พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ยโสธร 5 อำเภอบ้านพังกว่า 100 หลัง

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ยโสธรอ่วม 5 อำเภอ บ้านพังกว่า 100 หลังคาเรือน ฟ้าผ่าหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดไฟมืดทั้งเมือง ลูกเห็บตกต้นไม้ล้มระเนระนาด ราชการระดมเร่งช่วยเหลือ

พายุฤดูร้อนถล่มภาคอีสาน

เกิดขึ้นช่วงกลางดึกวันที่ 4 เมษายน มีพายุฤดูร้อนถล่มในพื้นที่ 5 อำเภอของ จ.ยโสธร ได้แก่ อ.เมือง อ.มหาชนะชัย อ.ค้อวัง อ.ป่าติ้ว และ อ.ทรายมูล โดยมีฝนตกและลมกระโชกแรง

ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่

ล้มทับบ้านเรือนเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน นอกจากนั้นฟ้าได้ผ่าหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดอีก 4 แห่ง ทำให้ไฟฟ้าดับทั้ง 5 อำเภอเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ซึ่งหลังฝนหยุดตกเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ได้ออกซ่อมแซมเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้าที่ถูกฟ้าผ่าตลอดทั้งคืน

จากการสำรวจความเสียหายพบว่า

บ้านเรือนในเขต อ.ค้อวัง เสียหาย 10 หลัง อ.มหาชนะชัย ลูกเห็บตก ลมกระโชกแรง บ้านเรือนราษฎรถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับได้รับความเสียหาย 29 หลัง อ.เมือง

บ้านเรือนราษฎรในเขต

ต.ค้อเหนือ ต.เขื่องคำ และ ต.เดิด เสียหายรวม 45 หลัง อ.ทรายมูล หลังคาบ้านเรือนราษฎรเสียหาย 19 หลัง ส่วน อ.ป่าติ้ว ฟ้าผ่าต้นไม้ริมถนนแจ้งอรุณประเสริฐ สายยโสธร-อำนาจเจริญ

กีดขวางการจราจร 3 จุด

เจ้าหน้าที่แขวงการทางยโสธรต้องนำเจ้าหน้าที่ตัดไม้เปิดการสัญจรเส้นทาง ค่าความเสียหายเบื้องต้นจากฟ้าผ่าหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นเงิน 8 แสนบาท ส่วนความเสียหายของบ้านเรือนราษฎรอยู่ระหว่างการสำรวจ

นายวีระวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าฯ ยโสธร

กล่าวว่า ช่วงเกิดพายุฝน ควรหลีกเลี่ยงการออกไปทำงานกลางแจ้ง และไม่ควรสวมใส่วัตถุที่เป็นโลหะนำกระแสไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์ นาฬิกา แหวน และสร้อยคอ เดินฝ่าช่วงฟ้าคะนอง

นอกจากนี้ฝนที่ตกในช่วงระยะนี้

เป็นผลดีต่อประชาชน ที่กำลังเดือดร้อนจากอากาศร้อน และการขาดแคลนแหล่งน้ำใช้ในการทำเกษตร โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้เร่งจัดหาวัสดุเข้าช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎร

ส่วนที่ จ.กาฬสินธุ์

ซึ่งเกิดพายุฤดูร้อนก่อนหน้านี้ นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้สั่งเร่งสำรวจความเสียหาย พบว่า มีบ้านเรือนในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ท่าคันโท อ.กมลาไสย และ กิ่ง อ.ดอนจาน

ถูกพายุพัดเสียหาย 130 หลัง

มีคนถูกฟ้าผ่าตาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายใจดี พลภักดี อายุ 27 ปี เสียชีวิตในที่นาของตัวเอง พื้นที่หมู่ 8 กิ่ง อ.ดอนจาน

นายกวี กล่าวว่า

จากการสอบหาสาเหตุของสองสามีภรรยาที่ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต ที่ อ.คำม่วง พบว่า ในที่เกิดเหตุมีตัวนำสัญญาณ คือ โทรศัพท์มือถือ ส่วนเหตุฟ้าผ่าวัวก็พบว่ามีกระดิ่งเป็นตัวนำสัญญาณเช่นกัน

ดังนั้น ในช่วงนี้เพื่อความปลอดภัย

ประชาชนควรระมัดระวังโดยเฉพาะพวกตัวนำสัญญาณ เพราะหากเกิดฝนตกฟ้าคะนอง อาจเกิดฟ้าผ่าได้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก