ตำรวจ วอน กปปส.เปิดทางตำรวจทำคดีบึ้มบรรทัดทอง ลั่นมีกล้องวงจรปิดจับภาพชายลึกลับวางระเบิดกับพื้น คาดรู้จักกับคนขับรถม็อบ
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 เปิดเผยความคืบหน้ากรณีกลุ่มผู้ชุมนุมกปปส.ถูกมือมืดลอบปาระเบิดใส่ขณะที่เดินขบวนร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. จนมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บอีกหลายราย ใกล้กับอาคารร้างถนนบรรทัดทองซอย 6 และค้นพบคลังแสงรวมถึงบัตรพนักงานรักษาความปลอดภัยระบุชื่อนายวีรศักดิ์ อบถม อายุ 36 ปี เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างและเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจ โดยคาดว่าคนร้ายอาจจะปาระเบิดจากมาด้านบนของอาคารร้างดังกล่าว ว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวันได้ทำการสอบปากคำพนักงานรักษาความปลอดภัยคนดังกล่าวแล้ว แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบยังพื้นที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากการ์ดกปปส. ได้ตั้งเต็นท์เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ
อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตนเจรจากับทางแกนนำเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
แต่ทราบว่าแกนนำยังคงติดภารกิจพามวลชนเดินไปยังบริเวณจุดที่เกิดเหตุ จึงไม่สามารถประสานงานหรือติดต่อกับทางแกนนำได้ ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วนตรงไปตรงมา
พล.ต.ต.วัลลภ กล่าวอีกว่า ในการสืบสวนจำเป็นต้องหาหลักฐานที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุ
จึงอยากขอร้องทางแกนนำกปปส. ให้การ์ดดูแลความปลอดภัยและเปิดทางให้ได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าวด้วย เพื่อจะได้เร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ส่วนบุคคลที่ปรากฏชื่อมาในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง ทางพนักงานสอบสวนจะทำการเรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งจากข้อมูลการสอบปากคำและพยานหลักฐานระบุชื่อนายวีรศักดิ์ อบถม ที่ปรากฏในข่าวมีตัวตนอยู่จริง โดยทางสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ว่าจ้างให้บริษัทที่นายวีรศักดิ์ปฏิบัติหน้าที่เข้ามาดูแลความปลอดภัย ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าชื่อเจ้าของบริษัทตรงกับชื่อที่ปรากฏเป็นข่าวหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน ได้ทำการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว
โดยทราบว่าอาคารดังกล่าวเป็นตึกร้างของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่อยู่ระหว่างทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ให้เช่าเดิม ซึ่งนายวีรศักดิ์ เป็นผู้รับพนักงานรักษาความปลอดภัยและเป็นผู้รับเหมา และยังเป็นหุ้นส่วนของบริษัทดังกล่าวด้วย ส่วนกรณีที่ปฏิบัติหน้าที่เทศกิจและทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน ยังไม่สามารถติดต่อนายวีรศักดิ์ มาทำการสอบปากคำได้ จึงต้องให้ทางผู้ว่าจ้างเป็นผู้ดำเนินการติดต่อ
ส่วนกรณีอาวุธปืนที่มีการพูดกันว่าเป็นคลังอาวุธนั้น เป็นเพียงปืนบีบีกันที่ไม่มีชุดลั่นไกประกอบอยู่ทำให้ไม่สามารถใช้ยิงกระสุนออกไปได้
ซึ่งช่วงระหว่างเกิดเหตุ ทหารที่เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้มีการนำข้อมูลดังกล่าวมาเผยแพร่แต่อย่างใด ด้าน พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนและสอบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลายครั้ง พบว่าขณะเกิดเหตุมีชายสวมหมวกสีขาวเดินเร็วแล้ววางระเบิดกับพื้น ก่อนเดินเข้าไปที่เสากำบัง จากนั้นประมาณ 5 วินาที ได้มีการระเบิดขึ้น เมื่อระเบิดเสร็จสักพัก คนขับรถที่ใส่ชุดดำได้วิ่งไปที่เสาหาชายคนแรก จากนั้นเมื่อฝุ่นจางทั้ง 2 คนเดินออกมาพร้อมกัน ก่อนมาเก็บของที่พื้นคาดว่าน่าจะเป็นกระเดื่องระเบิด จากนั้นเดินออกไปจากที่เกิดเหตุโดยไม่สนคนเจ็บแต่อย่างใด เชื่อว่าคนวางน่าจะเชี่ยวชาญเพราะมีรัศมีในการระเบิดประมาณ 5 เมตร
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าทั้ง 2 คนน่าจะรู้จักกัน ซึ่งขณะที่คนล้มระเนระนาดแต่ชายทั้ง 2 กลับเดินออกมาเพื่อหาสิ่งของโดยไม่สนใจคนเจ็บ
ขณะนี้ทราบทะเบียนรถแล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดต่างๆให้ชัดเจน หากมีข้อมูลที่แน่ชัดก็จะออกหมายจับทั้ง 2 คนทันที ซึ่งคดีนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. กำชับให้เร่งตรวจสอบ เนื่องจากผู้ชุมนุมไปกดดันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้จับคนร้ายให้ได้ "สรุปเบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุแฝงตัวมากับผู้ชุมนุม คาดว่าจะมาสร้างสถานการณ์ แต่ขอให้ตำรวจออกหมายจับและจับกุมตัวมาสอบสวนก่อน ซึ่งยืนยันได้ว่าไม่ใช่ตำรวจแน่นอน โดยจะมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าผู้อื่นแต่ขอเวลาตำรวจทำงานสักระยะเพื่อความชัดเจนมากกว่านี้"โฆษกบช.น.กล่าว