หรือว่านี่คือต้นเหตุทำเงินบาทแข็ง?เขมรลูกค้ารายใหญ่ของไทย

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (11 ก.ย. 68) คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการแข็งค่าของเงินบาทที่พุ่งสูงขึ้นถึง 7% ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งดูจะสวนทางกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ยังคงเปราะบาง พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติในการส่งออกทองคำไปประเทศกัมพูชาที่มีมูลค่าสูงถึง 2,149 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเดือนมกราคม - กรกฎาคมที่ผ่านมา จนเกิดคำถามว่าการส่งออกปริมาณมหาศาลนี้เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาหรือไม่ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นหรือไม่

ล่าสุดวันนี้ (12 ก.ย. 68) นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ได้ออกมาตอบข้อสงสัยดังกล่าว โดยยืนยันว่า

การส่งออกทองคำไปยังกัมพูชามีปริมาณสูงจริง แต่เป็นไปเพื่อการค้าขายปกติ เนื่องจากกัมพูชามีตลาดขนาดใหญ่และมีกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง โดยสินค้าที่ส่งออกไปมีทั้งทองคำแท่งและที่แปรรูปเป็นอัญมณี

แม้การนำเข้าและส่งออกจะส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน แต่กรมศุลกากรมองว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมากในช่วงนี้ คือ การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสำคัญ

ประเด็นดังกล่าวจึงยังคงเป็นที่ถกเถียงและติดตามต่อไปว่า การแข็งค่าของเงินบาทนี้มาจากปัจจัยใดกันแน่ และจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาวหรือไม่