สรุปสำนวนคดีสมเด็จเหนือหัว ดีเอสไอฟ้องเสี่ยอู๊ด

วันนี้ (5 มิ.ย.) นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ ) เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนคดีการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ว่า

หลังจากรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำผู้เสียหายกว่า 1,000 รายแล้ว คณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสรุปสำนวนสั่งฟ้อง นายสิทธิกร บุญฉิม หรือเสี่ยอู๊ด และบริษัท ไดมอนด์กรุ๊ป จำกัด ในความผิด 2 ข้อหาคือ 1.ความผิดฐานโฆษณาหรือแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และ 2.ข้อหาเลียนแบบตราเครื่องหมายสำนักพระราชวัง โดยทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นตรามงกุฎของสำนักพระราชวัง โดยพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนคดีพร้อมกับตัวผู้ต้องหาให้พนักงานอัยการพิจารณาในสัปดาห์หน้า


นายสรรเสริญ กล่าวว่า พยานหลักฐานในคดีนี้บ่งชี้ไปที่นายสิทธิกร และบริษัทไดมอนด์กรุ๊ป เนื่องจากเป็นผู้จัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว และรับผิดชอบการโฆษณาให้ประชาชนเช่าบูชาพระสมเด็จเหนือหัว

ในส่วนของเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ฯ และมูลนิธิอัฐมราชานุสรณ์ จากการสอบสวน พบว่าแม้วัดจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว แต่ไม่ได้มีเจตนาปกปิดหรือแสดงข้อความอันเป็นเท็จ เพราะทางวัดมีการเตรียมการในการจัดสร้างพระอุโบสถสองกษัตริย์ จริงตามที่ได้บอกกับประชาชนที่เช่าบูชา โดยเจ้าอาวาสยังได้นำเงินจากส่วนอื่นไปซื้อที่ดินเพื่อย้ายโรงเรียน จุดนี้จึงไม่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน
 "อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะมีความเห็นสั่งฟ้องนายสิทธิกร และบริษัทไดมอนด์กรุ๊ปฯ แต่อัยการสามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณารายละเอียดในสำนวนเพื่อสั่งคดีอย่างใดก็ได้" นายสรรเสริญ กล่าว นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า การจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ไม่เข้าข่ายฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง แต่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ตราเครื่องหมายของทางราชการ คดีนี้มีการเลียนแบบตรามงกุฎของสำนักพระราชวัง โดยตัดอุณาโลมใต้มงกุฎออก ทำให้เกิดความเข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม คดีนี้ดีเอสไอได้อายัดเงินที่ได้จากการเช่าบูชาพระสมเด็จเหนือหัว จากธนาคารและบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด หากคดีถึงที่สุดก็จะทยอยคืนเงินให้กับผู้เสียหายที่ได้แจ้งไว้กับดีเอสไอ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์