ฉีกMOUขายชาติ ทุบหม้อข้าวฮุนเซน-ทักษิณ/คะแนนอภิสิทธิ์พุ่งปรี๊ด3เท่า

แสดงพื้นที่ทับซ้อนที่เขมรขีดรุกเข้ามายังน่านน้ำไทย

"มาร์ค"  ถามเขมรจะเอาไง  "บัวแก้ว"  จับได้ก่อนขายชาติ  ลงดาบสองทุบหม้อข้าว  2  วายร้าย  "แม้ว-ฮุน  เซน"  ฉีกเอ็มโอยูบ่อน้ำมัน-ก๊าซ  ที่เซ็นในยุคระบอบทักษิณเรืองอำนาจ  ชี้มีผลประโยชน์ทับซ้อนร่วมกัน  หลังนายกฯ  เขมรมีพิรุธเชียร์คนทรยศชาติจนออกนอกหน้า  คิวต่อไปงบช่วยเหลือสร้างถนน   1.4  พันล้านอาจต้องระงับ  "ชวน"  กรีดเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ไทยรักไทยเคยช่วยชนะเลือกตั้ง  "หน้าเหลี่ยม"  กบดานเงียบ  เครียดทวิตไม่ออก  กลุ่ม  40  ส.ว.ยุส่งปิดชายแดนเลิกคบค้า  โพลล์ระบุคะแนนนิยม  "อภิสิทธิ์"  พุ่ง  3  เท่าตัว

     ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาถึงขั้นเรียกทูตกลับประเทศ  หลังสมเด็จฮุน  เซน  นายกรัฐมนตรีกัมพูชา  ยืนกรานตั้ง  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกฯ  นักโทษหนีคุกในคดีคอรัปชั่น  เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา  ตกเป็นที่สนใจในเวทีการเมืองโลก  มีการจับตาว่าผู้นำไทยกับกัมพูชาจะใช้เวทีประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นซึ่งกำลังมีขึ้นที่กรุงโตเกียวหารือเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่

     เมื่อวันศุกร์   นายอภิสิทธิ์   เวชชาชีวะ   นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ที่กรุงโตเกียวว่า  การปรับลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชาเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของไทย  และปกป้องกระบวนการยุติธรรมของไทย

     "ผมคิดว่ารัฐบาลและคนไทยได้แสดงออกบนความอดทนอดกลั้นพอสมควร  เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขในระดับทวิภาคี  ทั้งสองประเทศต้องแก้ปัญหากัน  แต่ปัญหาไม่ได้เกิดจากรัฐบาลไทย   ดังนั้นจึงอยู่ที่กัมพูชาจะต้องไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร  ต้องให้เวลากัมพูชาระยะหนึ่ง"

     นายกฯ  บอกว่า  การปรับลดระดับความสัมพันธ์มีกลไกอยู่  ขณะนี้ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศเตรียมการไว้แล้ว  รัฐบาลจะพิจารณาตามความเหมาะสมว่าเรื่องใดควรเดินช้าหรือเดินเร็ว  รัฐบาลไทยยังคงยืนยันว่าจะดำเนินการโดยไม่ให้เกิดปัญหาความรุนแรง  ซึ่งฝ่ายความมั่นคงเข้าใจดี  จะไม่ให้กระทบกับผลประโยชน์ของคนไทย

     ต่อข้อถามว่าหากกัมพูชาไม่ตอบสนอง  จะดำเนินการอย่างไร  นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า  ขณะนี้รัฐบาลได้แสดงออกในระดับหนึ่งแล้ว  และจะพิจารณาตามสถานการณ์ต่อไป

     มีความชัดเจนในการลดระดับความสัมพันธ์อีกขั้น  โดยนายกษิต  ภิรมย์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ   ซึ่งร่วมคณะของนายกฯ  ไปญี่ปุ่นเผยว่า  ขณะนี้ได้ข้อยุติ  1  เรื่อง  คือ  บันทึกความเข้าใจ  (MOU)  ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา  ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาต่างอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนบนอ่าวไทย  ฉบับวันที่  18  มิถุนายน  2544  และเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา  เพื่อแจ้งบอกเลิกกับรัฐบาลกัมพูชา  เนื่องจาก  MOU  ฉบับดังกล่าวจัดทำสมัยรัฐบาล  พ.ต.ท.ทักษิณ  มาวันนี้  พ.ต.ท.ทักษิณได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา

