ธีรภัทร์ ออก ก.ม.ปล่อยผีทีวีเถื่อน

"ธีรภัทร์" ออก ก.ม.ปล่อยผีทีวีเถื่อน

นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์


นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงการแก้ปัญหาสถานีวิทยุชุมชน สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และเคเบิลทีวีที่ผิดกฎหมายว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่าจะแก้ไขปัญหาที่หมักหมมมาตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมาอย่างเป็นระบบ

ไม่ใช่พอมีกรณีพีทีวีขึ้นมาแล้วเลือกปฏิบัติ โดยจะเร่งจัดทำหรือปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ล้าสมัยมาก ให้รวมถึงทีวีสาธารณะด้วย โดยได้ตั้งคณะกรรมการที่มีนายสมยศ เชื้อไทย อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มธ. เป็นประธาน ยกร่างภายใน 4 เดือน

ส่วนปัญหาเฉพาะหน้า โดยเฉพาะทีวีผ่านดาวเทียมจะไม่ให้กระทำผิดซ้ำอีก ดังนั้น พีทีวีจะเปิดดำเนินการไม่ได้จนกว่าจะมี พ.ร.บ.การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงฯออกมา และต้องดูด้วยว่าจะร่างมาอย่างไร เพราะอาจจะไปยกเว้น ม.80 ยกเว้นให้เปิดได้ก็ได้ ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ

ทั้งนี้ การยกร่างคงไม่ล่าช้า เพราะร่างกฎหมายเดิมของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและนักวิชาการมีอยู่แล้ว ทั้งนี้ กรณีของเอเอสทีวียังผิดกฎหมายอยู่ แต่ได้รับการคุ้มครองชั่วคราวจากศาลรัฐบาล จะไปขัดแย้งอำนาจศาลไม่ได้

ยืนยันว่าสิ่งที่ผิดกฎหมายรวมทั้งเอเอสทีวี รัฐบาลจะเร่งแก้ไขแบบเบ็ดเสร็จภายในรัฐบาลนี้ โดยออกกฎหมายมารองรับให้ชัดเจน ทุกฝ่ายจะได้สบายใจ เข้าตามตรอกออกตามประตูได้ตามหลักเกณฑ์



ชื่นชมรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน"

นายสนธิ ลิ้มทองกุล


เมื่อถามถึงการประเมินรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ว่าเป็นการสร้างความสมานฉันท์หรือแตกแยก นายธีรภัทร์ ตอบว่า ต้องรอการประเมินเมื่อครบ 2 สัปดาห์ จากกรมประชาสัมพันธ์ โดยต้องดูจากทั้งความนิยม การร้องเรียนหรือความพึงพอใจและไม่พอใจ

ต้องฟังจากหลายฝ่าย และประเมินโดยปราศจากอคติ เมื่อผลออกมาอย่างไรก็จะเป็นผู้ตัดสินใจเป็นหลัก เมื่อถามว่า นโยบายของนายกฯระบุให้เป็นการประชาสัมพันธ์เชิงรุก แต่เนื้อหารายการเป็นการเอาเรื่องเก่ามาพูดโจมตีด่าว่าคนอื่น จะเป็นการประชาสัมพันธ์เชิงรุกของรัฐบาลหรือไม่

นายธีรภัทร์ตอบว่า ข้อมูลข่าวสารแต่ละวันก็ต้องมีเรื่องที่มีความเป็นมาในอดีตทั้งนั้น ผู้วิเคราะห์ก็ต้องยกที่มาที่ไปของเรื่องที่พูดให้ผู้ชมเข้าใจ เห็นด้วยว่าเวลาจะวิเคราะห์อะไรต้องดูไปถึงรากหรือแก่นแล้วพูดถึงปัจจุบัน และชี้ไปถึงอนาคต ส่วนตัวดูแล้วก็ยังเห็นว่ามีส่วนที่ดีอยู่ ประชาชนหรือผู้ชมจะได้รับทราบข้อมูลต่างๆได้ดี ผู้วิเคราะห์ก็มีข้อมูลมาก

เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามีคนโทร.ไปด่ามากจนโอปะเรเตอร์สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ไม่กล้ารับสาย นายธีรภัทร์ตอบว่า มีแต่คนโทร.มาบอกว่าน่าจะเพิ่มสาย



โทรทัศน์รัฐสภาโวย ทรท.ใช้ชื่อซ้ำ

นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์


ที่รัฐสภา นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสำนักงานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนผู้รับชมรายการโทรทัศน์ของรัฐสภาที่ใช้ชื่อย่อว่า "พีทีวี" ซึ่งมาจาก parliament television มาตั้งแต่ปี 2542 และเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2549 โทรศัพท์ มาสอบถามในลักษณะสับสน

เนื่องจากทราบข่าวว่า คนของพรรคไทยรักไทยก็ไปตั้งสถานีโทรทัศน์โดยใช้ชื่อย่อเดียวกันคือ "พีทีวี" มีการขึ้นป้ายคัตเอาต์ขนาดใหญ่เพื่อประชาสัมพันธ์สถานีโทรทัศน์พีทีวีนี้ด้วย ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่าโทรทัศน์ของรัฐสภาเริ่มเข้ามาทำรายการด้านการเมืองแล้วหรือ

ทั้งที่ความจริงพีทีวีของรัฐสภาทำในเครือข่ายของกรมประชาสัมพันธ์ทางช่องเอ็นบีที 15 ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 2549 มาแล้ว เป็นสื่อที่ทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ระบอบประชาธิปไตยและเผยแพร่งานของ ส.ส.และ ส.ว. แต่ในระหว่างที่ไม่มี ส.ส.และ ส.ว. ก็จะเผยแพร่งานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและ ส.ส.ร.

