รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า ตามที่ ทล.ได้ว่าจ้างบริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด ศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการพัฒนาวงแหวนรอบนอก กทม. ด้านตะวันตก เพื่อศึกษารูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมของวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ตั้งแต่บางขุนเทียน-บางปะอิน ระยะทาง 70 กม. ให้มีการควบคุมทางเข้าออกโดยสมบูรณ์เป็นระบบปิด เพื่อเป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ที่สามารถเชื่อมโยงกับวงแหวนด้านตะวันออกและด้านใต้ รวมทั้งโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองในอนาคตได้อย่างเป็นระบบ โดยมีการจัดเก็บค่าผ่านทาง ทั้งนี้แต่เดิมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อปี 2540 เห็นชอบในหลักการแผนแม่บทการก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมือง ระยะทาง 4,150 กม. ซึ่งรวมถึงทางหลวงหมายเลข 9 หรือถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการก่อสร้างครบสมบูรณ์ทั้งโครงข่าย เปิดใช้บริการแล้วแบ่งเป็น ด้านตะวันออก ช่วงบางปะอิน-บางพลี ระยะทาง 63 กม. ด้านใต้ ช่วงบางพลี-บางขุนเทียน ระยะทาง 35 กม. ซึ่งเปิดให้บริการเป็นระบบปิดมีการเก็บค่าผ่านทาง ส่วนด้านตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน-บางปะอิน ระยะทาง 70 กม. เปิดให้ใช้ฟรีมาตั้งแต่ปี 2543 จนปัจจุบันมีปริมาณการจราจรหนาแน่นจากรถในพื้นที่และจากรถที่เดินทางระยะไกล ทำให้เกิดความล่าช้าในการเดินทางจึงเห็นควรพัฒนาเป็นระบบปิดให้มีการเก็บค่าผ่านทางทั้งระบบ เพื่อลดปัญหาการจราจรหนาแน่น เพิ่มทางเลือกให้มีการเดินทางถึงที่หมายได้เร็วยิ่งขึ้นนั้น
จากการรับฟังความเห็นประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ที่ปรึกษาได้ปรับแก้รูปแบบโครงการใหม่ โดยจากช่วงบางขุนเทียนจนก่อนถึงทางแยกต่างระดับบางใหญ่ จะก่อสร้างเป็นทางยกระดับบนเกาะกลางถนนกาญจนาภิเษกเหมือนเดิม และช่วงตั้งแต่ต่างระดับบางบัวทองถึงบางปะอิน ทำเป็นถนนระดับดินตามเดิม แต่ช่วงแยกต่างระดับบางใหญ่ ถึงต่างระดับบางบัวทอง ระยะทาง 9 กม. จะต้องออกแบบแนวเส้นทางหลบโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ทำให้ต้องเสนอทางเลือกโครงการใหม่ 3 ทางเลือก ได้แก่ 1. ก่อสร้างทางยกระดับสูงประมาณ 18 ม. ออกไปทางทิศตะวันตกของถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งมีชุมชนหนาแน่น 2. เป็นทางยกระดับสูงประมาณ 24 ม. บนเกาะกลางถนนกาญจนาภิเษก และ 3. เป็นทางยกระดับสูงประมาณ 18 ม. ออกไปด้านตะวันออกของถนนกาญจนาภิเษก ทั้งนี้มีประชาชนย่านบางใหญ่ที่คาดว่าจะถูกเวนคืนคัดค้าน โดยเสนอให้ก่อสร้างตามแนวทางเลือกที่ 2 แต่ที่ปรึกษาชี้แจงว่าเป็นการก่อสร้างทางยกระดับสูงกว่ารถไฟฟ้า ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูงและอาจไม่ปลอดภัยตามหลักวิศวกรรม อย่างไรก็ตามที่ปรึกษาจะนำความเห็นไปปรับปรุงโครงการ ก่อนนำโครงการมาเสนอในการรับฟังความเห็นภาคประชาชนครั้งสุดท้ายที่จะมีขึ้นประมาณกลางปีนี้.