หน่วยอีโอดีเข้าเก็บกู้ถังแก๊สในซากรถยนต์ที่สงสัยใช้ทำคาร์บอมบ์ซ.แจ้งวัฒนะ13

เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 22 มีนาคม ร.ต.ท.ทวี หมื่นรักษ์ พงส.สน.ทุ่งสองห้อง  ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถยนต์ภายใน ซอยแจ้งวัฒนะ13 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.สำอาง ขาวสอาด สว.สส. พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณะภัยลาดยาว เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยดังกล่าว หน้าบ้านเลขที่90 ซึ่งเป็นบ้านของ พล.อ.ท.อรุณ ดิสแพทย์ โดยคนภายในบ้านได้เป็นคนโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ หลังจากได้ยินเสียงระเบิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืด จึงออกมาดูก็เห็นว่าไฟกำลังไหม้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโลล่า สีบรอนเทา ทะเบียน 1993 นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมเพลิง โดยจุดเกิดเหตุห่างจากแนวของการ์ดกปปส.เวทีแจ้งวัฒนะประมาณ 100 เมตร

ต่อมาเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่อีโอดีได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าภายในรถมีการนำถังดับเพลิงจำนวน 2 ถัง วางไว้ที่บริเวณเบาะหลัง ซึ่งขณะเกิดเพลิงไหม้ได้ระเบิดไปแล้ว และพบลูกปืนรถจยย.ซึ่งใช้เป็นสะเก็ดระเบิดตกอยู่จำนวนมาก และภายในกระโปรงหลังยังพบถังแก๊สหุงต้มหนัก 15 กก. ต่อสายชนวนแต่ยังไม่ระเบิด วางอยู่ภายในอีก1 ถัง จึงได้ทำการใช้เชือกผูก และลากออกมาตรวจสอบ

พ.ต.อ.กำธรกล่าวว่า จากการตรวจสอบ ทั้ง 3 ถัง พบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดเดียวกันกับที่เคยวางที่สำนักงานอัยการสูงสุด และและสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และสำหรับถังแก๊สหุงต้มที่ยังไม่ระเบิดเนื่องจากจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ และยังไม่สามารถตรวจสอบตัวจุดชนวนได้ หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้อุปกรณ์ตัดถังแก๊สเพื่อตรวจสอบ พบว่าภายในบรรจุปุ๋ยยูเรีย แอมโมเนียไว้ ซึ่งเป็นสารสำหรับทำระเบิด โดยหากนำไปก่อเหตุหรือมีการจุดชนวนระเบิดขึ้นจะมีรัศมีการทำลายล้างประมาณ 60-100 เมตร

ด้าน พ.ต.ท.สำอาง กล่าวว่า เบื้องต้นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ภายในซอยมาแล้วประมาณ 4-5 วัน ก่อนที่จะเกิดเหตุขึ้น และจากการตรวจสอบไม่พบเอกสารว่าผู้ใดเป็นเจ้าของรถเนื่องจากถูกไฟไหม้หมด โดยต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ารถคันดังกล่าวมีผู้ถือครองเป็นเจ้าของหรือถูกขโมยมาใช้ก่อเหตุหรือไม่ และจะทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาผู้ที่ขับรถคันดังกล่าวเข้ามาจอด และจากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าทางเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของสถานการณ์ทางการเมือง

รายงานข่าวแจ้งว่าเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นการก่อเหตุไว้ 2 ประเด็น คือ คนร้ายอาจจะเตรียมลงมือก่อเหตุที่ใดที่หนึ่ง หรือ อาจจะเข้ามาเผารถเพื่อทำลายหลักฐาน โดยต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง