หนุ่มทวงหนี้เจอดีถูกสามีลูกหนี้แทงสาหัส1เจ็บเล็กน้อย1

สองหนุ่มรับจ้างทวงหนี้เงินกู้โหดทำร้ายลูกหนี้สาวไทย ผัวเกาหลีทนเห็นไม่ไหวคว้ามีดแทงอาการร่อแร่ อีกคนเจ็บเล็กน้อย ตร.แจ้งข้อหาทั้ง 2 ฝ่าย แต่หนุ่มเกาหลีโดนข้อหาต่างด้าวหนีเข้าเมืองเพิ่ม

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 26 มีนาคม พ.ต.ท.มาโนชย์ บำเพ็ญทาน พนักงานสอบสวน สภ.ต.พัทยา ได้รับแจ้งเหตุชกต่อยและใช้อาวุธมีดแทงกันที่อาคารพาณิชย์ เลขที่ 383/92 ซอยชัยพูล หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงไปสอบพร้อมพ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก. พ.ต.ท.ศิริชัย ครูประเสริฐวัฒนา รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ต.ไชยกฤษณ์ ทองอินทร์ สว.สส. และ หน่วยกู่ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ด้านล่างเปิดเป็นร้านขายของชำพบชายและหญิงชุลมุนทำร้ายกันอยู่หน้าอาคารจนกระถางต้นไม้แตกกระจายเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงห้ามปรามและแยกตัวทั้งหมดออกจากกันโดยเจ้าหน้าที่จับนายโจ บีเจ พาร์ค อายุ 49 ปี สัญชาติเกาหลี -สหรัฐอเมริกา กับภรรยาสาวชาวไทย ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารที่เกิดเหตุ พร้อมของกลางมีดปลายแหลม ยาว 1 ฟุต สภาพปลายมีดงอเปื้อนคราบเลือด และ มีดบังตอเปื้อนคราบเลือดอีก 1 เล่ม

ส่วนคู่กรณีอีกฝ่ายอาชีพเก็บเงินกู้ทราบชื่อ นายสมศักดิ์ ม่วงคราม อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกแทงด้วยมีดที่ชายโครงซ้ายแผลฉกรรจ์ตามร่างกายมีรอยถูกมีดบาดหลายแห่งเลือดไหลท่วมตัว อีกรายคือนายสมพร บุญคุ้ม อายุ 24 ปี ถูกต่อยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่รีบนำตัว นายสมศักดิ์ ซึ่งถูกมีดแทงอาการสาหัสส่งรักษาตัวที่ รพ.พัทยาเมเรียล แพทย์ต้องนำตัวเข้าผ่าตัดทันทีเนื่องจากบาดแผลลึกมีเลือดคลั่งภายใน

จากการสบสวน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายสมศักดิ์และนายสมพร ผู้บาดเจ็บซึ่งมีอาชีพเก็บเงินกู้นอกระบบ ขี่รถจักรยานยนต์มาเก็บเงินจากภรรยาของนายโจ บีเจ พาร์ค เนื่องสองสามีภรรยาได้กู้เงิน 6 หมื่นบาท และมีหนี้ค้างอยู่ 6 พันบาท ระยะหลังสองสามีภรรยาไม่มีเงินผ่อนชำระตามที่ตกลงกันไว้ จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นกระทั่งเกิดลงไม้ลงมือกันขึ้น

เบื้องต้นฝ่ายผู้บาดเจ็บอ้างว่า ถูกนายโจ บีเจ พาร์ค ชกหน้าก่อนจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้นจนทนไม่ไหวจึงเข้ารุมทำร้าย แต่ถูกนายโจ บีเจ พาร์ค วิ่งกลับเข้าไปในบ้านนำมีดออกมาเป็นอาวุธแทง นายสมศักดิ์ หนุ่มเก็บเงินกู้จนบาดเจ็บ ซึ่งนายสมพร เพื่อนที่มาด้วยเห็นว่าสู้ไม่ได้จึงยกกระถางต้นไม้ทุ่มใส่ร่างของนายโจ บีเจ พาร์ค จนเกิดการต่อสู้ชุลมุนกันขึ้นก่อนที่ตำรวจจะมาระงับเหตุไว้ได้ทัน

อย่างไรก็ตามนายโจ บีเจพาร์ค ให้การว่าไม่ได้เป็นฝ่ายลงมือก่อน ที่ต้องใช้มีดแทงนายสมศักดิ์เป็นการป้องกันตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำให้การทั้งสองฝ่าย จึงจับกุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนและตั้งข้อหาทั้งสองฝ่าย ว่า ร่วมชุลมุนต่อสู่กันจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังพบว่า นายโจ บีเจ พาร์ค หนุ่มลูกครึ่ง ไม่มีหนังสือเดินทาง โดยอ้างว่าถูกเจ้าสถานทูตยึดไปก่อนหน้านี้ ทั้งยังให้การมีพิรุจ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันชุลมุนต่อสู้กันจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอานาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต