DSIระบุ นศ.จุฬาฯรถคว่ำเป็นเหตุปล้น

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งพนักงานสอบสวน

ในการติดตามคดีต่าง ๆ ที่ได้รับโอนเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา กว่า 10 คดีแล้ว โดยในคดีของนายธนิตร์ เกษมโกเมศ อายุ 20 ปี นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะนี้นายธนิตร์ ซึ่งก่อนหน้านี้อาการสาหัสให้การได้แล้ว

ถือเป็นพยานปากเอก

ที่ชี้ชัดว่าไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างที่ตำรวจทำสำนวนแน่นอน แต่เป็นคดีปล้นทรัพย์ คนร้ายมีหลายคนทำกันเป็นขบวนการ มีหญิงสาวเป็นนางนกต่อ และมีรถบรรทุกมาตัดหน้า เพื่อต้องการปล้นรถปอร์เช่ที่นายธนิตร์ขับ แต่ท้ายที่สุดไม่สำเร็จ เพราะนายธนิตร์ต่อสู้ และหนีจนรถชนกำแพงยับเยินโดยคดีนี้เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานก็สามารถสรุปได้

พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง ผกก.2บก.ป.

กล่าวว่า คดีดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งให้โอนคดีจากสภ.ต.แสนสุข จ.ชลบุรี มาให้กองปราบปรามเข้าดำเนินการ ซึ่งได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแล้ว มีการสอบปากคำพยานแวดล้อมไป 7-8 ปาก

โดยรูปคดีในขณะนี้

ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุหรือปล้นทรัพย์หรือทำร้ายร่างกาย จะต้องรอพยานหลักฐานจากส่วนอื่น ๆ มาประกอบในสำนวนแล้วจะทำการสรุปต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

สำหรับเรื่องดังกล่าวนั้นนางกิตติ เกษมโกเมศ อายุ 47 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มารดาของนายธนิตร์ ได้เข้ามาร้องเรียนกับเดลินิวส์ว่าลูกชาย ซึ่งเป็นนิสิตปี 1 คณะสถาปัตยกรรม ได้ขับรถปอร์เช่ ไปเที่ยวกับเพื่อนย่านบางแสน แล้วประสบอุบัติเหตุรถชนกำแพงได้รับบาดเจ็บสาหัส

แต่เมื่อมาดูอาการของลูก

และผลจากแพทย์แล้วทำให้คิดว่าลูกน่าจะถูกทำร้ายมากกว่าประสบอุบัติเหตุ จึงพยายามไปขอให้ตำรวจช่วยดำเนินคดีให้ถูกต้อง แต่ตำรวจ ท้องที่ก็ยืนยันว่าเป็นคดีอุบัติเหตุ.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์