ตายคาเก้าอี้ตัดผม เสี่ยกาแฟมือปืน11มม.จ่อยิงหัว

มือปืน 11 ม.ม.บุกจ่อยิงหัว"เสี่ยรัตน์ โรงกลึง" เสี่ยใหญ่ชุมพรตายสยองคาเก้าอี้ตัดผม โทร.เข้ามือถือเหยื่อก่อนเดินเข้าไปลั่นไก 2 นัดซ้อนๆอย่างเลือดเย็น

แล้วหันปากกระบอกปืนขู่ช่างทำผมและชาวบ้าน ก่อนขึ้นจยย.หนีไปอย่างลอยนวล ตร.ตั้ง 2 ปมมีน้ำหนักมากที่สุดคือชู้สาวกับขัดแย้งที่ดิน

มือปืน 11 ม.ม.บุกจ่อยิงหัวเสี่ยใหญ่

ชุมพรดับคาเก้าอี้ตัดผมครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 30 มี.ค.พ.ต.ท.สุวฤทธ์ พร้อมมูล สารวัตรเวรสภ.อ.เมืองชุมพร สาขาย่อยแยกปฐมพร รับแจ้งเหตุยิงกันตายในร้านตัดผมปากทางเข้าบ้านน้ำผุด ถนนสายชุมพร-ระนอง ต.วังใหม่ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ

แล้วนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

พร้อมด้วยพ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผกก.สภ.อ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.โชคดี รักรงค์ สวป. พ.ต.ท.เกรียงไกร โพธิ์ประสิทธิ์ สว.สส. พ.ต.ท.โจม โกไศยยานนท์ หัวหน้าวิทยาการภ.จ.ชุมพร น.พ.วิบูลย์ ทองด้วง แพทย์ร.พ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิชุมพร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยปฐมพร

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว

เลขที่ 132/1 หมู่ที่ 2 ต.วังใหม่ ริมถนนเข้าหมู่บ้านน้ำผุด ห่างจากถนนชุมพร-ระนอง ประมาณ 100 เมตร เปิดเป็นร้านเสริมสวยทำผม และขายของชำ เจ้าหน้าที่พบชาวบ้านกว่า 100 คนยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างอื้ออึง เจ้าหน้าที่ต้องกั้นบริเวณไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าหลักฐานจะถูกทำลาย

จากการตรวจสอบภายในร้าน

พบศพนายวิรัตน์ เพ็ชรรัตน์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247/3 หมู่ที่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร นั่งเสียชีวิตอยู่บนเก้าอี้ทำผม ในสภาพศีรษะพิงพนักเก้าอี้ มือห้อยลงข้างลำตัว มีผ้าคลุมกันผมคลุมตั้งแต่ช่วงคอลงมาถึงโคนขา บริเวณพื้นใต้เก้าอี้เต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดๆ ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง

เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนขนาด 11 ม.ม.

ตกอยู่บนพื้น 2 ปลอก เศษโทรศัพท์มือถือโนเกียแตกกระจายเต็มพื้น และผนังโต๊ะเครื่องแป้งพบหัวกระสุนฝังอยู่ 1 หัว จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน แพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบว่าผู้ตายถูกยิงด้วยปืน 11 ม.ม.เข้ากกหูช้าย 2 นัด กระสุนทะลุหูด้านขาว 1 นัด อีกนัดทะลุเหนือขมับ

จากการสอบสวนช่างตัดผม

เจ้าของร้านให้การว่า นายวิรัตน์ เพ็ชรรัตน์ ผู้ตายเป็นเจ้าของโรงกลึงใหญ่ และเจ้าของไร่กาแฟที่บ้านน้ำผุดกว่า 300 ไร่ มีฐานะระดับเศรษฐีของจ.ชุมพร ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ"เสี่ยรัตน์ โรงกลึง"

ก่อนเกิดเหตุนายวิรัตน์

เดินทางจากสวนกาแฟมาที่ร้านเพื่อตัดผม ขณะที่กำลังตัดผมอยู่นั้น มีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้ามา นายวิรัตน์รับสายพูดจับใจความได้ว่า "ใช่ครับ ผมวิรัตน์กำลังตัดผมที่ร้านปากซอยบ้านน้ำผุด ให้เสร็จธุระก่อนรอสักครู่แล้วค่อยโทร.มาใหม่"

เจ้าของร้านตัดผมให้การต่อว่า

จากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ขณะที่นายวิรัตน์เก็บโทร.มือถือมีชายสวมเสื้อยืดดำมีแจ๊กเกตสีดำทับ นุ่งกางเกงยีนส์ สูงประมาณ 175 ซ.ม. เดินเข้ามาในร้านใช้ปืน 11 ม.ม.จ่อศีรษะนายวิรัตน์แล้วลั่นไกอย่างเลือดเย็น 2 นัดซ้อน จากนั้นหันปากกระบอกปืนมาที่ตน

พร้อมกับร้องตะโกนใส่ชาวบ้าน

ที่กรูเข้ามาว่า "ใครไม่เกี่ยวอย่าปากโป้งบอกตำรวจ" แล้วรีบก้าวเท้าไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพใหม่ ขับหลบหนีไปทางปากชอยบ้านน้ำผุด ก่อนหันหัวรถขับหนีไปทางอ.กระบุรี จ.ระนอง

ภายหลังสอบสวนเบื้องต้น

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัวและชู้สาว เพราะผู้ตายไปติดพันผู้หญิงหลายคน เนื่องจากมีฐานะดี มีกิจการมากมายและที่ดินหลายร้อยไร่ โดยที่ดินที่ได้มาส่วนใหญ่มีปัญหากับเจ้าของที่ดินเดิม

ซึ่งทราบว่ามีที่ดินแปลงหนึ่ง

ซื้อแล้วปิดทางเข้าเจ้าของเดิม และผู้ตายไม่ยอมให้เจ้าของที่ดินดังกล่าวผ่านที่ดินของตนเอง จนเกิดความไม่พอใจกันขึ้น ดังนั้นในชั้นนี้จึงมี 2 ประเด็นที่มีน้ำหนักมากที่สุดคือชู้สาว และขัดแย้งส่วนตัวเรื่องที่ดิน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์