6 วันสงกรานต์ตายไป 318 ร้านอ้างลูกเสือเนตรนารี เชียร์เบียร์-นร.ร่วมสนุก

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์ อำนวยการความปลอดภัยบนถนน

แถลงสรุปยอดการเกิดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิต

จากท้องถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วันอันตราย ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย. ว่าเฉพาะวันที่ 16 เม.ย. วันเดียว มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทั้งหมด 417 ครั้ง เมื่อเทียบกับปี 2549 มากกว่า 34 ครั้ง

โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด

คือ จ.เชียงราย มีอุบัติเหตุทั้งหมด 19 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 45 คน บาดเจ็บ 461 คน ซึ่งจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 5 จังหวัดได้แก่ นครพนม ลำปาง สิงห์บุรี สระแก้ว และ กทม. จังหวัดละ 3 คน

จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมีจำนวน 48 จังหวัด

จังหวัดที่ไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ ได้แก่ ภูเก็ตและยโสธร สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด มาจากเมาสุรา รองลงมาคือขับรถเร็วเกินกำหนด และขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ รถจักรยานยนต์ ตามด้วยรถกระบะ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล

รมว.มหาดไทยกล่าวว่า เมื่อรวมยอดอุบัติเหตุสะสม 6 วัน

ตั้งแต่วันที่ 11-16 เม.ย. พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น รวม 3,823 ครั้ง มากกว่าปี 2549 จำนวน 40 ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.06 ผู้เสียชีวิตรวม 318 คน น้อยกว่าปี 2549 จำนวน 29 คน หรือลดลงร้อยละ 8.36 ผู้บาดเจ็บรวม 4,293 คน

มากกว่าปี 2549 จำนวน 57 คน

เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.35 สำหรับการเรียกตรวจตามมาตรการ 3ม 2ข 1ร มีการเรียกตรวจ 2,427,089 คัน พบการกระทำผิดและดำเนินคดี 41,696 ราย เนื่องจากไม่ พกพาใบขับขี่ ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

พร้อมกันนี้ก็ขอฝากเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวด

ในการตรวจตราผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล และขนส่งผู้โดยสาร ขอให้เน้นในเรื่องการตรวจสภาพรถที่อาจไม่ปลอดภัย และสภาพร่างกายของพนักงานขับรถ รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต

ให้ตรวจตราการลักลอบจำหน่วยสุรา

ในสถานที่และช่วงเวลาที่ไม่อนุญาตจำหน่าย อย่างไรก็ตาม ขอฝากว่าขอให้เป็นตัวเลขที่จริงๆ ไม่ต้องตบแต่ง มิเช่นนั้นจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ซึ่งตนเห็นว่าในการตั้งจุดตรวจอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ

จะต้องมีมาตรการอื่นๆ มาช่วยด้วยในครั้งต่อๆไป

โดยเฉพาะการเล่นสงกรานต์ เพื่อให้เป็นไปตามประเพณีที่ดีงาม

ด้านนายดำริ เฉลิมวงศ์ ตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ในช่วงสงกรานต์ มีข่าวพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่นในหลายรูปแบบ เช่น กรณีวัยรุ่นใน จ.สมุทรปราการ

มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำอนาจารผู้หญิง

รวมทั้งยังมีข่าวการกระทำอนาจารชาวต่างชาติ ซึ่งอยากฝากให้ผู้ที่เขียนบรรยายฟ้องรายงานพฤติกรรมของผู้กระทำผิดให้ชัดเจน ว่าเป็นพฤติกรรมที่ร้ายแรง เกิดผลเสียอย่างมาก เช่นกรณีไปจูบนักท่องเที่ยว

ภาพลักษณ์ต่อประเทศจะเสียหายมาก

หรือกรณีวัยรุ่นอายุไม่ถึง 18 ปี กระทำอนาจาร ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ดุลพินิจว่าจะเขียนบรรยายฟ้องดำเนินคดีเทียบเท่าผู้ใหญ่ หรือแม้คนที่ขับรถโดยประมาท และพุ่งชนเข้าไปในชุมชนที่มีคนอยู่เยอะ

ก็ให้เขียนบรรยายฟ้อง ที่เป็นเหตุ

ให้เกิดความประมาทอย่างร้ายแรง ทั้งหมดนี้เพื่อให้ศาลได้เห็นว่าการกระทำนั้นไม่ควรจะรอลงอาญา และให้ลงโทษขั้นรุนแรง

ส่วนการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชายหญิง

ที่อาจหาญแต่งชุดคล้ายเครื่องแบบลูกเสือและชุดเนตรนารี เต้นโฆษณาขายเบียร์ ที่ร้านขายเหล้าร้านหนึ่งในถนนรามบุตรีนั้น เมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน นางระวิกานต์ ยอดพรหมทอง

