สำหรับกลุ่มรถบรรทุกได้สั่งการให้ กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.)ไปเร่งออกระเบียบ เพื่อกำหนดให้กลุ่มรถบรรทุกใช้เอ็นจีวี สูตร พรีเมี่ยม
ที่ไม่มีการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะทำให้รถบรรทุกขนส่งวิ่งได้ทางไกลมากขึ้น และลดการใช้เชื่อเพลิง ขณะเดียวกันจะออกระเบียบเพื่อเปิดทางให้เอกชนสามารถลงทุน จัดตั้งสถานีบริการเอ็นจีวี เพื่อแก้ปัญหาให้รถบรรทุกขนส่ง ไม่ต้องวิ่งเข้ามาเติมก๊าซในเมืองได้ นอกจากนี้ ยังสั่งการให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ไปสนับสนุนในการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รถบรรทุก เพื่อให้สามารถใช้ก๊าซปิโตเลียมเหลว (แอลเอ็นจี) ได้ โดยเร่งให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมเช่นกัน
“นโยบายส่งเสริมเอ็นจีวี ทั้งการสนับสนุนราคาและการให้บริการมีความพร้อมมากขึ้น จะปรับขึ้นราคาดีเซลก็จะไม่มีปัญหา สามารถขึ้นราคาเกิน 30 บาทต่อลิตรได้ โดยไม่เกิดผลกระทบต่อต้นทุนค่าขนส่ง เนื่องจากรถบรรทุก หันไปใช้ก๊าซเอ็นจีวีหมดแล้ว ภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ก็จะมีภาระเข้าไปชดเชยลดลง เบื้องต้นมีโอกาสที่จะยกเลิกนโยบายตรึงราคาที่ 30 บาทต่อลิตรได้ ภายในปี 2557 หากสามารถดำเนินการเรื่องนโยบายเอ็นจีวีได้ตามเป้าหมาย”นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ได้มอบหมายนโยบายให้ติดตามสถานการณ์การหยุดจ่ายก๊าซจากแหล่งเยตากุน-ยาดานา ประเทศสภาพเมียนมาร์
ในช่วงวันที่ 25ธันวาคม 2556-8 มกราคม2557 ซึ่งจะกระทบต่อโรงไฟฟ้าต้องหยุดเดินเครื่อง 6 แห่ง ในการผลิตกระแสไฟฟ้าหายไป 6,400 เมกะวัตต์ เบื้องต้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ทดสอบความพร้อมรับมือ โดยคาดว่าจะเหลือปริมาณสำรอง 13,000 เมกะวัตต์ ซึ่งตามปกติในช่วงหยุดปีใหม่ปริมาณการใช้ไฟฟ้ามีน้อย จึงเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบให้ไฟฟ้าดับ ซึ่งจะเตรียมความพร้อมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 20 ธันวาคม2556 นี้ นอกจากนี้ ยังเตรียมพร้อมสำหรับก๊าซฯ แหล่งในอ่าวไทย ทั้งบงกชและเจดีเอ ที่จะหยุดซ่อมบำรุงในเดือนเมษายนและมิถุนายน2557
โดยกระทรวงพลังงานจะเตรียมแผนไม่ให้ไฟฟ้าขาดแคลน
โดยในส่วนของบงกช ได้ปรับแผนจากเดิมซ่อม 26 วันในเดือนเมษายน จะร่นระยะเวลาเหลือ 10-16 วัน ส่วนแหล่งเจดีเอ ซึ่งจะหยุด 28 วันในเดือนมิถุนายน-กรกฏาคม2557 ยอมรับว่าน่าเป็นห่วง เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้สูงถึง 2,400-2,500 เมกะวัตต์ เมื่อเจดีเอหยุดจ่าย โรงไฟฟ้าจะนะ กำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ต้องหยุดไปด้วย จึงต้องเตรียมแผนให้พร้อม
มีรายงานข่าวแจ้งว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกขณะนี้ได้ปรับตัวสูงขึ้น
โดยราคาปิดตลาด วันที่ 27 พฤศจิกายน น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 108.66 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้น 1.10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเทียบจากการประชุม กบง.ครั้งก่อนที่อ้างอิงราคาปิดตลาด วันที่ 22 พฤศจิกายน 2556 ส่วนน้ำมันเบนซิน ราคาอยู่ที่ 117.19 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.84 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดีเซลราคาอยู่ที่ 127.60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้น 1.94 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556มีมติ กบง.
เห็นชอบการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลลงเนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โดยปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับดีเซลลง 0.50 บาทต่อลิตร จากเดิมจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯ 0.50 บาทต่อลิตร หรืองดจัดเก็บเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร