พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อเร่งรัดติดตามคดีสำคัญว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งมอบหมายให้ควบคุมกำกับดูแลและเร่งรัด คดีสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการชุมนุม ซึ่งขณะนี้ ได้มีการรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการทั้งหมด 17 คดี โดยมี พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ มาเป็นที่ปรึกษาด้านการทำงาน และได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผช.ผบ.ตร. เป็นหน้าคณะการทำงาน พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน พล.ต.ต.สานิตย์ โพธิ์พูนศักดิ์ รักษาการตำรวจภูธรภาค 2 มาเป็นคณะทำงานเร่งรัดคลี่คลายในการสืบสวนสอบสวน ความคืบหน้าคดีสำคัญ คือ กรณียิงแกนนำผู้ชุมนุม คปท. หน้าวัดศรีเอี่ยม เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต คือ นายสุทิน ธราทิน
ส่วนกรณีที่มีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงเข้าไปในบ้าน นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรเกี่ยวกับเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชั่น นั้น มีรายงานผลการสืบสวน ซึ่งพอทราบเบาะแสของผู้ที่กระทำความผิด เบื้องต้นได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ชัยยง และ พล.ต.ท.ก่อเกียรติ ให้นำข้อมูลทั้งหมดไปสอบสวนและขยายผลการติดตาม โดยจะให้เวลาการสอบสวน 7 วัน ส่วนคดียิงแกนนำ กปปส. มีความคืบหน้าถึงคนร้ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับกุมตัวไม่ได้หลายคน และขอยืนยันว่าหากมีหลักฐานการกระทำผิดในทุกๆ คดี ที่ระบุชัดเจนและสามารถตรวจสอบพิสูจน์ได้ จะดำเนินการจับกุมตัวคนร้ายทันที รวมทั้งทุกคดีจะมีความคืบหน้าเป็นระยะ หรือทุก 7 วัน
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.เอก ยังกล่าวว่า พล.ต.ต.พิสิทธิ์ ได้ให้ข้อมูลถึงกลุ่มคนร้ายในคดีหมิ่นสถาบันแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่าหนีไปกบดานที่เขมร จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สานิตย์ ไปรับผิดชอบในพื้นที่ภาคตะวันออกและพื้นที่เกี่ยวข้องทางเขมร เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป