ข่มขืนฆ่าสาวง่อย กัดหัวนม ดูดกินเลือดสดๆ

เมื่อเวลา 23.20 น. วันที่ 25 เม.ย. พ.ต.ท.พรศักดิ์ วงศ์ศักดิรินทร์ สารวัตรเวร สภ.อ.เกาะคา จ.ลำปาง

รับแจ้งมีเหตุผู้หญิงถูกข่มขืนฆ่า

ที่บ้านเลขที่ 173 บ้านนาแก้ว-ตะวันออก หมู่ 3 ต.นาแส่ง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวัฒน์ สิทธิพรหม ผกก. พ.ต.ท.เฉลียว เครือนพรัตน์

รอง ผกก. (ป.) พ.ต.ท.สุเมธ ก้อนคำ

รอง ผกก. (สส.) ร.ต.ท.อรรคเดช วงศ์บุญตัน นวท. (สบ1) งานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ วิทยาการเขต 31 (ลำปาง) แพทย์เวร รพ.เกาะคา และหน่วยกู้ภัยเกาะคา

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร

ด้านหน้าติดถนนทางเข้าหมู่บ้าน ด้านหลังติดทุ่งนา บริเวณพื้นภายในห้องโถงของบ้านพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อ น.ส.ฟองจันทร์ พิริยะ อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน ลักษณะศพเปลือย

นอนหงายขึ้นอืด คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ชม.

โดยมีผ้าห่มพาดอยู่ที่ร่าง ใบหน้าและศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนเละจำเค้าเดิมแทบไม่ได้ ลำคอถูกกัดเป็นจ้ำๆ เต้านมด้านซ้ายถูกกัดหัวนมขาด ตามร่างกายมีหยดน้ำตาเทียนทั่วร่าง ตั้งแต่เนินอกยาวลงไปถึงอวัยวะเพศ

นอกจากนี้ ยังมีเทียนไขสีเหลือง

ขนาดหัวแม่โป้งผู้ใหญ่ยาวประมาณ 6 นิ้ว ปักคาอยู่ที่อวัยวะเพศ ปลายเทียนมีร่องรอยจุดไฟไปแล้วบางส่วน เห็นแล้วเป็นที่สยดสยอง ใกล้กันพบเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายดอกขาว กางเกงในสีดำ ผ้าถุง

ของผู้ตายถูกกระชากออกมากองอยู่ปลายเท้า

รวมกับกางเกงยีน ถุงเท้ากีฬาสีฟ้าเหลือง หมวกแก๊ป ซึ่งเป็นของคนร้าย นอกจากนี้ ยังพบเศษเทียนไขขนาดเดียวกันที่จุดแล้ว และที่ยังอยู่ในซองอีก 2 เล่ม ขนเพชร เส้นผม กระดุมเสื้อ 2 เม็ด ไขควง 1 อัน

จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ตรวจสอบภายในบ้านที่เกิดเหตุอย่างละเอียดไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ ข้าวของเครื่องใช้ยังอยู่ครบ ห่างจากบ้านไปราว 10 เมตร พบรองเท้าแตะ 1 ข้างและไม้ค้ำยันของผู้ตายตกอยู่

สอบปากคำนางอ่อนแก้ว แสงสอน

อายุ 46 ปี พี่สาวผู้ตาย พักอยู่ละแวกใกล้กันและเป็นผู้พบศพคนแรกให้การว่า น.ส.ฟองจันทร์พิการมือเท้าเป็นง่อย ไปไหนมาไหนต้องใช้ไม้ค้ำยันพยุงตัวเอง ยังไม่มีครอบครัว แต่เป็นคนหน้าตาดี

พักอยู่บ้านเกิดเหตุคนเดียว

ญาติพี่น้องจะคอยช่วยเหลือดูแล ก่อนหน้าเมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ฟองจันทร์ไปหาที่บ้าน หลังรับประทานอาหารเสร็จแล้วได้ขอตัวกลับแล้วไม่พบหน้าอีกเลย ตอนแรกเข้าใจว่าคงพักผ่อนอยู่ที่บ้าน

จนกระทั่งเมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 เม.ย.

