อนาถแม่จับทารก ยัดลิ้นชัก!แรกคลอด-ขาดใจ

สลดแม่วัยรุ่นคลอดลูกชายเองที่บ้าน กลัวอับอายและเกรงเด็กร้องเสียงดัง

ใช้มีดโกนตัดสายสะดือก่อนนำลูกยัดใส่ลิ้นชักตู้เสื้อผ้า

จากนั้นนอนหมดสติด้วยความอ่อนเพลีย ตกดึกแม่ผัวกลับมาบ้านเห็นแทบช็อกรีบพาทั้งแม่-ลูกส่งร.พ. แต่เด็กทารกสิ้นใจระหว่างทาง ตร.ส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต

เบื้องต้นสงสัยเพราะขาดอากาศหายใจ

ส่วนแม่เด็กอ้างจู่ๆ ลูกก็คลอดออกมาเอง กลัวลูกร้องจะอายชาวบ้านเลยนำไปใส่ลิ้นชักโดยไม่รู้ว่าจะทำให้ถึงตาย

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 8 เม.ย.

ร.ต.ท.เฉลิมชาติ เจนการ ร้อยเวร สภ.ต.ย่อยนวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลนวนครว่า มีคนนำหญิงสาวและเด็กทารกแรกเกิดมาส่งโรงพยาบาล แต่เด็กเสียชีวิตระหว่างทาง

เบื้องต้นพบว่าเด็กขาดอากาศหายใจ

จึงรายงานผู้บังคับบัญชานำกำลังรุดไปสอบสวนพบเด็กทารกแรกคลอดเพศชาย สภาพตัวเขียวยังมีสายสะดือติดอยู่ ส่วนแม่เด็กทราบชื่อคือน.ส.สุรีรัตน์ ไม่มีทุกข์ อายุ 23 ปี มีอาการอ่อนเพลียเนื่องจากเสียเลือดมาก ขณะนี้นอนพักฟื้นอยู่

สอบสวนนางบุปผา แจ้งกระจ่าง

อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/4 หมู่ 5 ต.พะยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แม่สามีน.ส.สุรีรัตน์ ให้การว่า น.ส.สุรีรัตน์ มาอยู่กินกับลูกชายตนคือพลทหารอิทธิพล แจ้งกระจ่าง อายุ 23 ปี

เป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ค่ายอดิศร

จ.สระบุรี ก่อนเกิดเหตุกลับจากธุระมาถึงบ้านพบลูกสะใภ้นอนตกเลือดอยู่ จึงเรียกขึ้นมาถามถึงลูก น.ส.สุรีรัตน์บอกว่าอยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้า จึงรีบไปค้นหาและพบว่าหลานชายนอนนิ่งอยู่แต่เห็นว่าตัวยังอุ่น จึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนช่วยกันนำ 2 แม่ลูกส่งโรงพยาบาล แต่หลานชายก็สิ้นใจก่อนถึงมือแพทย์ไม่นาน

ด้านน.ส.สุรีรัตน์ให้การว่า

มีกำหนดคลอดเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่รู้สึกปวดท้องหรือมีอาการแต่อย่างใด จึงไม่ได้ไปพบแพทย์ จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ระหว่างที่อยู่เพียงลำพังรู้สึกปวดท้องอย่างหนัก

เมื่อลองเบ่งดูพบหัวทารกโผล่ออกมาทางช่องคลอด

จึงตัดสินใจเบ่งจนเด็กหลุดออกมา และใช้มีดโกนตัดสายสะดือก่อนนำลูกไปใส่ไว้ในลิ้นชักเพราะกลัวร้องทำให้เพื่อนบ้านรู้ว่าคลอดเอง จะเป็นที่อับอาย ประกอบกับอ่อนเพลียมาก กระทั่งนอนหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่แม่สามีมาปลุกเรียก ก่อนช่วยพาส่งโรงพยาบาล

พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผกก.สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

เปิดเผยว่า ต้องดูเจตนาของแม่เด็กว่ามีเจตนาทำให้เด็กเสียชีวิตหรือไม่ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถ้าทำผิดจริงก็จะต้องดำเนินคดีในข้อหากระทำความประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม

จะต้องสอบพยานหลักฐานและบุคคลอื่น

ซึ่งอาจได้ยินเสียงเด็กร้องมาสอบสวน ส่วนศพเด็กทารกส่งไปยังร.พ.ศูนย์ธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด