ตำรวจเมืองสองแควเข้ากรุงขอทราบผลชันสูตรศพ"น้องต๊อก" หลังแม่อ้างผลตรวจชี้ชัดลูกถูกทำร้ายก่อนจับโยนน้ำ ซ้ำศพลูกชายถูกขโมยไต ยันเอาเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องถึงที่สุด
กรณี น.ส.กัลยา เกตุนาวา เข้าร้องเรียนสื่อ และ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี และรมว.พัฒนาสังคมฯ
เพื่อขอความเป็นธรรมให้ช่วยประสานตำรรวจร้องรื้อคดีของ ด.ช. ศุภชัย ธรรมานุพัฒน์ หรือน้องต๊อก อายุ 13 ปี บุตรชายซึ่งพบเป็นศพจมน้ำในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งต่อมามีประจักษ์พยานซึ่งเป็นเพื่อนน้องต๊อกออกมายืนยันว่า ผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายร่างกายจนหมดสติก่อนถูกจับโยนน้ำจนเสียชีวิต โดยนางปวีณาได้ประสานแพทย์นิติเวชเพื่อส่งศพน้องต๊อกมาชันสูตรหาสาเหตุที่แน่ชัดจนทราบว่าน้องต๊อกถูกทำร้ายจริง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยบกับคดีนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 เม.ย.
พ.ต.อ.สามารถ จูเทศ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองพิษณุโลก หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีผู้รับผิดชอบคดีการเสียชีวิตของ ด.ช.ศุภชัย หรือน้องต๊อก เปิดเผยว่า ตนได้รับคำสั่งจาก พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ โลห์สุวรณ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ประสานแผนกนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อขอทราบผลผ่าชันสูตรศพน้องต๊อกว่าถูกทำร้ายร่างกายก่อนจมน้ำตาย และพบว่าผู้ตายมีไตเพียงข้างเดียว จริง ตามที่ น.ส.กลัยา ผู้เป็นแม่กล่าวอ้างหรือไม่ เพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และออกหมายเรียกพยานมาสอบสวนเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นที่ให้ความสนใจของประชาชนทั่วประเทศ
ด้าน พ.ต.ท.ชาญวุธ ไชยรุ่งเรรือง สว.สส.สภ.เมืองพิษณุโลก
ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนอย่างเร่งด่วน เพื่อหาแนวทางการสืบสวน และลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติม และเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำเพิ่มเติม ในชั้นแรกที่ไม่ได้แจ้งข้อหาแก่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองคนนั้น เนื่องจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ช่วงเวลาที่รับแจ้งว่าพบศพน้องต๊อกนั้นผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองคน อยู่ภายในร้านเกมแห่งหนึ่งในเขต ต.หัวรอ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5-6 กิโลเมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อนางกัลยา เพื่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีผลชันสูตรของ รพ.ตำรวจ
เพิ่มเติมแต่ทราบว่าอยู่ระหว่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของบุตรชาย และยืนยันว่าจะดำเนินการตามแนวทางทั้ง 2 แนวทางคือเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับบุตรชายที่เสียชีวิตลงอย่างถึงที่สุดจึงจะทำการเผาศพลูกชาย และหากไตลูกชายหายจริงตามที่ได้รับการยืนยันจากทาง รพ.ตำรวจ ตนกับสามี ก็จะดำเนินการเรียกร้องสิทธ์ และฟ้องดำเนินคดีเรียกร้องค่าเสียหายจากหน่วยงานที่ทำการผ่าศพ และนำไตของบุตรชายไป โดยจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดด้วย.