นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผยว่า ปัญหาภัยพิบัติธรรมชาติในประเทศญี่ปุน และในไทยที่เกิดขึ้นในปี 2554
ได้ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยต้องสูญเสียรายได้สูงถึง 2 แสนล้านบาท จากกรณีที่ไม่สามารถผลิตรถยนต์ได้ 4 แสนคัน แบ่งเป็นผลกระทบจากสึนามิในประเทศญี่ปุ่น 1 แสนล้านบาท และน้ำท่วมในไทยอีก 1 แสนล้านบาท ส่งผลให้โรงงานประกอบรถยนต์ และผู้ผลิตชิ้นส่วนหลายแห่งคงต้องลดโบนัสพนักงานในปีหน้าลงแน่นอน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยให้โบนัสในอัตราหลายเดือน
"เมื่อต้นปีสถาบันประเมินการผลิตรถยนต์ในไทยที่ 2 ล้านคัน แต่เจอปัญหาสึนามิที่ญี่ปุ่น ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต้องลดกำลังการผลิต เพราะขาดแคลนชิ้นส่วน จนต้องตั้งเป้าผลิตใหม่ที่ระดับ 1.8 ล้านคัน แต่ไม่นานก็ต้องมาเจอปัญหาน้ำท่วมในไทยอย่างรุนแรงในประวัติศาสตร์ทำให้ต้องลดเป้าการผลิตเหลือ 1.6 ล้านคัน" นายวัลลภ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ค่ายรถยนต์ยังยืนยันจะไม่ปรับขึ้นราคา แต่ส่วนใหญ่จะคงหรือเลิกโปรโมชั่น ทั้งลด แลก แจก แถม ที่ปกติตัวแทนจำหน่ายจะใช้เป็นกลยุทธ์ในการดึงดูดลูกค้า
ทั้งนี้ ผลกระทบจากน้ำท่วม คาดว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหม่จะหันไปตั้งโรงงานใน จ.นครราชสีมามากขึ้น เพราะมีความเสี่ยงต่อน้ำท่วมน้อย และมีแรงงานจำนานมาก ที่สำคัญระยะทางไม่ห่างจากโรงงานประกอบรถยนต์นัก เพราะโรงงานประกอบส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคตะวันออก
นายวัลลภ กล่าวว่า เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมปีนี้ ค่ายรถยนต์คงจะผลิตรถยนต์ได้ไม่มากนัก
ส่วนใหญ่จะเดินเครื่องเต็มที่ในเดือนมกราคม 2555 ยกเว้นโรงงานฮอนด้าที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมโรจนะที่คาดว่าจะกลับมาผลิตได้ในไตรมาส 2 ปีหน้า โดยในปีหน้าจะมีโรงงานประกอบรถยนต์ 3 ค่ายมาเปิดใหม่ มีกำลังการผลิตเฉลี่ยแห่งละไม่ต่ำกว่า 1 แสนคันต่อปี ขณะที่ค่ายฟอร์ด ผลิตรถยนต์ทั่วไป ค่ายซูซูกิ ผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) และค่ายมิตซูบิชิ ผลิตอีโคคาร์ ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตรวมทั้งหมดจะเกิน 3 ล้านคันต่อปี
"คาดว่าค่ายต่าง ๆ พร้อมเดินเครื่องเต็มกำลังใน เดือนมกราคม มีกำลังการผลิตน่าจะเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์"