ผู้บังคับบัญชาลูกเสือโรงเรียนทวีธาภิเศก2

ได้เข้าพบ พ.ต.ท.ฉัตรา พาสุวรรณ รอง ผกก.สส. สน.ชนะสงคราม เพื่อขอคำปรึกษาข้อกฎหมายที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่แต่งเครื่องแบบลูกเสือและเนตรนารีเต้นเชิญชวนให้ประชาชนซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เหตุเกิดที่ร้านขายเหล้าย่านถนนรามบุตรี

เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาดูข้อกฎหมายประมาณ 30 นาที ก่อนออกมา ให้สัมภาษณ์ว่า เข้ามาปรึกษาข้อกฎหมายว่าจะเอาผิดคนทั้งสองนั้นได้อย่างไรบ้าง

ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความผิด

ตาม พ.ร.บ.ลูกเสือ พ.ศ. 2507 ระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ แต่ทั้งนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้ได้ก่อน ว่าผู้ที่แต่งเครื่องแบบนั้นเป็นนักเรียนจริงหรือไม่

ถ้าเป็นนักเรียนจริงต้องให้ทางโรงเรียนเรียกไปสอบถาม

อบรม ตักเตือน หรือลงโทษต่อไป เพราะเอาเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารีมาแต่งในลักษณะที่ไม่เหมาะสม แต่ถ้าไม่ใช่นักเรียน ก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยจะเข้ามาแจ้งความให้ถูกต้องอีกครั้ง

ด้าน พ.ต.ท.ฉัตรา รอง ผกก.สส. สน.ชนะสงคราม

กล่าวว่า จากการตรวจสอบผู้ที่แต่งกายเครื่องแบบลูกเสือและเนตรนารีกับทางร้านพบว่าไม่ใช่พนักงานของร้าน คงจะต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าผู้ที่แต่งชุดนี้เป็นนักเรียนหรือไม่ โดยจะประสานขอภาพถ่ายที่ลงใน

นสพ.มาขยายภาพเพื่อตรวจสอบ

ชื่อที่ติดอยู่ที่หน้าอกเสื้อลูกเสือก่อน เมื่อทราบชื่อนามสกุลแล้วจะให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบว่าเป็นนักเรียนที่ไหนหรือไม่ใช่นักเรียน

ขณะที่นายฐานันดร สุวรรณรัตน์

หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการลูกเสือ สำนักงานการลูกเสือยุวกาชาด และกิจการนักเรียน กระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ กล่าวว่า

ตนได้รับมอบหมายจาก นางจรวยพร ธรณินทร์

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้มาแจ้งความกรณีมีการแต่งกายเลียนเครื่องแบบลูกเสือเต้นเชียร์ให้คนซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานประเพณีสงกรานต์ ซึ่งตนได้เดินทางไปยัง สน.ชนะสงครามแล้ว

แต่สุดท้ายไม่ได้มีการแจ้งความ

เพราะทางตำรวจได้เรียกเจ้าของร้านมาพูดคุยทราบว่าไม่ใช่ เด็กเชียร์เบียร์ของทางร้าน แต่เป็นนักเรียนจริงที่แต่งเครื่องแบบลูกเสือและชุดนักเรียนในลักษณะที่ไม่เรียบร้อยมาเที่ยวเล่นสงกรานต์เป็นกลุ่ม

และเมื่อเห็นสแตนด์ที่ทางร้านทำขึ้นว่างลง

เนื่องจากเด็กเชียร์เบียร์พักทานข้าว เลยนึกสนุกคว้าป้ายราคาของทางร้านกระโดดขึ้นไปเต้นแทน

นายฐานันดรกล่าวอีกว่า

เมื่อไม่ใช่เป็นการแต่งเลียนเครื่องแบบลูกเสือตนจึงไม่ได้แจ้งความ แต่ได้ตักเตือนเจ้าของร้านให้ดูแลความเหมาะสม ส่วนเด็กที่แต่งเครื่องแบบลูกเสือนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับที่จะสืบให้ว่าเป็นนักเรียนจากโรงเรียนไหน

หากทราบทางกระทรวงศึกษาธิการ

จะทำหนังสือแจ้งไปยังผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อให้ดูแลความประพฤติและลงโทษตามที่เห็นสมควรต่อไป เพราะขณะนี้รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการกำลังจะฟื้นฟูกิจการลูกเสือเป็นกิจกรรมสำคัญในการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม การนำเครื่องแบบลูกเสือมากระทำการดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

