´แม้ว´โยนระเบิดให้สัมภาษณ์วอลล์สตรีท-CNNถล่ม คมช.เละ


"ทักษิณ" เล่นสงครามจิตวิทยา เดินสายสัมภาษณ์ CNN-วอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่สิงคโปร์ อ้างจำเป็นต้องเปิดปากเพราะถูกเล่นงานก่อน





ถล่มรัฐบาลสุรยุทธ์เดินนโยบายป้องกันการโจมตีค่าบาทผิดพลาด


พาประเทศกลับหลังหัน 180 องศา ยันไม่คิดหวนคืนสู่อำนาจในตำแหน่งนายกฯ อีก หึ่งอดีต ส.ส.ไทยรักไทยนับสิบบินไปรับปัจจัยกลับมาโชว์ให้เพื่อนน้ำลายหก ขณะที่ "สุรยุทธ์" ลั่นต้องมีมาตรการทางการทูตดำเนินการกับ "แม้ว" ส่วน "สนธิ" บุกนมัสการ "สมเด็จเกี่ยว" อ้างเตรียมงานทำบุญประเทศครั้งใหญ่ เพราะมีคนบอก 2-3 เดือนข้างหน้าจะเกิดวิกฤติ



พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี


ใช้เวลาในประเทศสิงคโปร์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่นั่นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลไทย โดยเมื่อวันที่ 15 มกราคม ได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล เอเชีย

ว่า รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจผิดพลาด

โดยเฉพาะมาตรการควบคุมเงินทุนเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินบาท ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนระยะสั้นต้องกันเงินสำรอง 30% ของเงินทุนที่นำเข้าประเทศ ฝากไว้ในบัญชีปลอดดอกเบี้ยเพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท


อดีตนายกฯ กล่าวว่า


มาตรการควบคุมกระแสเงินทุนดังกล่าวก่อให้เกิดการเทขายครั้งใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาดรวมหายไปประมาณ 22,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สุดในวันเดียว

แม้มีการผ่อนคลายกฎระเบียบในภายหลัง แต่ก็บั่นทอนความมั่นใจนักลงทุนไปมาก และความมั่นใจนักลงทุนยิ่งหดหายเมื่อรัฐบาลออกมาตรการควบคุมธุรกิจต่างชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาตรการดังกล่าวแทบจะหันหลังกลับ 180 องศา

เขายังบอกว่าไม่ว่าจะชอบหรือไม่ แต่เราต้องอาศัยอยู่ในระบบทุนนิยม และในการที่จะอยู่อย่างประสบความสำเร็จ เราต้องเปิดกว้างเศรษฐกิจและสังคม การแข่งขันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเราต้องเตรียมพร้อมรับมือ

พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันกับวอลล์สตรีทฯ เจอร์นัล ว่า


ไม่คิดหวนคืนอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีอีก พร้อมกับบอกว่าการเมืองภายในกำลังบดบังการสืบสวนเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ ช่วงปีใหม่ ที่คร่าชีวิตประชาชนไป 3 ราย

"ผมตัดสินใจเลิกสงบปากสงบคำ
หลังทหารหลายคนระบุว่า พรรคพวกของผมอาจอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดดังกล่าว คนพวกนั้นชี้นิ้วมาที่ผม ดังนั้นผมจึงคิดว่าถึงเวลาที่จะออกมาพูดบ้างแล้ว ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการสืบสวนได้รับอนุญาตให้เพ่งความสนใจไปที่หลักฐาน เมื่อนั้นเราก็อาจได้เบาะแสบ้างว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้"


อดีตนายกฯ ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุระเบิดดังกล่าว


ตนไม่ใช่คนประเภทที่ชอบทำอะไรลับหลังคนอื่น นั่นไม่ใช่ลักษณะของตน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นน่ากลัวมาก" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว


ออก CNN สัญญาวางมือ


ต่อมาเวลา 19.30 น. ค่ำวันเดียวกัน เขาให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ใช้เวลาแค่ 5 นาทีเท่านั้น โดยเขายืนยันว่าจะวางมือจากการเมืองและไม่เล่นการเมืองอีก และยังปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด 8 จุด ในกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

"ผมไม่ทำอะไรโง่ๆ และรู้ว่าการเสียบุคคลอันเป็นที่รักนั้นเป็นอย่างไร

ส่วนเรื่องการปฏิวัตินั้นก็ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นในยุคนี้ แต่ก็เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นความโชคร้ายของผมมาก" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น

ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) เวลา 17.45 น.


พล.อ.สุรยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเดินทางกลับจากการร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 12 ณ เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้าพบรองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ว่า ในการประชุมที่อาเซียนซัมมิต

ตนได้พบกับนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ แต่ไม่ได้มีการพูดถึงกรณีดังกล่าว เพราะที่ประชุมนั่งติดกัน และมีเรื่องอื่นที่มีความจำเป็นที่อยู่ในวาระการประชุม แต่เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในวาระก็ไม่ได้ยกมาหารือ

เมื่อถามว่าให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปติดตามเรื่องนี้ ผลเป็นอย่างไร


นายกฯ ตอบว่า เท่าที่นายนิตย์ พิบูลย์สงคราม รมว.ต่างประเทศ ได้ประเมินแล้วก็คงเป็นเรื่องที่เราคงจะต้องมีการดำเนินการทางการทูตบางประการ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการอยู่ ตนคิดว่าก็จะคงได้ดำเนินการในวันนี้ไปแล้วในบางส่วน


เรื่องไม่ได้ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล


แต่ว่าเป็นเรื่องของการดำเนินการทางการทูตที่ประเทศไทยในฐานะที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศต่างๆ ก็จะต้องมีการแสดงท่าทีให้ประเทศต่างๆ เหล่านั้นได้รับทราบว่าเรามีท่าทีอย่างไรบ้างในเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะว่าคุณทักษิณก็ได้ถูกยกเลิกพาสปอร์ตทางการทูตไปแล้ว

ถามว่าดำเนินการทางการทูตในรูปแบบไหน


พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ต้องถาม รมว.ต่างประเทศ แต่คงไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดปัญหาอะไรขึ้นมา แต่ก็เป็นการแสดงออกว่าเรามีท่าทีอย่างไรต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเราไม่ได้ทำหนังสือชี้แจง เป็นเพียงการทำความเข้าใจร่วมกันว่า ในด้านการทูตนั้นเราควรจะปฏิบัติต่อกันอย่างไร

เมื่อถามว่า แล้วที่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าเป็นการพบแบบส่วนตัวกับรองนายกฯ สิงคโปร์สามารถทำได้หรือไม่

นายกฯ ตอบว่า เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงการต่างประเทศจะต้องพิจารณา เป็นเรื่องที่ถือได้ว่าเป็นเรื่องทางการทูต

พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า


ในส่วนของรัฐบาลเองก็คงจะไม่ดำเนินการอะไร แต่จะเป็นธรรมเนียมเมื่อถือว่าได้มีสถานะที่อยู่ในลักษณะที่ดำเนินการทางการเมืองแล้วเราก็คงจะต้องช่วยกันดูแลต่อไป ไม่ใช่หมายความว่าเข้าประเทศไม่ได้นะครับ ยังมีสิทธิ์ที่จะเข้าได้อยู่"


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์