ได้รายงานข้อมูลจุดเชื่อมโยงขบวนการล้มเจ้าในต่างประเทศ ซึ่งใช้องค์กรภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน (TAHR) และ มหาวิทยาลัยประชาชน (TPRUD) เป็นฉากบังหน้า โดยมีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีตามหมายศาล เป็นผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
อาทิ นายมนูญ (เอนก) ชัยชนะ เจ้าของร้านคิงส์ออฟไทยนู้ดเดิ้ล นายเสน่ห์ ถิ่นแสน (ดร.เพียงดิน รักไทย) นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน (ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ) นายองอาจ ธนกมลนันท์ (อาคม ซิดนี่ย์) นายอำนวย แก้วชมภู (วู๊ดไซค์ นิวยอร์ค) และน.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส เสื้อแดง ผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีหมิ่นเบื้องสูง มักจะใช้เครื่องมือทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค โจมตีว่าร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังอ้างสิทธิด้านมนุษยชน เปิดเกมวิจารณ์การทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีกทั้งยังมีการเดินสายล็อบบี้หน่วยงานต่างๆ ในต่างประเทศ ให้ประท้วงการรัฐประหารของไทย โดยมีจุดมุ่งหมายในการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ
เพื่อปรามมิให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองระหว่างประชาชนที่สนับสนุนและต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเห็นได้ว่าช่วงเวลานั้นมีความเคลือนไหวในประเทศที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวในต่างประเทศ สร้างกระแสประท้วงอ้างสิทธิมนุษยชนต่อการปฏิวัติของ คสช.มาตลอด โดยเฉพาะกรณีที่เรียกตัวกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในบ้านเมืองทั้งหมดให้ไปรายงานตัวเป็นต้น
เพื่อสิทธิมนุษยชน(TAHR) นั้นจะสังเกตได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่องต่อสถาบันฯอยู่หลายคน และในจำนวนเกือบทั้งหมดเป็นบุคคลที่ไม่ไปรายงานตัว ตามคำสั่งเรียกตัวของ คสช.ทั้งสิ้น
เปิดเกมวิจารณ์การกระทำของทหารโดยเดินเกมคู่ขนานกับ องค์กรมหาวิทยาลัยประชาชน (TPRUD)ซึ่งมีนาย เสน่ห์ ถิ่นแสน(ดร.เพียงดิน รักไทย)เป็นผู้ดำเนินการสำคัญเชื่อมโยงขบวนการฝ่ายที่ต่อต้านสถาบันเบื้องสูง ปูพรมอ้างสิทธิมนุษยชนจุดกระแสเสรีชนให้กระด้างกระเดื่องต่อรัฐ ด้วยการปลุกระดมทั้งสื่อโซเชียลและ เดินสายยื่นซองล๊อบบี้แก่หน่วยงานต่างๆในต่างประเทศ เพื่อประท้วงการรัฐประหารในประเทศไทย ซึ่งหากมีใครได้ฟังการปลุกระดมผ่านสื่อโซเชียลของกลุ่มเหล่านี้ก็จะทราบว่า แท้จริงแล้วมีการโยงเรื่องราวที่หมิ่นฯสถาบันเบื้องสูงตาม ม.112 มาเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากแบบที่เรียกได้ว่า เป็นความเชื่อในระดับความเชื่อพื้นฐานกันทีเดียว