ฟอร์บส์เปิด50อันดับมหาเศรษฐีไทยปี65 รวยสูงสุด9.33แสนล้าน


 ฟอร์บส์เปิด50อันดับมหาเศรษฐีไทยปี65 รวยสูงสุด9.33แสนล้าน

ฟอร์บส์ ประเทศไทย. ได้เปิดเผยการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทยประจำปี 2565

ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ซบเซา ดัชนีหุ้นไทยปรับลดจากจากจุดสูงสุดลง 3 เปอร์เซ็นต์ และตั้งแต่จากการอันดับมหาเศรษฐีไทยครั้งล่าสุด อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อหน่วยดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงถึง 12 เปอร์เซ็นต์ ส่งให้มูลค่ารวมทรัพย์สินของมหาเศรษฐีไทยทั้ง 50 รายชื่อ ลดลงเกือบ 6 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 1.51 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 5.31 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับการจัดอันดับปีที่ผ่านมา

มหาเศรษฐีไทย 3 อันดับแรกยังไม่มีการเปลี่ยนอันดับจากปีที่ผ่านมา มหาเศรษฐีอันดับที่หนึ่งยังคงเป็น "พี่น้องเจียรวนนท์" แม้มูลค่าทรัพย์สินรวมของพวกเขาลดลง 3.7 พันล้านเหรียญ ซึ่งมาจากอัตราแลกเปลี่ยนสหรัฐฯ ส่งผลทำให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศจากการจัดอันดับโดย Forbes อยู่ที่ 2.65 หมื่นล้านเหรียญ (9.33 แสนล้านบาท) ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกลุ่มบริษัทในเครือซีพี

คือดีลการควบรวม ทรู คอร์ปอเรชั่น กับ ​DTAC ที่ยังคงรอคอยการอนุมัติจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช.

จากยอดขายของเครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull ที่เติบโตจากทั่วโลกทำให้มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีอันดับสอง เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว เพิ่มขึ้นอีก 1.9 พันล้านเหรียญ มูลค่าทรัพย์สินในการจัดอันดับประจำปีนี้อยู่ที่ 2.64 หมื่นล้านเหรียญ (9.30 แสนล้านบาท) ใกล้เคียงมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งยิ่งนัก ขณะที่มหาเศรษฐีไทยอันดับที่สาม ได้แก่ เจริญ สิริวัฒนภักดี โดยมูลค่าทรัพย์สินของเขาอยู่ที่ 1.12 หมื่นล้านเหรียญ (3.94 แสนล้านบาท)

การจัดอันดับมหาเศรษฐีประจำปี 2565 มีเพียงมหาเศรษฐีไทยเพียง 10 รายที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นซึ่งหนึ่งนั้นคือ สารัชถ์ รัตนาวะดี มหาเศรษฐีด้านธุรกิจพลังงาน และจากอานิสงส์ของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้น 2.2 พันล้านเหรียญ ส่งผลให้เขาติดในรายชื่ออันดับที่ 4 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.1 หมื่นล้านเหรียญ (3.87 แสนล้านบาท) นอกจากธุรกิจพลังงานแล้วเขายังเดินหน้าขยายความร่วมมือทางธุรกิจนำ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ AIS และ Sintel เตรียมจัดตั้งศูนย์ข้อมูลในประเทศ

สำหรับมหาเศรษฐีหน้าใหม่ 3 รายในปีนี้ ได้แก่ อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของกลุ่มเจ มาร์ท ติดในรายชื่อมหาเศรษฐีไทยในอันดับที่ 37 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 835 ล้านเหรียญ (2.94 พันล้านบาท) อันเนื่องจากมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่มูลค่าหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นของ Com7 หนึ่งในผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์จาก Apple รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ส่งให้ สุระ คณิตทวีกุล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแห่ง Com7 ติดในรายชื่อมหาเศรษฐีไทยในอันดับที่ 49 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 670 ล้านเหรียญ (2.36 พันล้านบาท) สำหรับมหาเศรษฐีอีกรายคือ พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี ผู้ร่วมก่อตั้งคลินิกเสริมความงามพงศ์ศักดิ์และยังเป็นนักลงทุนสาย (Value Investor) หรือ VI ติดในอันดับที่ 50 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 655 ล้านเหรียญ (2.3 พันล้านบาท) ซึ่งหนึ่งในพอร์ตหุ้นที่เขาถือครองมีหุ้นของกลุ่ม Com7 อยู่ส่วนหนึ่ง

