สนธิ ลั่นพร้อมชน แม้ว รับลูกกลุ่มสตรีเด็ดหัวคดีหมิ่น

สนธิลั่นพร้อมชนทักษิณ รับลูกกลุ่มสตรีเด็ดหัวคดีหมิ่น


พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และ ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงประเด็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี ประกาศวางมือทางการเมืองตลอดชีวิต ว่า ตนยังไม่ได้อ่านข้อความดังกล่าว ต้องขอไปอ่านและวิเคราะห์ก่อน

หากเป็นไปตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวไว้ได้ก็จะดี แต่หากเป็นไปไม่ได้ ก็พร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่รู้สึกหนักใจอะไร

ส่วนกรณี กลุ่มสตรีสูงศักดิ์เร่งให้ คมช.ดำเนินการเกี่ยวกับคดีหมิ่นเบื้องสูงนั้น คมช.จะนำมาศึกษาว่า จะทำอย่างไร เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการ


ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประชุม คมช.วันนี้


มีความห่วงใยเกี่ยวกับ ประเด็นความมั่นคงอะไรบ้าง ประธาน คมช. กล่าวว่า สมาชิก คมช.ลงพื้นที่เยี่ยมหน่วยต่างๆ ทำให้ทราบว่า จะต้องมีการพัฒนาเรื่องการใช้กำลัง โดยจะต้องปรับแก้เรื่องการสอดประสานการทำงานระหว่างตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง

ส่วนการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร ในการเกาะติดพื้นที่และประชาชน ขณะนี้ประชาชนรู้สึกพอใจ อย่างไรก็ตาม การให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ถือเป็นหัวใจหลักที่สำคัญ การคิดอะไรก็ตาม ต้องให้ภาคประชาชนเป็นตัวตัดสินใจ ไม่ใช่เราทำเอง

ประธาน คมช. กล่าวต่อกรณีที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ในเดือนพ.ค. นี้ จะมีความชัดเจนเกิดขึ้นเรื่อย ว่า หมายถึงการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคดีต่างๆ

ส่วนประเด็นการต่ออายุ คตส. เพื่อดำเนินการกับคดีต่างๆ ที่ค้างอยู่นั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลน่าจะนำมาพิจารณา แต่ในช่วงปลายการทำงานของ คมช. อาจมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับภาพรวมของการทำงานให้กับรัฐบาลใหม่บ้าง หากทุกอย่างมีความก้าวหน้าและยังไม่เสร็จ ยืนยันว่าต้องทำให้เสร็จ


พล.อ.สนธิ กล่าวด้วยว่า


ที่ประชุม คมช. วันเดียวกันนี้ ได้หารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน โดยจะนำโครงการตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ โอท็อป เข้ามาผสมผสานกัน

โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จะเป็นตัวกลางประสานกับจังหวัด เพื่อหาตลาดให้ชาวบ้านส่งสินค้าโอท็อปในพื้นที่ออกจำหน่าย จะทำให้ประชาชนพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ของตัวเอง มีงานทำ ที่ผ่านมาประชาชนไม่รู้จะไปทำอะไร มีเงินลงทุนแล้วแต่ไม่รู้จะไปลงทุนอะไร

ด้าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมครม. วันเดียวกัน ว่า รัฐบาลมีการประเมินผลงานของตัวเองตลอดเวลา และพยายามปรับในสิ่งที่ช้าไปบ้าง

วันนี้ได้กำชับให้แต่ละกระทรวงเร่ง จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนของงาน และเสนอมาที่ ครม.เพื่อพิจารณา หากเรื่องใดเกี่ยวพันกับกระทรวงอื่นๆ จะได้ดำเนินการให้สอดคล้อง และมีการทำงานในเชิงบูรณาการ โดยเฉพาะเรื่องของกฎหมาย จะได้พิจารณาให้สมบูรณ์ ก่อนที่จะนำเสนอไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า


"รัฐบาลชั่วคราวกับรัฐบาลปกติ มีความแตกต่างกันมาก เพราะมีเครื่องมือและฐานข้อมูลที่มาจากประชาชน น้อยกว่ารัฐบาลที่มาจากพรรคการเมือง

ดังนั้น แนวนโยบายของรัฐบาลชั่วคราว จะกำหนดกรอบไว้เพียงกว้างๆ เท่านั้น ส่วนรายละเอียด รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็จะเป็นผู้พิจารณา ในคืนนี้จะชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า รัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง"

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ไม่คิดว่าเวลาที่เหลือจะเป็นเรื่องกดดันการทำงาน เพราะไม่ได้เป็นรัฐบาลที่คิดว่าจะต้องทำงานให้เสร็จ

แต่สิ่งที่วางเป็นนโยบายใหญ่ๆ ไว้ คือ การแก้ปัญหาทางการเมือง ที่ยึดถือแนวทางการสร้างความรัก ความสามัคคี ให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง การแก้ไขปัญหาภาคใต้ รัฐบาลพยายามดำเนินการโดยสันติวิธี ให้เกิดแนวทางที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และการแก้ไขปัญหาอุทกภัย



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์