     "การที่รัฐบาลกัมพูชาตั้ง   พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ  จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเจรจาภายใต้   MOU  ดังกล่าว  เนื่องจาก  พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงตั้งแต่แรกเริ่มในการผลักดันให้รัฐบาลจัดทำ  MOU  ฉบับนี้  และ  พ.ต.ท.ทักษิณคงได้รับรู้ท่าทีต่างๆ   ในการเจรจาของฝ่ายไทย   ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงไม่อาจดำเนินการเจรจากับกัมพูชาบนพื้นฐาน  MOU  ฉบับนี้"

     นายกษิตกล่าวว่า   กระทรวงการต่างประเทศยังเห็นว่าพื้นที่ทางทะเลที่ไทยและกัมพูชาต่างอ้างสิทธิทับซ้อนกัน  มีพื้นที่กว่า  26,000  ตารางกิโลเมตร  และมีศักยภาพทางทรัพยากรธรรมชาติสูง  โดยเฉพาะแก๊สธรรมชาติ  ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งต่อผลประโยชน์ของชาติ  การเจรจาเรื่องนี้จึงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศอย่างกว้างขวาง  จึงสมควรให้ดำเนินการเรื่องนี้  โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมตามแนวทางประชาธิปไตย  ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

ผลประโยชน์ทับซ้อน

     นอกจากนี้  การเจรจาภายใต้กรอบ   MOU  ในช่วง  8  ปีที่ผ่านมา  ไม่มีผลล่วงหน้าเป็นรูปธรรมตามวัตถุประสงค์ของ   MOU  จึงเห็นควรให้ทั้งสองประเทศใช้แนวทางการเจรจาอื่น  ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ  เพื่อให้ได้ทางออกที่เป็นธรรมต่อไป

     "นี่เป็นมาตรการอีกข้อหนึ่งที่น่าจะทบทวน   เมื่อทบทวนแล้วคิดว่าน่าจะยุติ  MOU  ตรงนี้  เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างแน่นอน  คนที่เคยเป็นตัวตั้งตัวตี  และมาวันนี้มาเป็นที่ปรึกษาของอีกประเทศหนึ่ง  มันดูอย่างไรชอบกล"

     ถามว่าจะใช้เวลาในการตอบโต้นายเพียงใด   รมว.การต่างประเทศตอบว่า  ขึ้นอยู่กับเวลา   ซึ่งเป็นไปตามที่นายอภิสิทธิ์พูด  คือความสัมพันธ์  2  ฝ่ายต้องมาก่อนความสัมพันธ์ส่วนตัว

     มีรายงานว่า  MOU  ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาที่ทำขึ้นในยุครัฐบาลทักษิณ  มีเกือบ  100  ฉบับ

     ที่กระทรวงการต่างประเทศมีการแถลงเรื่องนี้เพิ่มเติม   โดยนายชวนนท์  อินทรโกมาลย์สุต  เลขานุการ  รมว.การต่างประเทศ   ระบุว่า  เรื่องการไปเซ็นยินยอมในข้อตกลงต่างๆ   ต้องดูว่าคนไปเซ็นไปเซ็นกันเมื่อไหร่  มีความเรียบร้อยหรือไม่  หลักฐานเอกสารต่างๆ  ในขณะนั้นมีความครบถ้วนถูกต้องหรือไม่  มันมีหลายประเด็นที่เจ้าหน้าที่กำลังดูอยู่

     ถามว่า  คิดว่าแถลงการณ์ร่วมที่ทำไว้ในสมัยรัฐบาล  พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเรื่องของผลประโยชน์ส่วนตัว  มากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม   เลขาฯ  รมว.การต่างประเทศตอบว่า  เป็นอีกหนึ่งสมมุติฐานที่กระทรวงการต่างประเทศได้ตั้งไว้  เพราะเราพยายามหาคำตอบว่าทำไมสถานการณ์อย่างนี้ถึงเกิดขึ้น   สมเด็จฮุน  เซน  มีปฏิริยาตอบโต้กับเรารุนแรง  ดังนั้นจึงต้องกลับไปดูว่าความสัมพันธ์ที่ได้ทำข้อตกลงร่วมกันต่างๆ   มีอะไรบ้าง  หากเป็นเรื่องดีมีประโยชน์เราก็จะรีบผลักดันออกไป   เขาอาจจะบอกว่าทำไมเรื่องนี้เป็นประโยชน์กับ  2  ประเทศ  ทำไมถึงไม่ทำ  แต่หากเรื่องอะไรที่เราคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะสมเหตุสมผล  ที่มาที่ไปไม่ชัดเจน  เราก็อาจจะต้องขอชะลอไว้ก่อน  คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะพอบอกได้ว่าจะมีข้อตกลงเรื่องใดที่จะยกเลิกหรือชะลอออกไปก่อนได้  หรือหยุดไว้ชั่วคราว