สำหรับมหาเศรษฐีที่กลับเข้าสู่อันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 มีจำนวน 3 รายได้แก่ กัลกุล ดำรงค์ปิยวุฒิ์ ผู้ก่อตั้ง บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งห่างหายจากการเป็นหนึ่งในห้าสิบรายชื่อเป็นเวลา 4 ปี โดยบริษัทด้านพลังงานแห่งนี้ได้เดินทางสู่ธุรกิจใหม่ด้านกัญชา-กัญชง ขณะที่ อีกสองมหาเศรษฐีไทยที่กลับเข้าสู่อันดับได้แก่ บุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการ DTAC และ พิชญ์ โพธารามิก ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นนอล

การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทยประจำปี 2665 ในปีนี้ ขีดเส้นมูลค่าทรัพย์สินต่ำสุดของผู้ที่ติดในการจัดอันดับมหาเศรษฐีทั้ง 50 คนที่ 655 ล้านเหรียญ ลงลงจากปีที่ผ่านมาที่ขีดเส้นไว้ที่ 737 ล้านเหรียญ และในการจัดอันดับประจำปีนี้มีมหาเศรษฐีไทยที่หลุดจากอันดับจำนวน 6 รายหนึ่งในนั้นคือ สมหวัง และ ไวยวุฒิ สินเจริญกุล แห่งกลุ่มศรีตรังแอโกรอินดัสทรีฯ ซึ่งหนึ่งกลุ่มบริษัทของพวกเขาที่ผลิตถุงมือยางได้รับผลกระทบเนื่องอันเนื่องจากความต้องการของถุงมือยางลดลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

 



ทั้งนี้การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 คิดจากอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 17 มิถุนายน 2565 โดย 10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 มีรายชื่อดังต่อไปนี้

10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565

อันดับ 1 พี่น้องเจียรวนนท์
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.65 หมื่นล้านเหรียญ / 9.33 แสนล้านบาท

อันดับ 2 เฉลิม อยู่วิทยาและครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.64 หมื่นล้านเหรียญ / 9.30 แสนล้านบาท

อันดับ 3 เจริญ สิริวัฒนภักดี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.12 หมื่นล้านเหรียญ / 3.94 แสนล้านบาท

อันดับ 4 สารัชถ์ รัตนาวะดี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.1 หมื่นล้านเหรียญ / 3.87 แสนล้านบาท

อันดับ 5 ครอบครัวจิราธิวัฒน์
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.06 หมื่นล้านเหรียญ / 3.73 แสนล้านบาท

อันดับ 6 สมโภช อาหุนัย และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.9 พันล้านเหรียญ / 1.37 แสนล้านบาท

อันดับ 7 ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.1 พันล้านเหรียญ / 1.09 แสนล้านบาท

อันดับ 8 วานิช ไชยวรรณ
มูลค่าทรัพย์สิน: 3 พันล้านเหรียญ / 1.05 แสนล้านบาท

อันดับ 9 ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.8 พันล้านเหรียญ / 9.86 หมื่นล้านบาท

อันดับ 10 ครอบครัวโอสถานุเคราะห์
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.7 พันล้านเหรียญ / 9.51 หมื่นล้านบาท

 

 

 



เครดิตแหล่งข้อมูล : forbesthailand.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : ไม่แฟร์เลย
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 1.46.156.118

1.46.156.118,,1.46.156.118 ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
คนไทยจน จะกินยังไม่มี เพราะ มีการทำรัฐประหารประเทศ ถ้าไม่มีรัฐประหาร เศรษฐกิจก็ไปของมันได้เรื่อยๆ ไม่กระทบ แต่มหาเศรษฐี พวกนี้กลับร่ำรวยสุดขีด เหลื่อมล้ำสุดๆ หยุดไม่อยู่ แม้ทหารปกครองประเทศ


[ วันพฤหัสบดี ที่ 7 กรกฎาคม 2565 เวลา 15:51 น. ]
คุณ : เบื่อสามกีบโง่
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 171.6.150.46

