สิงคโปร์ เตรียมตอบโต้ ท่าทีของไทย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า วันที่ 12 ก.พ. นายจอร์จ โหยว รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ เรียกร้องให้รัฐบาลสิงคโปร์ ใช้วิธีการอันมีเหตุผลตอบโต้รัฐบาลไทย หลังมีข้อแนะนำในรัฐสภาว่า สิงคโปร์ควรยุติโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับสิงคโปร์ และนำงบประมาณไปพัฒนาด้านการเคหะของประเทศจะดีกว่า

นายโหยวกล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่รัฐบาลควรมีเหตุผล เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบความสัมพันธ์ ทางการทูตกับไทย หลังจากที่ความสัมพันธ์ของไทยและสิงคโปร์เริ่มตึงเครียด

เมื่อสิงคโปร์อนุญาตให้ พ.ต.ท. ทักษิณเดินทางเยือนสิงคโปร์ และเข้าพบรองนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนที่ผ่านมา จนทำให้รัฐบาลไทยประกาศระงับโครงการความร่วมมือระหว่างข้าราชการพลเรือน ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก หลังเหตุปฏิวัติเมื่อ 19 ก.ย. และสิงคโปร์ยังหวังว่าไทยจะกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด

โดยที่รัฐบาลสิงคโปร์ ยังเอาใจช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี และสิงคโปร์ไม่คิดจะทำให้สถานการณ์แย่ลง โดยการตอบโต้ด้วยวิธีที่กระทบต่อความรู้สึก อีกทั้งสิงคโปร์ไม่มีเหตุผลที่จะห้าม พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ ที่เดินทางมาเพียงเพื่อพบปะกับเพื่อนเก่า

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นายจอร์จ โหยว ได้กล่าวต่อรัฐสภา กรณีที่สิงคโปร์ถูกกล่าวหาว่าดักฟังโทรศัพท์ของไทยว่า เป็นเรื่องไร้สาระที่เทมาเส็กจะทำลายชื่อเสียงของตัวเองด้วยวิธีเช่นนี้ ทางฝ่ายไทยควรชี้แจงว่า เหตุการณ์เช่นนั้นมิได้เกิดขึ้นจริง

วันเดียวกัน ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายจอร์จ โหยว รมว. ต่างประเทศสิงคโปร์ ออกมาชี้แจงต่อรัฐสภาถึงปัญหาความสัมพันธ์ไทย-สิงคโปร์ ว่า

ควรแก้ไขปัญหาด้วยวิธีที่เป็นเหตุเป็นผลว่า เป็นเรื่องที่รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ชี้แจงตอบข้อซักถามในรัฐสภา โดยนัยแล้ว แม้จะไม่มีประเด็นใหม่ แต่ก็ได้ย้ำความต้องการที่จะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน หวังว่าทางการสิงคโปร์คงจะเข้าใจดีถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงความรู้สึกของประชาชนคนไทยด้วย

นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะประธานประชุมคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก กล่าวว่า ที่ประชุมได้นำข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศมาวิเคราะห์ ถึงความเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯทักษิณ ที่ให้สัมภาษณ์ โจมตีรัฐบาลและ คมช.อยู่ในต่างประเทศ

พบว่าในสายตานานาชาติ ไม่เชื่อเครดิตคำพูดของอดีตนายกฯ เพราะประเด็นที่พูดไม่มีอะไรใหม่ เป็นเรื่องซ้ำๆ ส่วนการทำความเข้าใจกับต่างประเทศถึงการเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯนั้น รัฐบาลได้ทำความเข้าใจกับต่างประเทศมาตลอด

แต่จะมีการชี้แจงเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการทุจริตคอรัปชันเพิ่มเติมขึ้น ทั้งในรูปแบบที่ให้ชาวบ้านทั่วไปเข้าใจง่าย ระดับที่นำไปเป็นงานวิชาการอ้างอิงด้านการเรียนการสอน รวมถึงมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อเปิดเผยในระดับโลกด้วย

นายประพันธ์ คูณมี สนช. ในฐานะกรรมการฯ กล่าวว่า ส่วนการชี้แจงทำความเข้าใจกับต่างประเทศนั้น รัฐบาลได้ทำความเข้าใจกับต่างประเทศมาตลอด แต่จะมีการชี้แจงเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการทุจริตคอรัปชันเพิ่มเติมขึ้น

โดยเฉพาะกับประเทศที่ยังมีข้อกังวลใจว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ส่วนการเตรียมข้อมูลเรื่องการทุจริตของรัฐบาลที่แล้วให้ประชาชนรับทราบนั้น จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการรวบรวมข้อมูลการทุจริตทั้งหมดในรัฐบาลที่แล้ว

โดยจะมีการวิจัยและสรุปผลว่า การทุจริตแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความเสียหายทาง การเมือง สังคมและเศรษฐกิจ เป็นมูลค่าเท่าใด โดยจะรวบรวมข้อมูลจาก คตส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสมุดปกดำต่างๆ เพื่อนำมาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบต่อไป

ข้อมูลที่นำมาเผยแพร่จะมีหลายระดับ ทั้งในรูปแบบที่ให้ชาวบ้านทั่วไปเข้าใจง่าย ระดับที่นำไปเป็นงานวิชาการอ้างอิงด้านการเรียนการสอน รวมถึงมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อเปิดเผยในระดับโลกด้วย

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