ตั้ง 3 ข้อหาหนัก รตท.ขอมอบตัว

จากเหตุการณ์ที่ ร.ต.ท.เกียรติคุณ สกุลภมร อดีตพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เมาขาดสติใช้ปืน 11 มม. ยิงนายนนทภัค ขำพึ่งตน อายุ 39 ปี เสียชีวิต

หลังมีเรื่องเขม่นกันถึงขั้นชกต่อย

ภายในร้านมอลลี่ผับ ย่านตรอกข้าวสาร ท้องที่ สน.ชนะสงคราม นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บถูกกระสุนลูกหลงอีก 3 คน เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 31 มี.ค. สำหรับ ร.ต.ท.เกียรติคุณถูกให้ออกจากราชการในคดียัดยาเคเมื่อ 2 ปีที่แล้ว อยู่ระหว่างผู้บังคับบัญชาเซ็นอนุมัติกลับเข้ารับราชการใหม่ แต่ดันมาก่อคดีโหดซ้ำ ตามที่เสนอข่าวไปตามลำดับ

ความคืบหน้าในเรื่องนี้

เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (1 เม.ย.) พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช ผกก.สน.ชนะสงคราม เผยว่า ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยาน และผู้เสียหาย เพื่อออกหมายจับ ร.ต.ท.เกียรติคุณ คาดว่า จะเสนอต่อศาลให้ออกหมายจับได้ในวันที่ 2 เม.ย.

ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชากำชับ

ให้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ และให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับอาการของผู้บาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 คน คือ น.ส.สุนันทา ขาวขำ อายุ 22 ปี และ น.ส.หทัยรัตน์ ธรรมมาชัย 23 ปี แพทย์แจ้งว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว

ขณะที่ พ.ต.ท.เอกรัตน์ เปาอินทร์

สว.สส.สน. ชนะสงคราม กล่าวว่า คาดว่า ร.ต.ท.เกียรติคุณ ยังซ่อนตัวอยู่ใน กทม. ทราบว่ามีการติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนประกบตัวไว้ก่อน รอเพียงหมายจับเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความมึนเมาและอารมณ์เสียที่

รปภ.ของผับที่เกิดเหตุ

ไม่ให้แฟนสาวเข้าไป สาเหตุเพราะไม่ได้พกบัตรประชาชนมา สุดท้ายต้องเรียกผู้จัดการร้านมาคุย ส่วนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บก็ไม่ได้มีปัญหากันมาก่อน คาดว่าอาจเดินชนกันระหว่างเข้าห้องน้ำ แล้วมีเหตุกระทบกระทั่ง ด้วยความเมาและอารมณ์เสียก่อนหน้า ทำให้ควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่

พ.ต.ท.เอกรัตน์กล่าวต่อว่า

เบื้องต้นตั้งไว้ 3 ข้อหา คือ ฆ่าคนตาย พยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต สำหรับร้านมอลลี่ผับ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบใบอนุญาตว่าเป็นประเภทใด และปล่อยปละละเลยความปลอดภัยหรือไม่ จะได้ทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ถ้ามีความผิด จะขอเสนอให้ปิด 30 วัน

มีรายงานว่าหลังเกิดเหตุ

ร.ต.ท.เกียรติคุณได้โทรศัพท์มาหา พ.ต.ต.สืบพงษ์ กรุณา พงส.(สบ 2) สน.ชนะสงคราม เจ้าของคดี และเป็นรุ่นพี่ในโรงพัก เพื่อสอบถามผลคดีพร้อมติดต่อขอเข้ามอบตัว แต่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นวันเวลาไหน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