171.6.150.46,,mx-ll-171.6.150-46.dynamic.3bb.in.th ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
ติงต๊องมากที่ซี้ซั้วโทษรัฐประหารไม่เลิก ไม่ได้รู้เหตุกาณ์วิกฤตโลกกับเขาเลยนะสามกีบหน้าโง่ เศรษฐกิจมันเป็น cycle มีขึ้นลงเป็นธรรมดา แต่ที่ทำให้แย่หนักหนาสาหัสคือโควิดกับสงคราม คิดว่าสมัยก่อนไม่มีเศรษฐีรวยสุดขีดแบบนี้รึไง ความเหลื่อมล้ำมีทุกยุคทุกสมัย ทำไมสามกีบโง่ถึงคิดว่าเป็นเพราะทหาร โคตรไร้สาระเลย หัดศึกษาหาความรู้จริงๆ บ้างเหอะ


[ วันพฤหัสบดี ที่ 7 กรกฎาคม 2565 เวลา 16:40 น. ]
คุณ : นะจ๊ะ
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 171.96.220.93

171.96.220.93,,ppp-171-96-220-93.revip8.asianet.co.th ความคิดเห็นที่ 3 [อ้างอิง]
ลุงตู่แค่ปล้นเองมาปราบโกงด้วยผิดก็หนีแล้ว จำนำข้าวไม่ผิดแล้วหนีทำไม โควิค สงคราม เป็นทั้งโลก คนจนรวยมีีทุกที่เมกาก็มี หัดคิดบ้างอย่าอยู่กะลา


[ วันพฤหัสบดี ที่ 7 กรกฎาคม 2565 เวลา 18:24 น. ]
คุณ : ทะลุกะลาครอบ
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 58.10.221.251

58.10.221.251,,cm-58-10-221-251.revip7.asianet.co.th ความคิดเห็นที่ 4 [อ้างอิง]
Talking Thailand - โถ ..หลักฐาน “ท่านเมือก” คาตา ลุงยังกล้าพูด “ในชีวิตนี้ไม่เคยโกงชาติ” ทำผิดไม่ต้องหนี เพราะมีปืน


[ วันพฤหัสบดี ที่ 7 กรกฎาคม 2565 เวลา 18:46 น. ]
คุณ : อิจีน
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 118.173.121.49

118.173.121.49,,node-nxt.pool-118-173.dynamic.totinternet.net ความคิดเห็นที่ 5 [อ้างอิง]
บางทีสุดท้ายคนไทยมีเชื้อชาติจีน สังเกตว่าทำไมคนไทยมีเชื้อชาติจีนถึงทำทุกอย่างที่ทำได้ ไม่อยากเสียเวลากับสมองจะคิดยาก ก็ถือคนรับรู้ได้ดีด้วยก็พอแค่นี้


[ วันพฤหัสบดี ที่ 7 กรกฎาคม 2565 เวลา 22:44 น. ]
คุณ : ดำรงค์
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 49.49.239.163

49.49.239.163,,mx-ll-49.49.239-163.dynamic.3bb.in.th ความคิดเห็นที่ 6 [อ้างอิง]
ไม่ได้รวย..แต่ไม่อิจฉาคนที่ร่ำรวยเพราะพวกเขาทำงานหนักมาตลอดชีวิต..เรายกย่องพวกเขา..ที่เราจนเพราะเราไม่ทำหรือทำไม่หนักพอ ชอบความสบายมากกว่าทำงาน สมควรแล้วที่จน


[ วันศุกร์ ที่ 8 กรกฎาคม 2565 เวลา 08:59 น. ]
คุณ : มีปัญญาต้องเอามาใช้
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 58.10.221.251

58.10.221.251,,cm-58-10-221-251.revip7.asianet.co.th ความคิดเห็นที่ 7 [อ้างอิง]
การคิดเองเออเองว่าคนจนเพราะโง่หรือจนเพราะขี้เกียจจึงเป็นเรื่องผิดถนัด เพราะความจริงกลับตรงกันข้ามคือความจนต่างหากที่เป็นสาเหตุของการตัดสินใจแย่ๆ และการทำงานผลิตภาพต่ำ อันเนื่องมาจากการที่มีรัฐบาลอยู่ 8 ปี คนจนพุ่ง 20 ล้านแล้ว บริหารงานผิดพลาด


[ วันศุกร์ ที่ 8 กรกฎาคม 2565 เวลา 10:03 น. ]
คุณ : จำไว้น่ะพวกม็อบชั่ว
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 1.46.6.217