ดังนั้น จึงขอให้ผู้ก่อตั้งสถานีโทรทัศน์แห่งใหม่ หันไปใช้ชื่อย่ออื่นโดยเร็ว เพราะไม่มีที่ไหนที่เขาจะใช้ชื่อย่อเดียวกัน เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน



ชท.ติง ทรท.เปิดพีทีวีต้องบริสุทธิ์ใจ

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล


นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคไทยรักไทยจะเปิดพีทีวีว่า หาก คมช.และรัฐบาลหวั่นเกรงว่าการก่อตั้งพีทีวีจะทำลายความน่าเชื่อถือ หรือทำลายความมั่นคงของชาติ สามารถใช้อำนาจผ่าน กบว.เพื่อควบคุมรายการที่จะก่อให้เกิดผลกระทบความมั่นคง ทำลายศีลธรรมสิ่งดีงามทางสังคมได้

แต่ไม่อยากเห็นการเข้าไปแทรกแซงหรือปิดกั้น เพราะจะทำให้ตอบคำถามยาก เพราะวันนี้ยังมีเอเอสทีวีอยู่ หากไปปิดกั้นไม่ให้มีพีทีวีคงตอบคำถามสังคมยาก แต่ตนอยากถามกลุ่มที่จะก่อตั้งพีทีวีว่า มีเจตนารมณ์ที่ แท้จริงคืออะไร หากมีความคิดสร้างสรรค์ตั้งใจทำให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของประชาชน เพื่อนำเสนอข้อมูลทางปัญญาถือเป็นสิ่งที่ดี

แต่ถ้าใช้สถานีนี้เพื่อสร้างความปั่นป่วน ทำลายความน่าเชื่อถือของ คมช.และรัฐบาล คิดว่าควรล้มเลิกความตั้งใจนั้น และต้องตอบคำถามด้วยว่าระดมเงินทุนมาจากไหน อย่าให้สังคมมองว่าเป็นเงินที่มาจากใครคนใดคนหนึ่งที่สูญเสียอำนาจไป

และต้องการใช้ทีวีนี้ เพื่อบั่นทอนดิสเครดิตรัฐบาล หากตอบคำถามเหล่านี้ได้คิดว่าสังคมพร้อมจะให้การสนับสนุน อย่างน้อยก็พรรคชาติไทยที่สนับสนุนสื่อเสรี



นายนพดล ปัทมะ



"นพดล" อ้าง "ทักษิณ" ไม่รู้เรื่องพีทีวี


นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดสถานีโทรทัศน์พีทีวีของนายวีระ มุสิกพงศ์ รักษาการกรรมการ บริหารพรรคไทยรักไทย และสมาชิกพรรคอีกจำนวนหนึ่งนั้น

ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นเรื่องของสมาชิกพรรค และถือเป็นการใช้สิทธิดำเนินการในฐานะคนไทยคนหนึ่งจะทำกัน



กรมกร๊วกขู่แจ้งความยัดเข้าคุก


นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวภายหลังเข้ารายงานกรณีสถานีโทรทัศน์พีทีวีต่อนาย ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ว่า นายธีรภัทร์ ให้นโยบายว่า,font color=red> ควรต้องดำเนินนโยบายอย่างเคร่งครัด ไม่ สมควรจะให้มีสิ่งผิดกฎหมายเกิดขึ้นอีกในรัฐบาลนี้

ในฐานะนายทะเบียนผู้ออกใบอนุญาตจะพูดจาทำความเข้าใจ กับผู้ดำเนินการให้ชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ และหากวันที่ 1 มี.ค. พีทีวีมีการออกอากาศเราก็จะดำเนินการตามกฎหมาย แจ้งความดำเนินคดี ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าหน้าที่ มีโทษตาม พ.ร.บ.กระจายเสียงวิทยุฯ มีโทษปรับ 1 แสนบาท พร้อม โทษจำคุก

ทั้งนี้ หากพรรคการเมืองและผู้ที่มีพลังที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ได้ช่วยกันเร่งรัดให้เกิด กสช.จะเป็นการดี เพราะมีเงื่อนตายตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่น ความถี่ มาตรา 80 ระบุว่า ให้กรมประชาสัมพันธ์ดูแลให้เป็นไปตามกฎหมายเดิมทั้งหมด ยกเว้นการอนุญาตตั้งสถานีโทรทัศน์ขึ้นใหม่ ไม่มีทางออกเป็นอย่างอื่น



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์