ด้านผู้การฯพระนครศรีอยุธยา นำตัวแม่ฉาวทุบตีลูกน้อยวัย 5 ขวบ
ที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่บนโลกออนไลน์ มาทำการอบรมสั่งสอน ด้านแม่เด็กอ้างเป็นเหตุการณ์เมื่อ 2 เดือนก่อน ระบุไม่ได้ฉุนลูกที่ขายของไม่ได้ แต่เพราะลูกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนแล้วปาหินไปถูกศีรษะเด็กอีกคนแตก จึงโมโหลงมือตีสั่งสอนไปด้วยอารมณ์
จากกรณีมีผู้โพสต์คลิปวีดีโอบนโลกออนไลน์ถึงเหตุการณ์ผู้หญิงคนหนึ่งด่าทอ ฉุดกระชาก และทุบตีลูกชายวัย 5 ขวบอย่างรุนแรง
โดยมีสาเหตุเพราะลูกชายเร่ขายพวงกุญแจให้กับนักท่องเที่ยวไม่ได้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณวิหารพระมงคลบพิตร ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งต่อมาทาง พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายชนาธิป ไชยรัตนะ นักจิตวิทยา สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าตรวจสอบที่บ้านพักของสองแม่ลูกที่ปรากฎในคลิปวีดีโอใน ต.คลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าเป็นบ้านไม้สภาพเก่าทรุดโทรมอย่างมาก แต่ไม่พบตัวสองแม่ลูกตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.เสริมคิด ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา
พร้อมด้วยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้นำตัว นางกบ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี นายโต้ง (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี และด.ช.ป๊อป (นามสมมุติ) อายุ 6 ปี ครอบครัวที่ปรากฏอยู่ในคลิปวีดีโอ มาสอบถามเหตุการณ์ และปัญหาที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว พร้อมทั้งทำการอบรม นางกบ ไม่ให้กระทำกับลูกชายในลักษณะที่รุนแรงอีก
พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวว่า ด้านนางกบ ระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการอบรมสั่งสอนลูก แต่ภาพที่อออกไปอาจจะดูรุนแรงเกินไป
จึงได้อบรม นางกบ ให้สั่งสอนลูกอยู่ในกรอบของความเหมาะสม เพราะเด็กยังเล็กเกินไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความั่นคงของมนุษย์ จะเข้าไปดูแลส่งเสริมอาชีพกับทางครอบครัว และช่วยเหลือทุนการศึกษาของเด็กต่อไป นอกจากนี้ยังได้ให้เจ้าหน้าที่ไปซ่อมแซมบันไดทางขึ้นบ้านของนางกบให้ใหม่ เนื่องจากบันไดบ้านมีความทรุดโทรมมาก
ขณะที่นางกบ กล่าวว่า ที่ต้องหลบหนีออกจากบ้านไปเพราะความกลัวว่าทางเจ้าหน้าที่จะมาแยกเอาลูกไป และจะมีความผิดทางกฎหมาย
ส่วนภาพที่ปรากฏในคลิปเป็นเหตุเกิดขึ้นเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ซึ่งวันนั้นลูกของตนเองไปวิ่งเล่นกับเพื่อน แล้วขว้างก้อนหินไปถูกเด็กอีกคนจนศีรษะแตกเลือดไหล จึงเกิดความโมโหตีลูกไปเป็นการสั่งสอนตักเตือน แต่อาจจะทำไปด้วยอารมณ์มากเกินไป ทั้งตนและสามีรักลูกกันดี ต่อไปนี้การสั่งสอนลูกจะทำให้อยู่ในความเหมาะสม อย่างไรก็ตามตนไม่ได้บังคับให้ลูกไปขายของจนดึก เพราะลูกต้องไปโรงเรียน จะให้ขายของดึกเฉพาะที่เป็นวันหยุดเท่านั้น.