ทิ้งแม่วัย 86 หอบสังขารพึ่งโรงพัก

ยายวัย 86 ถูกลูกทิ้ง ต้องหอบเสื้อผ้าไปขอนอนบนโรงพักเมืองขอนแก่น

เผยพอยกที่ดินให้ลูก 2 คนก็ถูกปล่อยให้เป็นภาระญาติที่สุรินทร์ จนต้องไปอยู่บ้านพักคนชรา ออกมาขออยู่ด้วยกลับถูกไล่ มีเพียงเงินเดือนละ 500 บาทของลูกสาวบุญธรรมไว้ประทังชีวิต

อนาถชีวิตหญิงชราที่ถูกลูกทอดทิ้ง

ไม่เหลียวแลรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 มีนาคม ได้มี นายชาตรี ราศีทอง อายุ 22 ปี ชาวสุรินทร์ ถือกระเป๋าเสื้อผ้าพร้อมกับประคอง นางคำเมธ วัฒนธรรม อายุ 86 ปี อยู่บ้านเลขที่ 278 ถนนเทศบาล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มาหาตำรวจ สภ.อ.เมืองขอนแก่น โดยบอกว่า นางคำเมธจะมาอาศัยนอนที่โรงพักเพราะลูกไม่ยอมรับเลี้ยงดู

ต่อมา พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร

ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้เข้าสอบถามนางคำเมธ ทราบว่า บ้านเดิมอยู่ จ.สุรินทร์ มีลูกชาย 2 คน ที่แยกตัวไปมีครอบครัวประมาณ 10 ปีแล้ว และยังมีลูกสาวบุญธรรมอีก 1 คน อาศัยอยู่ จ.นครราชสีมา

โดยหลังจากโอนที่ดิน 32 ไร่

ให้ลูกชายนำไปแบ่งกันแล้ว ทั้งสองก็เอาที่ดินไปขายทั้งหมด ทำให้นางคำเมธไม่มีที่อยู่ ต้องอาศัยญาติที่ จ.สุรินทร์ ดูแล ประทังชีพได้ด้วยเงินเดือนละ 500 บาท ที่ลูกสาวบุญธรรมส่งมาให้

นางคำเมธ เล่าทั้งน้ำตาว่า

ต่อมาได้เกิดอุบัติเหตุหกล้ม ทำให้เดินไม่สะดวก กลัวเป็นภาระของญาติ จึงให้พาไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์คนชรา ที่ จ.บุรีรัมย์ แต่ระหว่างที่อยู่ราว 4-5 เดือน ที่สถานสงเคราะห์มีกิจกรรมให้ทำมากมาย จึงขอเจ้าหน้าที่กลับออกมา โดยตั้งใจจะไปขออยู่กับลูกชายคนเล็กที่ จ.สุรินทร์ แต่พอไปถึงกลับถูกไล่ให้กลับไปอยู่สถานสงเคราะห์เหมือนเดิม

นางคำเมธ กล่าวว่า

ได้ขอความช่วยเหลือจากนายชาตรี เพื่อนบ้าน ให้นั่งรถโดยสารพามาหาลูกชายคนโตที่ขอนแก่น พอมาถึงนายชาตรีก็โทรศัพท์ติดต่อไป ลูกชายคนโตก็ไล่ให้ไปอยู่สถานสงเคราะห์อีกเช่นกัน รู้สึกน้อยใจที่ลูกไม่เหลียวแล ประกอบกับไม่มีสมบัติอะไรที่สุรินทร์แล้ว จะไปอาศัยกับญาติก็จะเป็นภาระเขา จึงต้องมาพึ่งตำรวจเพื่อขอที่ซุกหัวนอน

ด้านนายชาตรี พลเมืองดี

ที่พายายมาหาลูกที่ จ.ขอนแก่น เล่าว่า เห็นคุณยายนั่งร้องไห้อยู่ใต้ร่มไม้ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ จึงเดินเข้าไปสอบถาม กระทั่งทราบเรื่องและถูกขอร้องให้นั่งรถโดยสารพามาหาลูกอีกคนที่ จ.ขอนแก่น จึงพามา แต่พอมาถึงสถานีขนส่งจังหวัดขอนแก่นก็โทรศัพท์บอกลูกของยายให้มารับ แต่กลับได้รับการปฏิเสธ พอยายทราบถึงกับร้องไห้โฮ จนต้องปลอบใจกันยกใหญ่ จึงพาเข้าพบตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ

หลังรับทราบเรื่องราว

พ.ต.อ.สันติ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ขอหมายเลขโทรศัพท์ลูกชายคนโตของนางคำเมธ และสอบถามสาเหตุที่ไม่รับบุพการีไปเลี้ยงดู ก็ได้รับคำตอบว่า เขามีเหตุผลของเขา และยังมีปัญหาต่างๆ มากมาย จึงอยากให้แม่ไปอยู่ที่เดิมก่อน เนื่องจากไม่มีเวลาดูแล และกำลังเคลียร์ปัญหาต่างๆ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจะไปรับมาอยู่ด้วย

ต่อมา พ.ต.อ.สันติ

ได้พานางคำเมธไปพบลูกชายที่บ้านพัก ถนนกลางเมือง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธเหมือนเดิม จึงพาไปส่งขึ้นรถที่สถานีขนส่งเพื่อให้เดินทางกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก