เฉลิมลั่นมีทีเด็ด-ปัดเป็นดาวดับสภาฯ

“เฉลิม”ยันเป็นดาวสภาแต่ไม่มีบทให้เล่น ลั่นพร้อมโชว์ทีเด็ดในช่วงสำคัญ ย้ำอีกไม่มีผู้นำฝ่ายค้านเพราะไม่จำเป็น ระบุสภา“ถ่อย เถื่อน ถีบ”เป็นเรื่องปกติ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตั้งฉายาประจำปีของผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาว่า ถือเป็นหยอกเอิน

คนที่ได้รับฉายาก็อย่าไปคิดอะไรมาก แต่ที่ให้ฉายาตนเป็นดาวดับนั้น มันจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะตนเป็นดาวสภา ครั้งหนึ่งเคยประกาศจะลาออกจากประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย โพลล์ก็ยังออกมาตั้ง 90 % ให้อยู่ต่อ  ทั้งนี้ ตนได้ทำหน้าที่ไปตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย รู้ตัวดีว่าควรทำแค่ไหนอย่างไร เพราะเล่นการเมืองมานาน ฉายาดาวดับคงไม่ใช่ อาจเป็นเพราะไม่มีบทให้เล่น ฉายาดาวดับนี่น่าจะเป็นเพราะหูดับไปพักหนึ่งหรือเปล่า ซึ่งไม่ได้คิดอะไร และไม่โกรธ เพราะมันไม่ใช่ เพราะเขาไม่เข้าใจ ส่วนตัวเป็นพวกมีทีเด็ดจะต้องเก็บเอาไว้ใช้ตอนสำคัญ เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่จำเป็นต้องมาโชว์พร่ำเพรื่อ วันนี้เล่นการเมืองต้องดูสังคมว่าเขาเอาด้วยหรือไม่ ไมใช่เอาแต่สนุก อาจเป็นไปได้ว่าพรรคไม่มีหัวหน้า ไม่มีผู้นำฝ่ายค้าน ก็เลยดูไม่มีบทบาท แต่ขอถามหน่อยว่ามีใครบ้างที่เหนือตนในสภา

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่สื่อมวลชนไม่ตั้งฉายาผู้นำฝ่ายค้าน

เพราะไม่มีคนทำหน้าทีในส่วนนี้นั้น ชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทย ใช้ตัวบุคคลนำพรรค ก็คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ การไม่มีผู้นำฝ่ายค้าน ก็ไม่มีอะไรบกพร่อง หรือลดทอนการทำงานของฝ่ายค้านแต่อย่างใด การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจก็สามารถทำได้แม้ไม่มีผู้นำฝ่ายค้าน ส่วนที่มีการมองว่าการทำหน้าที่ในสภาโดยไม่มีผู้นำทำให้ขาดความชัดเจนว่าใคร จะเป็นหลัก ถ้าหมายถึงตนกับนายวิทยา ก็ถือว่าทำหน้าที่กันคนละส่วน ไม่มีอะไรขัดแย้งทำงานได้ การไม่มีหัวหน้าพรรคก็มีผลดีที่ทำให้ทุกคนกระตือรือร้นตื่นตัวทำงานเพื่อชิง การนำในพรรค ก็เป็นเรื่องที่ดี

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า สำหรับฉายาสภา"ถ่อย เถื่อน ถีบ"ที่สื่อมวลชนมองว่า การทำหน้าที่ไม่สง่างามสมกับสภาอันทรงเกียรตินั้น ก็แล้วแต่มุมมอง

แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ปกติ อย่าไปมองอะไรที่ซีเรียส อย่างประเทศอื่นๆ ยังมีต่อยกัน ใช้ค้อนตีกันตายก็มี ยังดีที่ยังไม่ต่อยกัน เพราะถ้าถึงขนาดนั้นก็เท่ากับเราพัฒนาเท่ากับต่างประเทศ อย่างไรก็ตามในส่วนของวาทะเด็ดที่ตนบอกว่า “พ..ต.ท.ทักษิณไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม” ตรงนี้มันเป็นเรื่องของเทคนิคทางกฎหมาย การทำผิดกฎหมายก็คือการละเมิดกฎหมายที่มีโทษทางอาญา ส่วนการทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม เป็นการทำในสิ่งที่ห้ามเฉพาะกลุ่ม เช่น ครม.และคู่สมรสที่จดทะเบียนห้ามไม่ให้เป็นคู่สัญญากับภาครัฐ มันเป็นกฎหมายป.ป.ช.มาตรา 100 แต่ถ้าคนทั่วไปทำลักษณะเดียวกันนี้ก็ไม่มีความผิดอะไรเลย ที่ผ่านมาอาจเป็นเพราะตนชี้แจงไม่ได้ละเอียด เพราะไม่มีใครมาถามจริงๆจังๆ ต้องเข้าใจว่าตรงนี้เป็นกฎหมายชั้นสูง ไม่ได้ตีความแบบศรีธนญชัย

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์