ฮือขับเจ้าอาวาส พระนักชกต่อยสท.หญิงคว่ำ

ชาวบ้านนับร้อยฮือวัดเหล่าขวัญ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ขับเจ้าอาวาสนักบู๊ หลังก่อเหตุชกหน้าส.ท.หญิง

เพราะไม่พอใจที่จะมาตั้งเวทีลิเกงานสงกรานต์หน้ากุฏิ

ตอนแรกจะขับรถชนแต่ส.ท.โดดหลบทัน พอลงจากรถก็ใช้หมัดชกจนล้มคว่ำ แถมยังด่าว่าเสียๆ หายๆ ส.ท.สาวสุดทนเข้าแจ้งความตร.เรียกเจ้าอาวาสเลือดร้อนมาเปรียบเทียบปรับก่อนปล่อยตัว ชาวบ้านไม่พอใจเพราะที่ผ่านมาก็มีประวัติทำร้ายชาวบ้านมาหลายครั้ง รวมตัวบุกวัดขับไล่ แต่สมภารเผ่นหนีไปก่อนแล้ว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 เม.ย.

ที่หน้าวัดเหล่าขวัญ ต.ท้อแท้ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก มีชาวบ้านหมู่ 2 บ้านท่าช้าง และหมู่ 3, 4 บ้านเหล่าขวัญ ประมาณ 200 คน รวมตัวกันพร้อมถือป้ายข้อความขับไล่พระครูสถิตธรรมาภิรม อายุ 65 ปี

เจ้าอาวาสวัดเหล่าขวัญ และเจ้าคณะตำบลหินลาด

อ.วัดโบสถ์ ซึ่งก่อเหตุทำร้ายร่างกายชาวบ้านมาหลายครั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.วัดโบสถ์ จำนวนหนึ่งนำกำลังมาดูแลความเรียบร้อย

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 09.30 น.

วันที่ 13 เม.ย. นางมนัญชยา เพชรลานน์ อายุ 35 ปี สมาชิกเทศบาลตำบลวัดโบสถ์ อยู่บ้านเลขที่ 92/1 หมู่ 3 ต.วัดโบสถ์พร้อมกับชาวบ้าน ได้ร่วมกันจัดงานเทศกาลสงกรานต์ โดยใช้วัดเหล่าขวัญเป็นสถานที่จัดงานดังกล่าว

โดยมีการแสดงลิเกไปแล้วคณะหนึ่งในคืนวันที่ 12 เม.ย.

และจะมีคณะลิเกคณะใหม่มาตั้งเวทีแสดงในคืนวันที่ 13 เม.ย. โดยใช้บริเวณหน้ากุฏิเจ้าอาวาสเป็นที่ตั้งเวทีเหมือนเดิม ระหว่างการเตรียมงานมีชาวบ้านมาบอกกับนางมนัญชยาว่า บริเวณที่ตั้งเวทีแสดงลิเกหน้ากุฏิเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสไม่ยอมให้ตั้ง พร้อมกับก่อกองไฟกันเอาไว้

หลังทราบเรื่อง นางมนัญชยาจึงเดินไปดูเพื่อจะพูดคุย

ขอให้คณะลิเกตั้งเวที แต่ไม่พบพระครูสถิตธรรมาภิรม จึงเดินไปหาน้ำมาดับไฟ และหันเห็นกระติกน้ำที่ตั้งเอาไว้หน้ากุฏิ จึงไปหยิบจะนำมาดับกองไฟ ปรากฏว่าขณะนั้นเองพระครูสถิตธรรมาภิรมก็ขับรถยนต์คันหนึ่งเข้ามา

ลักษณะเหมือนจะชนนางมนัญชยา

ทำให้นางมนัญชยาต้องกระโดดหนี หลังจากจอดรถแล้วพระครูสถิตธรรมาภิรมก็เปิดประตูลงมาแล้วชกหน้านางมนัญชยาอย่างแรงจนล้มลงพร้อมด่าว่าอย่างรุนแรง มีชาวบ้านนับสิบคนเห็นเหตุการณ์

หลังเกิดเหตุนางมนัญชยาได้เข้าแจ้งความ

ต่อพ.ต.ท.จีรศักดิ์ สายอุปราช พนักงานสอบสวนสภ.อ.วัดโบสถ์ พร้อมเชิญพระครูสถิตธรรมาภิรมไปสอบสวน ซึ่งพระครูสถิตธรรมาภิรมให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น พร้อมเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 500 บาท

หลังเกิดเหตุนางมนัญชยาพร้อมกับชาวบ้าน

เห็นว่าการกระทำของพระครูสถิตธรรมาภิรมไม่เหมาะสมกับสมณเพศ จึงรวมตัวกันพร้อมล่าลายเซ็นชาวบ้าน 274 คน เนื่องจากพระครูสถิตธรรมาภิรมเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง

จนมีการแจ้งความดำเนินคดี แต่โทษแค่ปรับ

และยังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอีกหลายอย่าง เช่น ไม่ค่อยออกบิณฑบาต ไม่ร่วมมือกับชาวบ้านเกี่ยวกับงานบำเพ็ญกุศลหรืองานอุปสมบท และงานฌาปนกิจศพ โดยก่อนหน้าเมื่อวันที่ 13 เม.ย.2549

พระครูสถิตธรรมาภิรมได้ทำร้ายร่างกายชาวบ้าน

ชื่อนางนิตย์ได้รับบาดเจ็บ มีการแจ้งลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2547 มีชาวบ้านเข้าแจ้งความว่า พระครูสถิตธรรมาภิรมต่อยด.ช.ธรรญวิทย์ นักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนบ้านเหล่าขวัญ (จ่างอนุเคราะห์) ซึ่งมีรั้วอยู่ติดกับวัด เพราะเล่นเสียงดังเท่านั้น ซึ่งตำรวจก็รับแจ้งไว้ และยังเคยขับรถยนต์ชนชาวบ้านด้วย

ต่อมานายกิตติพงษ์ สิริสานนท์ นายอำเภอวัดโบสถ์

รุดเข้าเจรจากับชาวบ้านพร้อมกับรับหนังสือจากกลุ่มชาวบ้าน และกล่าวว่า ทางอำเภอไม่มีอำนาจให้พระออกจากวัด ขึ้นอยู่ที่สำนักพุทธศาสนา จ.พิษณุโลก ส่วนตนจะร่วมประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน

ด้านนางมนัญชยากล่าวว่า ตนพร้อมด้วยชาวบ้าน

ต่างไม่พอใจพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดเหล่าขวัญ เพราะไม่สมกับที่เป็นผู้ทรงศีล จึงรวมตัวกันขับไล่ให้ออกไปจากวัด ชาวบ้านทั้งหมดไม่มีใครต้องการแล้ว จากนี้จะทำหนังสือส่งเรื่องให้ผวจ.พิษณุโลก กรมการศาสนา สำนักพุทธศาสนาจ.พิษณุโลก ให้ดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนมีการรวมตัวของชาวบ้านเพื่อขับไล่

พระครูสถิตธรรมาภิรมรู้ตัวก่อน จึงเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวหลบออกจากวัดไปตั้งแต่ช่วงเช้า คาดว่าจะไปอยู่ที่วัดใดวัดหนึ่งในตัวเมืองพิษณุโลก

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด