อภิสิทธิ์ ไม่เชื่อหมอดูทักมีปฏิวัติได้นายกฯ ชื่อ อ. มั่นใจปี เสือ ไม่ดุ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ถึงกรณีที่มีหมอดูทำนายว่าจะมีเหตุรุนแรงถึงขั้นปฏิวัติ ได้นายกคนใหม่ ชื่อ “อ” แน่นอนว่า

ถ้ามีปฏิวัติคงได้นายกฯคนใหม่แน่นอน แต่ตนก็จะทำทุกวิถีทางไม่ให้มันมีเงื่อนไขไปสู่จุดนั้น เพราะคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ ซึ่งมันก็มีคนที่อยากให้เกิดความรุนแรง แต่ว่าเป็นหน้าที่ของตนและรัฐบาลที่จะไม่ให้เกิดสิ่งนั้น และตนได้ย้ำว่าใครที่คิดว่าความรุนแรงเป็นคำตอบของสังคมนี้ได้ คิดผิดอย่างรุนแรง ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ที่ความหนักแน่นอนของคนในรัฐบาลด้วยกันเอง ว่าคิดว่ารับมือได้หรือไม่ แต่สำหรับตนนั้นไม่มีปัญหาหรอก ส่วนจะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เกิดการเลือกตั้งในปีหน้าหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบว่าพูดถึงอะไรอย่างไรบ้าง ตอนนี้คาดเดากันไปหลายขั้น ตนก็บอกได้อย่างเดียวว่าก็จะบริหารบ้านเมืองให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้
       
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า

ธรรมชาติของเสือนั้น ตามปกติก็ต้องดุ แต่ปีเสือ ไม่ใช่เสือจริง และคาดว่าจะสามารถก้าวข้ามผ่านไปถึงปีกระต่ายแน่นอน ประเทศไทย คนไทยต้องอยู่ไปถึงปีกระต่าย ซึ่งในปีหน้าก็ต้องมีนโยบายและมาตรการมาเพิ่มเติมแน่นอน ส่วนการจัดลำดับความสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดินในปี 53 นั้น ในภาพรวมคือ ต้องการให้คนไทยมีความสุขมากขึ้น โดยประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดูแลไม่ให้การเมืองเป็นอุปสรรคกับการพัฒนาของประเทศ และ เร่งเ ดินหน้าทำนโยบายของปีที่ผ่านมาทั้งในระยะกลาง และระยะยาว ให้มากขึ้น
โดยงานในเชิงโครงสร้างจะมีมากขึ้น ซึ่งเรื่องในการสร้างความสมานฉันท์จะอยู่ในเรื่องของการสร้างความสุข แน่นอนว่าการเมืองไม่เป็นอุปสรรคก็จะสามารถเดินหน้าสร้างความสมานฉันท์ได้
       
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจในปีหน้าคาดว่ายังเป็นตัวเลขเดิม คือ
 
มีการเติบโต 3.5% แต่จะพยายามทำให้ได้มากกว่านี้ และคิดว่าจะยังไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ แต่อาจจะมีปัญหาในบางประเทศที่ทำให้เศรษฐกิจชะงักบ้าง เช่น ที่ดูไบ เป็นต้น ซึ่งนายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า ตนมั่นใจว่าในปีหน้าเงินในกระเป๋าประชาชนจะเพิ่มขึ้น โดยความมั่นใจตรงนี้มาจากภาวะเศรษฐกิจและนโยบายที่รัฐบาลเตรียมรองรับไว้แล้ว ซึ่งตรงนี้สมมุติว่าพรรคฝ่ายค้านรับเงื่อนไขตนเอง 7-8 เดือนยุบสภา มันก็ไม่ผ่าน ดังนั้นจึงตอบไม่ได้ว่าผ่านหรือไม่ผ่าน
       
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาด้วยว่า
 
ตนเองให้ระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชาในระดับที่ประชาชนทั่วไปไม่เดือดร้อน แต่ในภาคความสัมพันธ์ทางการทูต ยืนอยู่บนศักดิ์ศรีของประเทศ


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์