น้องสาวยังไม่โผล่หน้าออกมาจากบ้าน ด้วยความเป็นห่วงตามไปที่บ้านพบว่าถูกฆ่าไปแล้ว จึงแจ้งให้ตำรวจทราบ ส่วนคนร้ายเชื่อว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่เพิ่งปลดประจำการทหารเกณฑ์มาประมาณ 1 ปี พักอยู่ละแวกใกล้กัน

เนื่องจากก่อนหน้านี้ชอบด้อมๆมองๆ

ที่บ้านน้องสาวเป็นประจำ และยังเคยอาสาจะนำอาหารไปส่งให้ แต่ตนเห็นว่ามีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ จึงตอบปฏิเสธ หลังเกิดเหตุวัยรุ่นคนดังกล่าวได้หายตัวไปจากหมู่บ้าน

ร.ต.ท.อรรคเดช วงศ์บุญตัน นักวิทยาศาสตร์ (สบ1)

งานตรวจสถานที่เกิดเหตุ วิทยาการเขต 31 (ลำปาง) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเชื่อว่าฆาตกรรายนี้น่าจะเป็นพวกโรคจิต ชอบความรุนแรง สังเกตได้จากขณะลงมือคนร้ายใช้น้ำตาเทียนหยด

ทั่วร่างกายคล้ายต้องการเห็นความเจ็บปวดของเหยื่อ

ทั้งที่ผู้ตายไม่มีโอกาสดิ้นรนขัดขืนต่อสู้ เนื่องจากเป็นคนพิการมือเท้าง่อย รวมทั้งคนร้ายยังได้กัดหัวนม ซึ่งปกติจะมีเลือดไหลออกมา แต่สภาพศพที่พบไม่มีคราบเลือดแต่อย่างใด คาดว่าคนร้ายคงจะดูดกินเลือดเข้าไปด้วย

หลังสำเร็จความใคร่ใช้เทียนไขปักช่องคลอด

ก่อนจะลงมือสังหารด้วยการใช้ของแข็งตีใบหน้าและศีรษะ แต่ด้วยความรีบร้อนกลัวคนจะผ่านมาพบเห็นคนร้ายได้ทิ้งหลักฐานหลายอย่างไว้ในที่เกิดเหตุ และยังหยิบไม้ค้ำยันของผู้ตายไปโยนทิ้งไว้หน้าบ้านด้วย

ช่วงสายวันที่ 26 เม.ย. พล.ต.ต.จิรุจจ์ พรหโมบล

ผบก.ภ.จ.ลำปาง เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า คนร้ายรายนี้คาดว่าเป็นคนละแวกใกล้เคียง รู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี รู้ว่า น.ส.ฟองจันทร์ อยู่บ้านคนเดียว บุกเข้าไปข่มขืนโดยที่ผู้ตายไม่มีทางต่อสู้

หลังจากนั้นลงมือฆ่าปิดปาก

ได้กำชับให้ตำรวจเร่งติด ตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว โดยเฉพาะวัยรุ่นต้องสงสัยละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ ทราบว่าหลังเกิดเหตุหายตัวไป ขณะนี้พอจะทราบชื่อแล้ว แต่ขอปิดไว้ก่อน คาดว่าไม่เกิน 2 วัน

จะนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้

พร้อมกันนี้ จะได้นำหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะขนเพชรไปตรวจเพื่อหาดีเอ็นเอใช้เป็นหลักฐานมัดตัวคนร้ายด้วย คดีนี้คนร้ายมีพฤติกรรมเหี้ยมโหดผิดมนุษย์ ขอยืนยันว่าจะล่าตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด

ขณะเดียวกัน ภายหลังเกิดเหตุตำรวจ

ได้กระจายกำลังออกติดตามหาเบาะแสของคนร้าย กระทั่งต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวนายกิตติศักดิ์ หรือปุ๊ก แสนทวีสุข อายุ 21 ปี อดีตทหารเกณฑ์

ผู้ต้องสงสัยได้ที่บ้านญาติหลังหนึ่ง

ใน ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ควบคุมตัวไปสอบสวนเบื้องต้นนายกิตติศักดิ์ยังให้การปฏิเสธ ตรวจสอบตามร่างกายพบมีบาดแผลคล้ายรอยขีดข่วนหลายแห่ง ซอกเล็บมีคราบขาวคล้ายน้ำตาเทียนติดอยู่ ซึ่งตำรวจจะได้นำตัวส่งไปตรวจ สอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานมัดตัว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