น่าอนาถสังคมไทย ถูกข่มขืนวันละ15คน ฆ่าตัวตาย2คนต่อวัน

เมื่อวันที่ 2 เมษายน นายอมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า

จากผลการสำรวจปัญหาเยาวชนไทยยุควัตถุนิยม

ในการประชุมระดมความคิดเรื่องปัญหาเยาวชนในสถานศึกษาพบแนวโน้มความพยายามฆ่าตัวตายสูงขึ้น โดยเยาวชนอายุต่ำกว่า 25 ปี พยายามฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นจาก 29.73 เป็น 33.98 คนต่อแสนประชากรในกลุ่มอายุ หรือเกือบ 20 คนต่อวัน และที่ฆ่าตัวตายสำเร็จถึงประมาณวันละ 2 คน

นอกจากนี้

ยังพบแนวโน้มวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์และมาทำคลอดสูงขึ้น ซึ่งเด็กวัยรุ่นระดับมัธยม-อุดมศึกษายอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นจาก 16% เป็น 19% และมีวัยรุ่นต่ำกว่า 19 ปี มาทำคลอดเพิ่มขึ้นจาก 52,000 คน เป็น 71,000 คน

ขณะเดียวกัน

มีอัตราเด็กอายุ 18 ปีและต่ำกว่า ถูกละเมิดทางเพศเพิ่มขึ้นจาก 6.42 เป็น 31.32 คนต่อแสนประชากร ในกลุ่มอายุหรือเฉลี่ย 5,300 คนต่อปี หรือวันละ 15 คน

ขณะเดียวกัน

ผลการศึกษายังพบปัญหาความรุนแรงและการพนันในกลุ่มเยาวชนระดับมัธยมต้นเพิ่มขึ้น โดย 15% เล่นพนันบอล 10% ถูกรีดไถจากเพื่อนนักเรียนด้วยกัน และจำนวนเด็กที่ถูกส่งเข้าสถานพินิจสูงถึงปีละ 30,000 คน

นอกจากนี้ยังพบจำนวนเด็กประถม

ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่มากขึ้นจาก 23.58% เป็น 25.36% ส่วนเด็กมัธยม-อุดมศึกษาเพิ่มขึ้นจาก 30.13% เป็น 31.09%

นายอมรวิชช์กล่าวต่อว่า

ปัญหาส่วนใหญ่เริ่มจากครอบครัว จากผลการวิจัยติดตามสภาวการณ์เด็กรายจังหวัดในโครงการ Child Watch พบว่า จังหวัดใดมีอัตราเด็กไม่ได้อยู่กับพ่อแม่สูง จำนวนคดีละเมิดทางเพศและคดียาเสพติดก็มีแนวโน้มสูงตาม

อีกทั้ง ยังพบอีกว่า

ในโรงเรียนต่างๆ โดยเฉลี่ยมีเด็กที่พ่อแม่แยกทางกันสูงถึง 15% และเด็กกลุ่มนี้จะเข้าสู่ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงสูงกว่าเด็กปกติถึง 2-3 เท่า ทั้งเหล้า บุหรี่ การพนัน ความรุนแรง ตลอดจนพฤติกรรมติดเกมส์ต่างๆ

"ถ้าครอบครัวอ่อนแอขาดความอบอุ่น

เด็กจะหันเข้าหาอบายมุข ติดกระแสบริโภคนิยม ทำให้ฟุ้งเฟ้อ ยอมขายร่างสร้างตัว และมีนิสัยชอบเสี่ยงรวยลัดวัดดวง ดังนั้น การเริ่มต้นแก้ปัญหาต่างๆควรเริ่มที่ครอบครัวเป็นอันดับแรก" นายอมรวิชช์กล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า