1.46.6.217,,1.46.6.217 ความคิดเห็นที่ 8 [อ้างอิง]
ยุคทักษิณ ยิ่งลักษณ์ กินดีอยู่ดี แม้ไม่รวย ก็ใช้ชีวิตอยู่ได้ใน กทม พอมีรัฐประหารเท่านั้นแหละ เศรษฐกิจพังพินาศย่อยยับ คนฆ่าตัวตายไปเยอะแล้ว ปี 49 ก็เจอโดนไปหลายปี แต่คนยังมีเงินออม กลับมาใหม่ได้ ยุคยิ่งลักษณ์ แต่พวกม็อบชั่วก็ไม่หยุดทำลาย จนมีรัฐประหารปี 57 เศรษฐกิจพินาศไปหลายปีกว่าปี 49 แถมโควิดมาซ้ำ แสนสาหัส


[ วันศุกร์ ที่ 8 กรกฎาคม 2565 เวลา 10:46 น. ]
คุณ : ก่องเล็กราคาลดหน่อย
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 122.155.98.129

122.155.98.129,,122.155.98.129 ความคิดเห็นที่ 9 [อ้างอิง]
ผัดซีอิ้วเซเว่นรสชาติใช้ได้ สัก30บ.ก็พอแล้วจะเอากำไรอะไรมากมายนะป๋าเจียรวนนท์


[ วันศุกร์ ที่ 8 กรกฎาคม 2565 เวลา 11:00 น. ]
คุณ : ลั่น.!! มรึงลองมาไล่ดูส
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 58.10.221.251

58.10.221.251,,cm-58-10-221-251.revip7.asianet.co.th ความคิดเห็นที่ 10 [อ้างอิง]
' ลุงนะจ๊ะ ' ฉลาด แต่เลือกใช้คนโง่ๆรอบข้าง ไม่ฟังใคร ฟังเฉพาะคนใกล้ชิด ..ระวัง"ลิ้วล้อ" แย่งต่อคิวเลีย ทำพังเร็ว นะคะ .!!


[ วันศุกร์ ที่ 8 กรกฎาคม 2565 เวลา 11:06 น. ]
คุณ : สงสาร
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 49.228.240.91

49.228.240.91,,49-228-240-0.24.nat.tls1a-cgn01.myaisfibre.com ความคิดเห็นที่ 11 [อ้างอิง]
รวยดีชอบ อยากรู้วันนึงที่ต้องจากไป เงิน 1บาทมีใครเอาไปได้บ้าง บ้างคนรวย แต่คนอื่นไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเป็นใคร บางคนรวยแล้วรู้จักแบ่งปันไม่ว่าจะเป็นทรัพย์หรือแนวคิด (ไม่ใช่แนวโกงแนวเห็นแก่ตัว) ก็จะมีคนจำได้แล้วพูดกันไปนานแสนนาแยันลูกยันหลาน และเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศ ไม่ว่าจะเรื่องดี หรือเลว ก็เลือกเอาเหอะ ว่าก็ว่าบางคนผมคิดว่าเป็นเจ้าของเทศด้วยซ้ำไป สวัสดีครับ ซูฮาร์โต้เมืองไทย เราตื่นขึ้นมาก็เสียเงินให้เค้าล่ะ


[ วันศุกร์ ที่ 8 กรกฎาคม 2565 เวลา 22:19 น. ]
คุณ : วิญญาณปู่ร้อง ..จงทำดี
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 58.10.221.2

58.10.221.2,,cm-58-10-221-2.revip7.asianet.co.th ความคิดเห็นที่ 12 [อ้างอิง]
# เศรษฐีนี่คือใจบุญ แต่นายทุนนี่จะหน้าเลือด # เศรษฐีนี่คือใจบุญ แต่นายทุนนี่จะหน้าเลือด เพราะฉะนั้นใครก็ตามถ้าใจบุญนี่ จะมีเงินน้อยเงินมาก เราเรียกคนคนนั้นว่าเศรษฐี ใครก็ตามที่หน้าเลือดเราเรียกว่านายทุน คือกระฎุมพี ( เศรษฐีความหมายที่แท้จริงก็คือผู้ประเสริฐ เศรษฐีแปลว่าประเสริฐ ไม่ได้หมายถึงกระฎุมพีซึ่งแปลว่า ผู้ที่มั่งคั่งร่ำรวย ฉะนั้นคนมีเงินมากๆเราเรียกศัพท์ตรงๆว่ากระฎุมพี ไม่ได้เรียกว่าเศรษฐี ยกเว้นคนคนนั้นเป็นคนใจบุญ )


[ วันเสาร์ ที่ 9 กรกฎาคม 2565 เวลา 08:11 น. ]
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์