ขอ หมายจับ อดีตตชด.ฆ่า สาวโนโวเทล

ถนนศรีนครินทร์ หายตัวไป พร้อมเงินเกือบล้านบาท ระหว่างนำไปเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา มีนายภาคินัย จันทร์วิมาน อดีต ตชด. พนักงานขับรถผู้บริหารโรงแรมตกเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้อง

จากสภาพรถเก๋งฮอนด้า ทะเบียน ศอ 2808 กรุงเทพมหานคร ที่มีรอยเฉี่ยวชนและเปลี่ยนกระจกหน้าใหม่ แต่ตำรวจ สน.บางนา กลับปล่อย ตัวไป ทำให้นายภาคินัยไหวตัวหลบหนี กระทั่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ น.ส.สุกานดาถูกฆ่าโหดทิ้งศพหมกพงหญ้าในชุมชนประดู่ลาย 2 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 7 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ในสภาพเน่าอืด

วานนี้ (31 มี.ค.) พ.ต.อ.ชาญ ชุณหวงศ์ รอง ผบก.น.5 พ.ต.ท.ตฤณจร บุญโทแสง รอง ผกก.สส.สน.บางนา พร้อมพนักงานสอบสวน ได้เดินทางไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ นำพยานหลักฐานในสำนวนยื่นขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายภาคินัย จันทร์วิมาน อายุ 49 ปี แล้ว จากนั้นศาลมีความเห็นชอบตามเสนอ อนุมัติหมายจับอดีต ตชด.เหี้ยมในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ

ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนส่งหมายจับไปทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย รวมทั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่งเพื่อสกัดกั้นการหลบหนีออกนอกประเทศของผู้ต้องหาแล้ว พฤติกรรมของนายภาคินัยถือว่าโหดเหี้ยมมาก เมื่อลงมือทำร้าย น.ส.สุกานดาจนหมดสติแล้วยังลากเหยื่อเข้าไปในพงหญ้าโยนทิ้งในคูน้ำ ในขณะนั้นผู้เสียหายยังไม่เสียชีวิต คงสำลักน้ำขาดอากาศหายใจถึงแก่ความตายอย่างทรมานอย่างแน่นอน สอดคล้องกับผลผ่าชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นของแพทย์นิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ที่ระบุว่า น.ส.สุกานดาเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ

ผู้ต้องหาลงมือฆ่า น.ส.สุกานดาด้วยความโหดเหี้ยมเพียงเพราะต้องการเงินไปเท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงว่าเหยื่อเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่มีอนาคต มีพ่อแม่ที่รักและห่วงใย มีแฟนที่เฝ้าทะนุถนอมรักใคร่ ที่พยายามเก็บหอมรอมริบเพื่อจะแต่งงานสร้างอนาคตด้วยกัน การกระทำของคนร้ายถือเป็นการดับความใฝ่ฝันในอนาคตของผู้ตายและครอบครัว จึงสั่งการให้ตำรวจทุกท้องที่ร่วมกันติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยไม่จำกัดวิธีการ หากมีการต่อสู้ขัดขืนตอบโต้หรือใช้อาวุธกับเจ้าหน้าที่ ก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธตอบโต้ด้วยความรุนแรงเด็ดขาดทันที

ได้เรียกประชุมฝ่ายสืบสวน บก.น.4 บก.น.5 และศูนย์ สืบสวน บช.น. เพื่อวางแผนติดตามจับกุมอดีต ตชด.ใจเหี้ยมรายนี้แล้ว โดยให้กระจายกำลังไปตามจุดต้องสงสัยที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหนีคดีไปหลบกบดานทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัดและ กทม. นำหมายจับพร้อมรูปถ่ายประสานทุกท้องที่ทั่วประเทศหาข่าวตามบ้านเช่า โรงแรม และอพาร์ตเมนต์รายวัน เนื่องจากนายภาคินัยหนีไปพร้อมกับเงินจำนวนมาก น่าจะหลบกบดานเช่าห้องพักเก็บตัวมากกว่าหนีไปอยู่กับญาติหรือเพื่อนฝูง

สายวันเดียวกัน นายรัชดา เมฆลอย พ่อของ น.ส.สุกานดา เมฆลอย พร้อมญาติกว่า 10 คน เดินทางไปรับศพลูกสาวที่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมด้วยสีหน้าเศร้าสลด

นายรัชดากล่าวทั้งน้ำตาว่า

เตรียมนำศพลูกไปประกอบพิธีศาสนาอิสลามที่มัสยิด รุลอิบาดะห์ ซอยอ่อนนุช 70 ทุกคนในครอบครัวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ไม่รู้จะประณามการกระทำของคนร้ายว่าอย่างไร แต่ดูจากสภาพศพของลูกสาวบอกได้ว่าป่าเถื่อนมาก

ก่อนหน้านี้เคยเจอคนร้ายมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่ไปรอรับลูกหน้าโรงแรม ลูกแนะนำให้รู้จักว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นคนขับรถ เห็นลูกสาวเรียกว่า น้า ไม่คิดว่าจะมาทำเช่นนี้ อยากฝากบอกไปถึงคนร้ายว่าให้กลับตัว กลับใจเสีย และตั้งต้นทำความดี เข้ามอบตัวกับตำรวจดีกว่า อย่าหนี หากยังเป็นลูกผู้ชายพอ คนเราทุกคนรักลูกด้วยกันทั้งนั้น ลูกสาวของเขาก็รุ่นราวคราวเดียวกัน หากมีคนมาทำร้ายลูกเขา เขาจะรับได้หรือ เมื่อกล้าทำ ก็ต้องกล้ารับผิด แต่เมื่อไม่ ยอมรับ ก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายจริง ไม่รู้จะเปรียบกับอะไรดี

ที่ผ่านมาภาวนาให้เจอศพลูกโดยเร็ว คิดไว้ว่าลูกต้องเสียชีวิตแล้ว พอพบก็รู้สึกดีใจ อย่างน้อยสามารถยืนยันได้ว่าลูกบริสุทธิ์ ไม่ได้ยักยอกเงินโรงแรมเหมือนที่สื่อบางฉบับไปออกข่าว ถือว่าแก้ข้อกล่าวหาให้ลูกสาวได้แล้ว

นายรัชดากล่าวว่า ไม่โทษเป็นความผิดของใคร บางทีตำรวจอาจคิดไม่ถึงว่าเป็นคนร้าย เห็นใจตำรวจเหมือนกัน เพราะทุ่มเทติดตามตัวลูกสาวตนมาตลอด ที่เป็นแบบนี้ เพราะกฎหมายมีช่องว่าง ไม่สามารถคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ หากไม่มีหลักฐานชัดเจน กลายเป็นข้อบกพร่องและเป็นความผิดพลาด

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