เร่งตร.-เล่นงาน สติกเกอร์พริตตี้

ที่ทำเนียบรัฐบาลเช้าวันที่ 20 เม.ย. นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานประชุมเชิงปฏิบัติการ

และประกาศแนวทางของรัฐบาลในการขับเคลื่อนสังคม

นายไพบูลย์กล่าวเปิดประชุมว่า จากข้อมูลโครงการติดตาม สภาวการณ์เด็กและเยาวชนรายจังหวัดพบว่า กลุ่มจังหวัดที่มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงสุด กลับมีดัชนีชี้วัดทางสังคมเกี่ยวกับเด็กและสังคมดิ่งต่ำจนน่าเป็นห่วงที่สุด

โดยเด็กและเยาวชนอยู่กับสื่อที่ไม่มีสาระคุณภาพ

เฉลี่ยวันละ 4-6 ชั่วโมง สถาบันครอบครัวอ่อนแอลง คู่แต่งงานทุก 4 คู่ จะหย่าร้างกัน 1 คู่ เด็กประถม 1 ใน 4 ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ครบหน้า และสถิติจะเลวร้ายกว่านี้ในเด็กมัธยม ขณะที่ภาคชุมชนพบว่า เกษตรกรยากจนร้อยละ 40

นายไพบูลย์กล่าวว่า

ส่วนการลดความเสี่ยงทางสังคมเพื่อจัดการสื่อลามกนั้น ได้มีข้อเสนอให้ออกกฎกระทรวงจัดทำเรตติ้งสื่อทุกประเภทเป็นข้อมูลแก่ผู้บริโภคสื่อ เพิ่มโทษและมาตรการทางภาษีเพื่อลดแรงจูงใจ

ในการทำสื่อเสี่ยงต่อเยาวชน

ส่วนในแง่ของการสร้างพื้นที่ สร้างสรรค์เพื่อเยาวชนนั้น จะส่งเสริมให้ขยายจังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็กจากเดิม 15 จังหวัดเป็นทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาลจะพยายามขับเคลื่อนกลไกเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ให้เห็นผลภายใน 6 เดือน

สำหรับกรณีที่บริษัทผลิตถุงยางอนามัยจัดกิจกรรม

โดยให้คนนำสติกเกอร์มาปิดตามตัวพริตตี้ ซึ่งเข้าข่ายอนาจารนั้น เห็นว่าการจัดกิจกรรมโดยใช้เรื่องทางเพศมาเป็นสิ่งดึงดูดเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ถือเป็นสิ่งที่สังคมควรรับรู้ ไม่ให้เกิดค่านิยมผิดๆ เสื่อมเสียแก่สังคม เพื่อให้หลายฝ่ายในสังคมร่วมมือกันแก้ปัญหา

คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม

กล่าวถึงกรณีบริษัทถุงยางอนามัยให้ลูกค้าติดสติกเกอร์ที่อวัยวะเพศของพริตตี้สาวว่า เรื่องนี้ควรมีจิตสำนึกและวิจารณญาณ ในการจัดงานให้มากกกว่านี้ แม้ว่าจะจัดในสถานที่โล่งแจ้ง

มีผู้เข้าร่วมงานหลากหลายวัย

แต่ควรรู้กาลเทศะ เพราะไม่ใช่สถานบันเทิงที่โชว์อะโกโก้อย่างพัฒน์พงศ์ กระทรวงวัฒนธรรมคงห้ามไม่ได้ แต่เป็นสามัญสำนึกที่ต้องคำนึงถึงเด็กและเยาวชน

น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม

กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งประสานงานส่งข้อมูลของบริษัทถุงยางอนามัย ที่ให้ผู้ร่วมงานติดสติกเกอร์พริตตี้สาว ให้กับ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. เพื่อนำไปดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เพราะมีหลักฐานและรูปภาพอย่างชัดเจน

ในการเอาผิดผู้กระทำอนาจาร

นอกจากนี้ยังได้รับรายงานจากเครือข่ายเฝ้าระวังด้วยว่า การจัดกิจกรรมในลักษณะที่โชว์เรือนร่างและให้ผู้เข้าร่วมถูกเนื้อต้องตัวของพริตตี้สาว กำลังได้รับความนิยมในวงกว้าง ทำให้

เห็นว่าผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้ได้ล่วงละเมิด

สังคมและท้าทายกฎหมาย อยากวิงวอนให้บริษัทออร์แกนไนเซอร์ เจ้าของกิจการนักเต้นโคโยตี้ พริตตี้ วงดนตรีหางเครื่องต่างๆ ควรลด ละ เลิกการแสดงที่ไม่เหมาะสม และคิดว่าองค์กรสตรีควรมีบทบาทในการร่วมต่อต้านผู้ประกอบการที่จัดการแสดงเหล่านี้ เพราะเป็นการดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้หญิง

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