อยคอทองคำไว้ 1 เส้น และทำทีเป็นคุยเรื่องการใช้บัตรเครดิตรูดซื้อและคุยเรื่องต่อรองราคา เพื่อเป็นหันเหความสนใจของพนักงาน

ในระหว่างการคุยอยู่นั้น

คนร้ายก็จะใช้วิธีค่อยๆเลื่อนมือที่บังทองและค่อยๆ เขยิบออกมาเรื่อยๆ ก่อนที่จะอาศัยจังหวะเอามือขวามาประกบมือซ้ายแล้วรวบเอาสร้อยใส่ไว้ในอุ้งมือ และเมื่อต่อรองราคาไม่ได้ตามที่ต้องการก็เดินออกจากร้านไป

โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นคนร้ายเอาทองไป

จนกระทั่งมาตรวจเช็คทองจึงรู้ว่าหายไป ทางร้านจึงมาเปิดกล้องทีวีวงจรปิดดูจึงพบว่าที่แท้คนร้ายก็คือสาววัยกลางคนคนนี้เอง

นางบุญศรี คำพันธ์ อายุ 32 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 258 หมู่บ้านถมทอง ต.ห้วยจรเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม ผู้จัดการร้านห้างทองเยาวราช กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า คนร้ายดังกล่าวนี้แต่งตัวคล้ายคนมีฐานะ ลักษณะการพูดการจาช้าและเบา

ไม่มีลักษณะของการเป็นโจร

แต่กลับกลายเป็นมืออาชีพ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนยังได้ทราบมาว่าคนร้ายคนนี้ได้มีการแวะไปที่ร้านทอง ห้างทองเยาวราชมังกรคู่ ซึ่งอยู่ถัดจากร้านตนไปเล็กน้อยและพยายามที่จะลักเอาสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาทไป แต่พนักงานเขาไหวตัวทันก่อนคนร้ายจึงเปลี่ยนใจและมาก่อเหตุที่ร้านตนแทน

น.ส.ทัศนีย์ เมธาวัฒนสิทธิ์ อายุ 30 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 1/4 หมู่ 8 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.นครปฐม พนักงานขายทอง ร้านห้างทองเยาวราชมังกรคู่ สาขาบิ๊กซี นครปฐม บอกว่า คนร้ายคนดังกล่าวก่อนที่จะไปก่อเหตุ

ได้มาที่ร้านที่ตนกำลังขายทอง

อยู่โดยทำทีเป็นขอดูสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท ซึ่งขอดูลายสร้อยจำนวน 4 เส้น แต่ยังไม่ถูกใจ จึงให้ตนหยิบให้ดูอีกเส้นหนึ่ง พอตนหันไปหยิบสร้อย คนร้ายก็ได้ใช้มือซ้ายกำสร้อยไว้ ตนหัสมาคุยคนร้ายก็ทำทีเป็นต่อรองราคา แต่เผอิญตนเห็นว่าคนร้ายกำมืออยู่ จึงเริ่มสงสัย

จนกระทั่งเห็นว่ามีสร้อยข้อมือทองคำ

โผล่ออกมาจากอุ้งมือเล็กน้อย จึงรู้ในทันทีเลยว่าเป็นคนร้ายแน่ จึงพยายามมองที่มือของคนร้ายโดยไม่ละสายตา คนร้ายก็พยายามหลอกคุยตนก็เฉยๆ จนคนร้ายเห็นว่าตนเริ่มรู้และมองมือที่กำสร้อยอยู่

คนร้ายจึงปล่อยสร้อยวางลงบนตู้

และบอกว่าไม่ถูกใจไปดูที่อื่นดีกว่า และก็เดินออกจากร้านไป ซึ่งมารู้อีกทีก็รู้ว่ามีการฉกทองที่ร้านใกล้ๆกันแล้ว

ร.ต.ท.บุญญศักดิ์ ติ๊บมา พนักงานสอบสวน

สภ.อ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า จากการสอบสวนและดูภาพจากล้องวงจรปิด พบว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกันกับที่เมื่อสองเดือนก่อนเคยมาฉกทองไปจากร้านห้างทองเยาวราชมังกรคู่ บนห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี นครปฐมมาแล้วครั้งหนึ่ง

ซึ่งในวันที่เกิดเหตุนี้พนักงานขายเป็นคนละคนกัน

กับคราวนั้น แต่ก็นับว่าโชคดีที่พนักงานขายสังเกตุเห็นทัน คนร้ายจึงเบนไปหาเป้าหมายใหม่ ซึ่งตนจะได้ติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป และสำหรับผู้ใดที่สามารถแจ้งเบาะแสคนร้ายรายนี้ได้ ทางห้างทองเยาวราชกรุงเทพฯ ได้ตั้งรางวัลไว้เป็นจำนวน 5,000 บาท ทันทีที่ทางตำรวจติดตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก