วิญญาณทวงถามความยุติธรรม สำแดงความเฮี้ยน คืนก่อนวันเผาเขย่าโลงสะเทือน โต๊ะหมู่คว่ำ แขกถึงกับตกใจผวานั่งกันไม่ติด แม่ลั่นคดีไม่คลี่คลายยังไม่เผา โร่พึ่งสื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งคดีลูกชายจมน้ำตายปริศนา หลังพยานโผล่ให้การเด็กถูกทำร้ายก่อนโยนทิ้งน้ำ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาธรรมสังเวชวัดท่ามะปราง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
นางกัลยา เกตุนาวา อายุ 32 ปี มารดา ด.ช.ศุภชัย ธรรมานุพัตน์ อายุ 13 ปี ซึ่งจมน้ำเสียชีวิต บริเวณบ่อดิน หน้าทางเข้าหมู่บ้านบัวสีเงิน ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมาได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพื่อให้ช่วยเป็นสื่อกลางประสานตำรวจรื้อคดี และพิสูจน์การตายของบุตรชาย ซึ่งถึงขณะนี้เชื่อว่าน่าจะไม่ได้จมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากว่ายน้ำเป็น และเคยแอบหนีไปเล่นน้ำกับเพื่อน ๆ ตาม แม่น้ำ ลำคลองบ่อยครั้ง
แม่เด็กที่เสียชีวิต กล่าวว่า ทั้งนี้มีพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ตนฟังว่า ในวันเกิดเหตุเห็นลูกชายของตนถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้าย
ก่อนจะจับโยนลงไปในบ่อน้ำ คาดว่าลูกชายของตน ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกรุมทำร้ายจึงไม่มีแรงที่จะช่วยเหลือตนเองขึ้นมาจากน้ำได้ เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้ที่พยานยอมเปิดเผยความจริงในวันสุดท้าย ก่อนจะถึงกำหนดเผาลูกตน เนื่องจากวิญญาณของลูกชายได้เข้าฝัน นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ประหลาดสร้างความแตกตื่นให้ตน ญาติ และผู้ที่มาร่วมฟังการสดอภิธรรมศพ โดยในคืนสุดท้ายหลังพิธีสวดพระอภิธรรมเสร็จสิ้น แขกกำลังจะแยกย้ายกลับ จู่ ๆ โลงศพก็เกิดสั่นเหมือนมีคนเขย่า โต๊ะหมู่ที่วางหน้าโลงศพล้มลงมาอย่างไม่มีสาเหตุ ขณะที่รูปหน้าศพก็ร่วงหล่นแตกกระจาย ทำเอาผู้ที่มาร่วมงานถึงกับตกใจผวากันไปตาม ๆ กัน ท้ังนี้ตนเชื่อว่าลูกชายต้องการร้องขอความเป็นธรรม และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ตนจึงเลื่อนการเผาศพลูกชายออกไปจนกว่าคดีจะคลี่คลาย
ล่าสุด นางกัลยา ได้พาสื่อมวลชนไปดูที่เกิดเหตุเป็นสระน้ำก่อนถึงหมู่บ้านบัวสีเงิน พร้อมกับ ด.ช.บอย (นามสมมุติ) พยานที่อยู่รู้เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ พบว่าสระน้ำลึกประมาณ 5 เมตร และที่บริเวณขอบสระน้ำนั้น นางกัลยาได้ชี้ให้สื่อมวลชนดูไม้หน้าสาม ที่คาดว่ากลุ่มวัยรุ่นใช้ทำร้ายลูกชายตนเอง จึงอยากให้ตำรวจมาตรวจสอบ และเก็บหลักฐานใหม่
ด้าน ด.ช.บอย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ตนและผู้ตายกลับมาจากร้านเกมแล้วมาเล่นน้ำที่สระน้ำดังกล่าว หลังจากนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 10 คนตามมา
และเรียกผู้ตายขึ้นจากสระน้ำก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะวิวาท และทำร้ายร่างกายกันเรื่องชู้สาว โดยฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจที่ผู้ตายแย่งจีบสาวที่หมายปอง โดยหลังรุมทำร้ายจนผู้ตายหมกสติกลุ่มวัยรุ่น จึงช่วยกันจับร่างผู้ตายโยนบ่อน้ำ ทำให้ผู้ตายซึ่งหมดสติอยู่จมน้ำเสียชีวิต ต่อจากนั้นกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ข่มขู่ตนว่าหากเรื่องนี้ถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะปาดคอให้เสียชีวิตอีกคน ด้วยความตกใจตนจึงรีบวิ่งไปตามคนงานก่อสร้างมาช่วยเหลือ ด.ช.ศุภชัยแต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เนื่องจากเพื่อนจมน้ำเสียชีวิตไปเสียแล้ว.