เมื่อเวลา 07.55 น.วันที่ 19 ก.ย. ร.ต.ท.เจษฏา พัวบัณฑิตกุล ร้อยเวรสภ.คลองหลวง จ. ปทุมธานี
รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะชนรถจยย.มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนพหลโยธินขาออก ช่องทางคู่ขนานหลักกม.ที่ 43+200 ต.คลองหนึ่ง ก่อนถึงจุดกลับรถมิตซูบิชิเล็กน้อย จึงไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง แพทย์เวรรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะมาสด้าสีดำ เลขทะเบียน ณอ 8182 กรุงเทพมหานคร
เสียหลักตกคูน้ำริมทางด้านหน้ารถพังยับเยิน ใกล้กันพบรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำ เลขทะเบียน ขรฉ 502 สุพรรณบุรี ล้มอยู่ด้านหน้ารถพัง ใต้ท้องรถกระบะพบศพน.ส.น้ำเพชร กันยา อายุ 38 ปี ผู้ขับขี่รถจยย. ส่วนอีก1รายเป็นคนซ้อนท้ายบาดเจ็บสาหัสขาหักและแผลถลอกตามร่างกาย ทราบชื่อน.ส.วัลลี ริดพิรัติ อายุ 27ปี อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งนำส่งรพ.นวนคร1 ส่วนคนขับรถกระบะมาสด้า หลบหนีไป
ต่อมานายขวัญ กันยา อายุ31ปี น้องชายผู้เสียชีวิต เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า
พี่สาวเคยยืมเงินเพื่อนร่วมงานชื่อนางสมพร ไม่ทราบนามสกุลมา 25,000 บาท เมื่อวันที่ 16 ก.ย. พี่สาวถูกหวยใต้ดิน 25,000 บาท จากนางสมพรเจ้ามือและเจ้าหนี้ พี่สาวจึงยกเงินที่ถูกหวยใช้หนี้ให้ และที่ไม่จ่ายดอกเพราะเห็นว่าเพิ่งยืมมาไม่นาน แต่นางสมพร ไม่ยอมเพราะไม่ได้ดอกเบี้ยตามที่ตกลงคือร้อยละ20 จึงเกิดปากเสียงกันขึ้นถึงขั้นลงไม้ลงมือ ก่อนที่จะเรียกตำรวจสภ.คลองหลวงมาเจรจาไกล่เกลี่ยแล้วเลิกรากันไป
อย่างไรก็ตามฝ่ายคู่กรณีข่มขู่จะทำร้าย จนช่วงเช้าที่ผ่านมา พี่สาวกำลังจะเดินทางไปทำงานกับญาติที่ได้รับบาดเจ็บ มาประสบอุบัติเหตุขณะขี่ย้อนศร ซึ่งญาติยืนยันกับตนว่าผู้ขับรถกระบะคือบุตรชายของเจ้าหนี้
ด้านนางจันทนา กันยา อายุ 35ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต ร่ำไห้โฮ บอกว่า จากการสอบถามน.ส.วัลลี
ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ ที่พอให้การได้เปิดเผยว่า ขณะรถจยย.กำลังขี่ย้อนศรเพื่อเข้าบริษัทเห็นรถคู่กรณีจอดริมทาง ก่อนที่จะออกตัวอย่างแรงแล้วพุ่งชนรถจยย.ที่ทั้งคู่กันมา อีกทั้งหลังเกิดเหตุ น้องสะใภ้ยังพบชายฉกรรจ์ 3 คน เดินลงมาจากรถก่อนที่จะขึ้นรถกระบะอีกคันจำสีและหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ที่มาจอดเทียบข้างขับหลบหนีไป โดยทั้งหมดสวมชุดยูนิฟอร์มของบริษัทแห่งหนึ่งที่น้องสะใภ้ทำงานอยู่และจดจำใบหน้าได้หมดทุกคน
ส่วนพ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้ร.ต.ท.เจษฏา
เรียกผู้เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีทางกฏหมาย พร้อมทั้งได้ให้เช็กชื่อผู้ครอบครองรถยนต์คู่กรณีเพื่อเรียกเจ้าของรถมาสอบปากคำ หากไม่มาตามนัดจะออกหมายจับตามขั้นตอน ทั้งนี้ได้สั่งเร่งสอบปากคำผู้รอดชีวิตที่พอให้การได้เพื่อเป็นเบาะแสในการจับกุมตัวคนร้ายเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.