สำหรับบรรยากาศและการรับมือคลื่นฝูงชน

นับหมื่นที่กำลังเดินทางกลับเข้า กทม. เพื่อมาทำงานตามปกตินั้น เมื่อเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จีระสิทธิ์ มหินทรเทพ

รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. อภิชาติ เชื้อเทศ

ผบก.น.6 และ พล.ต.ต.วราวุธ พุกประยูร ผบก.รถไฟ เดินทางมาตรวจเยี่ยมประชาชนที่เดินทางกลับด้วยรถไฟ ซึ่งมีประชาชนเดินทางกลับจากต่างจังหวัดหลังเทศกาลสงกรานต์กว่าพันคน หลังจากนั้น ผู้ว่าฯ กทม.

เดินทางไปตรวจที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่

โดยนายอภิรักษ์ กล่าวว่า มาดูแลการจราจรและความเป็นระเบียบ รวมทั้งการให้บริการประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด หลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งพบว่ามีการทยอยกลับกันมาก่อนบ้างแล้ว ทำให้การจราจรไม่ค่อยแออัด

ส่วนที่สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2)

ถนนกำแพงเพชร ตลอดวันก็มีประชาชนเดินทางกลับมาถึงอย่างไม่ขาดระยะ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารคอยตรวจตราอย่างเข้มงวด ส่วนที่บริเวณถนนกำแพงเพชร

ด้านหลังสถานีขนส่ง มีรถแท็กซี่นับร้อยคันจอดเข้าคิว

เพื่อรอเข้าไปรับผู้โดยสารภายในสถานีขนส่ง ทำให้การจราจรติดขัดเป็นจำนวนมากอย่างไรก็ดี พบว่ารถแท็กซี่ที่เข้ามารับผู้โดยสารนั้น บางส่วนก็เป็นแท็กซี่ผี ทั้งๆที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลอยู่

แต่บุคคลเหล่านี้มิได้เกรงกลัวแต่อย่างใด

ซึ่งจากการเปิดเผยของนายอนันต์ เสาวคนธ์ อายุ 56 ปี อาชีพรับจ้างว่าเพิ่งมาจากบ้านเกิดที่ จ.มหาสารคาม และขนข้าวของต่างๆมาจำนวนมาก แต่ทันทีที่มาถึงหมอชิต 2 มีคนขับแท็กซี่ปรี่เข้ามายื้อแย่งกระเป๋าเสื้อผ้าและสัมภาระต่างๆ

แล้วสอบถามว่าจะไปที่ไหน

ตนบอกว่าไปบ้านที่บางนา จะไปโดยรถเมล์ เพราะไม่มีเงินค่าแท็กซี่ คนขับแท็กซี่ถึงยอมวางข้าวของลง จึงอยากขอร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องคนดูแลอย่าให้คนเหล่านี้เข้ามาฉวยโอกาสในสถานีขนส่ง ซึ่งสังเกตว่าคนขับแท็กซี่พวกนี้มักจะคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ของสถานีขนส่งบางคนเป็นอย่างดีอีกด้วย

อย่างไรก็ดี แม้การเล่นน้ำสงกรานต์ปีนี้ส่วนใหญ่

จะจบลงไปแล้ว แต่ในบางจังหวัดเพิ่งจะเริ่มจัด โดยที่ชายหาดบางแสน อ.เมืองชลบุรี ซึ่งจัดงาน วันไหล ฉลอง เทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 15-17 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ยังคงมีประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว

นับหมื่นคนเดินทางมาร่วมงานก่อพระเจดีย์ทราย และสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้การจราจร ติดขัดตลอดทั้งสาย ลามไปถึงถนนอ่างศิลา และถนนสุขุมวิท ต่อมาเวลา 13.00 น.

นายสวัสดิ์ หอมปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข

และนางสติล คุณปลื้ม ประธานสภาสตรีภาคตะวันออก ร่วมกันเป็นประธานตัดสินการแข่งขันก่อพระเจดีย์ทราย ชนะเลิศประเภท ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านแหลมแท่น ได้เงิน 4,000 บาท

ประเภทการท่องเที่ยวและโรงแรม

ได้แก่ สนง.การท่องเที่ยวแห่ง-ประเทศไทย เขต 3 ได้เงิน 40,000 บาท ประเภทโรงเรียนอนุบาล ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลชลบุรี ได้เงินสด 15,000 บาท ประเภทโรงเรียนชั้นประถมและมัธยม

ได้แก่ โรงเรียนสัตหีบวิทยาคม

ได้เงิน 20,000 บาท และประเภททั่วไป ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการแผงลอยชายหาดบางแสน ได้เงิน 10,000 บาท

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