หนุ่มแท็กซี่หลับใน วูบคาแยก ไม่ทันระวัง เหยียบคันเร่ง พุ่งอัดจยย.ด้านหน้า คาป้อมตำรวจ ดับทันที 2 ศพ เจ็บอีก 3
เมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 17 เม.ย. ร.ต.ท.สุจิน พลประภาพรชัย ร้อยเวร สน.ห้วยขวาง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถแท็กซี่เสียหลักพุ่งชนรถจยย.และป้อมจราจรแยกเทียมร่วมมิตร ถนนรัชดาภิเษกตัดถนนเทียมร่วมมิตร แขวง-เขตห้วยขวาง ทำให้มีเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ แสงสว่าง ผกก.สน.ห้วยขวาง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรถพยาบาลกู้ชีพจากโรงพยาบาลใกล้เคียง
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้าอัลติส สีเขียวเหลือง ทะเบียนป้ายแดง ว-8394 กท. พุ่งชนป้อมจราจรจนกำแพงปูนพังยับเยิน
กระจกป้อมแตกละเอียดข้าวของภายในกระจัดกระจาย ส่วนรถแท็กซี่ด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าแตกละเอียดกันชนหลังหลุดใต้ท้องรถพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กณ-8412 กท.พังยับเยิน ชิ้นส่วนรถกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณน้ำมันเครื่องไหลนองเต็นถนน ถัดไปเล็กน้อยพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า โซนิกสีขาว-น้ำเงิน ทะเบียนป้ายเหลือง กทก-161 กท. กับรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน อฉน-427กท.ล้มคว่ำเสียหายอยู่อีก 2 คัน
โดยที่หน้าป้อมจราจรดังกล่าวพบศพนายเผชิญ เรืองคำ อายุ 41 ปี เจ้าของรถจยย.ฮอนด้าโซนิค สีขาว-น้่ำเงิน
นอนหงายจมกองเลือดสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า สวมเสื้อกั๊กจยย.รับจ้างสีส้มของเขตห้วยขวาง วินรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี หมายเลข 7 ทับอีกชั้น นุ่งกางเกงยีนตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลศีรษะแตก แขนและข้อมือขวาหัก และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลต่าง ๆไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย 1.นายวิรัตน์ พัฒนะวิบูลย์ อายุ 25 ปี ถูกส่งตัวไปที่ รพ.พระราม 9 คนเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา 2.น.ส.กมลชนก ศรีเมฆ อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บขาหัก อาการสาหัส 3.นายประเสริฐ แซ่เท้น อายุ 28 ปี เจ้าของรถจยยฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน มีบาดแผลถลอกที่ขาขวา รอเอกซเรย์ร่างกาย และ ด.ต.ไพบูลย์ คีรีวัฒน์ ผบ.หมู่ จร.สน.ห้วยขวาง รหัส 644 ได้รับบาดเจ็บถูกเศษกระจกบาดบริเวณคาง และแขนทั้ง 2 ข้าง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว นายธีรยุทธ์ จองสี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/678 หมู่ที่ 2 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ผู้ขับขี่รถแท็กซี่คันก่อเหตุเอาไว้ได้ เบื้องต้นพบว่าอยู่ในอาการมึนงง โดยเจ้าตัวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถมาจากถนนแจ้งวัฒนะแล้วขับต่อมาที่ถนนรัชดาภิเษก มาถึงบริเวณแยกที่เกิดเหตุจอดติดไฟแดงอยู่เมื่อได้สัญญาณไฟเขียวก็เกิดอาการวูบขึ้นมา พอมารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่ารถได้วิ่งเข้าไปชนป้อมแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุ ตนไม่ได้ดื่มสุราหรือเสพยามาแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นโรควูบเท่านั้น
ด้าน ด.ต.ไพบูลย์ หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่กดไฟอยู่ภายในป้อมจราจรดังกล่าว
เห็นรถแท็กซี่ของนายธีรยุทธ์ จอดติดไปแดงอยู่ที่ช่องทางที่ 2 จากซ้าย ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าแยกฟอร์จูนตามปกติ เมื่อตนกดสัญญาณไฟเขียวปรากฎว่ารถของนายธีรยุทธ์ยังจอดอยู่เหมือนลักษณะหลับใน หลังจากนั้นสักพักก็ออกตัวมาอย่างแรง ก่อนจะพุ่งเข้ามาชนรถจยย.ที่จอดติดไฟแดงอยู่บริเวณแยกพุ่งเข้าชนป้อมจราจรจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว
ขณะที่นายสว่าง กาลจักร อายุ 45 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้าอัลติส สีเขียวเหลือง ทะเบียน มช-2020 กท. ให้การว่า
ก่อนเกิดเหตุตนจอดรถติดไฟแดงอยู่หลังรถแท็กซี่คันก่อเหตุในช่องทางที่ 2เมื่อได้สัญญาณไฟเขียวรถแท็กซี่คันดังกล่าวกลับไม่ออกตัวเหมือนคันอื่น ตนจึงเบี่ยงรถออกไปช่องทางซ้ายสุดเพื่อแซงออกไป แต่จู่ ๆ รถแท็กซี่คันก่อเหตุก็ออกตัวด้วยความเร็วสูงเฉี่ยวบริเวณกันชนท้ายด้านขวาตัวถังด้านขวา และกระจกมองข้างขวา ของรถตนได้รับความเสียหาย ก่อนจะพุ่งไปชนรถจยย.ที่จอดติดไฟแดงอยู่ที่บริเวณถนนเทียมร่วมมิตรแล้วพุ่งเข้าไปชนป้อมดังกล่าว
ต่อมานายชัชชาติ สิทธิพันธุ์รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ก่อนเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุพบว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 คน
ส่วนคนขับรถแท็กซี่ไม่ได้รับบาดเจ็บ และควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ห้วยขวาง และสำหรับรถแท็กซี่คันที่เกิดเหตุเป็นรถป้ายแดงต้องตรวจสอบดูว่าคนขับมีใบอนุญาตขับขี่หรือไม่ ทั้งนี้จากการสอบถามเหตุการณ์เบื้องต้นทราบว่า ผู้ขับขี่รถแท็กซี่กำลังรอสัญญาณไฟเขียวอยู่ ซึ่งห่างจากป้อมประมาณ 40-50 เมตร ทำให้ก็จะต้องตรวจสอบว่าเหตุเพราะอะไร ถึงได้ใช้ความเร็วขนาดนี้ ทั้งนี้สำหรับรถแท็กซี่ป้ายแดงนั้นห้ามวิ่งรับจ้าง เนื่องจากยังไม่ได้จดทะเบียน และต้องรอการจดทะเบียน จากกรมการขนส่งทางบกเสียห่อนก่อน เมื่อจดทะเบียนแล้วถึงมีประกันอย่างไรก็ตามต้องมีคนรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ถือกรรมสิทธิ์และผู้ขับขี่ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ แสงสว่างผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท
เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตและทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายไว้ก่อน พร้อมทั้งจะทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย รวมทั้งตรวจหาสารเสพติดต่อไปหากพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและสารเสพติดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายธีรยุทธ์ มาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายผลปรากฏว่า ผลออกมาเป็น 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์.