ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 3 ปี 4 เดือน ปรับกว่า 66,000 บาท 'เอกชัย' พ่อค้าซีดี ขายแผ่นแพร่ภาพ-ข้อความหมิ่นเบื้องสูง เวทีชุมนุมแดงสยาม สนามหลวง ปี 54
คดีหมายเลยดำ อ.2072/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายเอกชัย หงส์กังวาน พ่อค้าซีดี อายุ 38 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 ซึ่งคดีนี้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 54
จำเลยซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายแผ่นซีดีโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ วัฒนธรรมแห่งชาติ ได้จำหน่ายแผ่นซีดี ที่เผยแพร่ภาพและเสียง ข้อความประกอบภาพและภาพเคลื่อนไหวให้ปรากฏกับสายตาบุคคลทั่วไป และมีเอกสารประกอบที่เป็นบทความภาษาอังกฤษของ Wikileaks ที่จำเลยคัดลอกมาจากเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต อันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น องค์รัชทายาท ซึ่ง พ.ต.ท.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แฝงตัวเข้าล่อซื้อแผ่นซีดี 1 แผ่น โดยสามารถจับกุมจำเลยได้พร้อมของกลางที่เป็นแผ่นซีดี 141 แผ่น และซีดีเปล่า 120 แผ่น พร้อมเครื่องไรท์ซีดี เอกสาร Wikileaks อีก 26 ฉบับ เหตุเกิดที่อนุสาวรีย์ทหารอาสา แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. จำเลยให้การรับสารภาพ
ขณะที่คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 56 เห็นว่าจำเลย มีความผิดฐานดูหมิ่น รัชทายาท ตาม ม.112 ให้จำคุก 5 ปี
และ พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ ม.54 วรรคหนึ่ง และ 82 ฐานประกอบธุรกิจจำหน่ายแผ่นวีดิทัศน์ (ซีดี) โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ปรับ 100,000 บาท แต่ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษ 1 ใน 3 ให้จำคุกจำเลยตาม ม.112 เป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน และปรับ 66,666.66 บาท ตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ ฐานประกอบธุรกิจจำหน่ายแผ่นวีดิทัศน์ (ซีดี) โดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อมาจำเลย ยื่นอุทธรณ์
แต่ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาโทษจำเลย พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ ตาม ม.82 นั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลย ตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์ ฯ ม.79 แต่โทษนั้นเป็นไปตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับเป็นเงิน 66,666.66 บาท และจำคุกจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ฐานดูหมิ่น องค์รัชทายาท จำคุกเป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน
ก็รู้สึกผิดหวัง โดยที่ผ่านมาตนถูกคุมขังมา 1 ปีเศษแล้ว อย่างไรก็ดี จะให้ทนายความ ทำคำร้องขออนุญาตฎีกาสู้คดีต่อศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ต่อไป เนื่องจากคดีนี้ยืนโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งต้องห้ามฎีกาในประเด็นข้อเท็จจริง ขณะที่นายอานนท์ นำภา ทนายความของนายเอกชัย กล่าวว่า ตามที่ได้หารือกับนายเอกชัยแล้ว ยังประสงค์ที่จะยื่นฎีกาสู้คดีต่อไป ดังนั้นหลังจากนี้ก็ต้องทำคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์รับรองการ ยื่นฎีกาสู้ประเด็นข้อเท็จจริงอีกครั้ง