น้องเขยอำมหิต บุกบ้านฆ่าหลาน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 พ.ค. ร.ต.ท.พัฒนา นิยมชาติ พงส. (สบ1) สน.ทุ่งมหาเมฆ

รับแจ้งเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ในตึกแถวเลขที่ 110/22 หมู่บ้านเย็นอากาศ ซอยสุวรรณสวัสดิ์ ถนนศรีบำเพ็ญ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์ รพ.จุฬาฯ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น

บริเวณห้องครัวชั้นล่างด้านหลังบ้าน พบหยดเลือดเป็นทางยาวและปลอกกระสุน 9 มม. ตกอยู่ 1 ปลอก ส่วนหน้าห้องนอนชั้น 2 ติดกับบันไดทางขึ้นชั้น 3 พบศพนายจักรกฤษ จิตชาญสกุล อายุ 22 ปี

นักศึกษาชั้นปี 4 คณะบริหารการโรงแรม

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงผ้าใบ นุ่งกางเกงขาสั้นลายสกอตสีเทา ไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลถูกยิงเข้ากลางกระหม่อม 1 นัด กลางหลัง 1 นัด และสะโพกขวาอีก 1 นัด

ส่วนที่พื้นพบปลอกกระสุนปืน 9 มม.

จำนวน 3 ปลอก นอกจากนี้ ทราบว่า ยังมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน นำส่งโรงพยาบาลบีเอ็นเอช ชื่อนายยงยุทธ จิตชาญสกุล อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน บิดานายจักรกฤษผู้ตาย ถูกยิงกลางหลัง 1 นัด

ในที่เกิดเหตุ ยังพบ น.ส.ณัฐฐา จิตชาญสกุล

อายุ 23 ปี พี่สาวนายจักรกฤษอยู่ในอาการหวาดผวาตกใจสุดขีดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้การว่าขณะเกิดเหตุภายในบ้านอยู่กันทั้งหมด 3 คน ตนอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด

และเสียงน้องชายร้องขอความช่วยเหลือ

รู้สึกตกใจกลัวจึงหลบอยู่แต่ในห้อง จนกระทั่งเสียงปืนสงบลง เปิดประตูออกไปดู พบว่าน้องชายถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนพ่อทราบว่า เพื่อนบ้านช่วยกันนำส่ง รพ.เนื่องจากถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส

จากการสอบสวนญาติและผู้เห็นเหตุการณ์

ทราบว่า มือปืนคือนายสุราษฎร์ ศรีวรากุล อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 502/154 ถนนอโศก-ดินแดง แขวงและเขตดินแดง กทม. น้องเขยของนายยงยุทธนั่นเอง โดยก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 08.30 น.

นายสุราษฎร์แต่งกายเสื้อยืดคอปกสีฟ้า

กางเกงขายาวสีครีม สวมแว่นสายตา บุกเข้าไปในบ้านเกิดเหตุ แล้วไม่พูดพร่ำทำเพลงชักอาวุธปืนยิงใส่นายยงยุทธ ที่อยู่บริเวณห้องครัวหลังบ้านเหมือนระบายแค้นจนได้รับบาดเจ็บ

นายยงยุทธพยายามวิ่งกระเสือกกระสนหลบหนี

กระสุนรอดตายมาได้หวุดหวิด จากนั้นมือปืนก็บุกขึ้นไปยังชั้น 2 ลั่นกระสุนใส่นายจักรกฤษที่นอนอยู่หน้าห้องจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนจะขึ้นไปบนชั้น 3 เหมือนตามหาเหยื่อกระสุนรายต่อไป แต่ไม่พบใครจึงกลับออกมา

โดยพยานเห็นว่า นายสุราษฎร์

ไม่มีทีท่าตื่นตระหนกอะไร เดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะไปซ้อนท้ายรถ จยย.ที่พรรคพวกจอดรออยู่ปากซอย หลบหนีไปอย่างลอยนวล

ต่อมานางเบญจวรรณ จิตชาญสกุล อายุ 59 ปี

น้องสาวนายยงยุทธ ทราบข่าวร้ายเดินทางไปที่เกิดเหตุ ให้การว่า อยู่กินกับนายสุราษฎร์มานานหลายปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ชาย 1 หญิง 1 แต่มีปัญหาแยกทางกันมาได้ 2 ปี เนื่องจากนายสุราษฎร์ไม่ทำงานทำการ

ติดการพนันงอมแงม มีหนี้สินท่วมตัว

เงินเดือนที่ลูกส่งให้ใช้เดือนละ 5 พันไม่พอ มักจะขอเพิ่มอยู่เสมอ เมื่อตนทราบก็จะบอกลูกอยู่เสมอว่าอย่าให้เพิ่มอีก แต่ไม่ทราบถึงสาเหตุที่นายสุราษฎร์ยิงพี่ชายและหลานชายเสียชีวิต เพราะหลังจากเลิกรากัน

ต่างคนต่างอยู่ ตนแยกไปพักอยู่แมนชั่น

ใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุคนเดียว ส่วนพี่ชายพักอยู่กับลูกๆ 2 คน สำหรับวันนี้ของทุกปี ทางบ้านจะรวมญาติกันเพื่อกราบไหว้อัฐิบรรพบุรุษ คาดว่านายสุราษฎร์คิดว่าตนจะไปร่วมงานด้วย จึงบุกไปที่บ้านนี้เพื่อตามหา บังเอิญในตอนนั้น ตนยังเดินทางไปไม่ถึง ทำให้พี่ชายและหลานรับเคราะห์แทน

เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานปมการสังหารโหดครั้งนี้ว่า

น่าจะมาจากปัญหาภายในครอบครัว โดยนายสุราษฎร์มือปืนโหด บุกเข้าไปบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อหวังตามหาอดีตภรรยาเพื่อระบายแค้น เนื่องจากทราบว่า เป็นวันรวมญาติ แต่ขณะเกิดเหตุ ยังไม่มีใครไป

มีเพียงนายยงยุทธอยู่กับลูกๆ 2 คนเท่านั้น

ทำให้นายสุราษฎร์ คิดว่าทั้งหมดช่วยกันปิดบังว่านางเบญจวรรณไม่อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงบันดาลโทสะ ลงมือยิงระบายแค้นอย่างบ้าระห่ำ พร้อมกับค้นหาตามห้องต่างๆ เมื่อไม่พบตัวจึงหลบหนีไป เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับกุมในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนามาดำเนินคดีต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