     ซักว่าท่าทีในขณะนี้จะนำไปสู่การปิดชายแดนหรือไม่   นายชวนนท์ตอบว่า  เป็นทางเลือกของกัมพูชา  เพราะเขาทราบอยู่แล้วว่าทางออกอยู่ตรงไหน  เราเปิดทางออกไว้ให้ตลอด  และเรื่องทำมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในการปกป้อง  รักษาหน้าตา  ศักดิ์ศรี  และเกียรติภูมิของประเทศ

     เมื่อถามว่า  เราต้องมองไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-มาเลเซีย  และไทย-พม่าด้วยหรือไม่  นายชวนนท์กล่าวว่า  เรื่องนี้อาจจะทำให้ใครที่คิดจะทำอะไรกับประเทศเพื่อนบ้าน  หรือคิดเดินสายชักศึกเข้าบ้าน  ก็คงต้องทบทวนให้หนัก  เพราะมีตัวอย่างแล้วว่าเรารักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  ขณะเดียวกันเราก็ต้องรักษาเกียรติภูมิของประเทศด้วย

     เลขาฯ  รมว.การต่างประเทศบอกว่า  ที่มีการมองว่ารัฐบาลไทยเต้นตามเกมนั้น  สู้กับเหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครเจอ  จึงไม่ใช่เรื่องง่าย  จะบอกว่าตกหลุม  ไม่ตกหลุม ยังไงเราก็ต้องเดินหน้ารักษาศักดิ์ศรีของเรา  ต้องดูว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร  และหากถูกระงับการช่วยเหลือ  การสร้างถนนอะไรต่างๆ  ที่เราได้อนุมัติไว้แล้ว  ถ้าไม่ออกไปก็ช่วยอะไรไม่ได้  โดยล่าสุดขณะนี้ที่  ครม.อนุมัติกรอบงบประมาณ  1,400  ล้านบาทในการสร้างถนนเส้นที่  68  แล้วก็ต้องดูอีกที 

     "ขอย้ำว่าทุกมาตรการไม่ใช่ข้อต่อรอง  แต่ต้องดูว่าสถานการณ์อย่างนี้หากรัฐบาลไทยช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชา   แล้วเราจะตอบประชาชนคนไทยในประเทศอย่างไร  คือกัมพูชาก็ต้องเห็นใจเรา   หากอยากให้เราเข้าไปช่วย  เขาก็ต้องให้บรรยากาศระหว่างประเทศมันเหมาะแก่การช่วยเหลือ"

ทูตกัมพูชาเผ่นแล้ว

     ด้านนายธานี  ทองภักดี  รองอธิบดีกรมสารนิเทศ  กระทรวงการต่างประเทศ  กล่าวว่า  ท่าทีของไทยที่ให้นายประศาสน์  ประศาสน์วินิจฉัย  เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ  เดินทางกลับประเทศ   ไม่ใช่เป็นการตัดความสัมพันธ์  เพราะยังมีอุปทูตไทย  อยู่ที่สถานทูตไทย  กรุงพนมเปญ  และที่สถานทูตกัมพูชาในไทยก็ยังมีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่  ดังนั้นรัฐบาลทั้งสองฝ่ายยังมีพันธะดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และสถานทูต

     ขณะที่นายประศาสน์   ประศาสน์วินิจฉัย  เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ  ประเทศกัมพูชา  เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว  โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ทีจี  0585  เมื่อเวลา  21.55  น. วันที่  5  พฤศจิกายน  โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ  กับสื่อมวลชน  เนื่องจากได้ประสานกับทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขอให้รถเข้าไปรับในสนามบิน

     ล่าสุด  ทางการกัมพูชาได้สั่งการให้นางยู  ออย  เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย  เดินทางกลับกรุงพนมเปญแล้วเช่นกัน

     นายสุเทพ   เทือกสุบรรณ  รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง  กล่าวว่า  ที่ผ่านมาทางฝ่ายไทยได้ใช้ความอดทนมาก  สื่อก็จะสังเกตเห็นว่าเวลาตนพูดจาถึงกรณีนี้  ตนก็พยายามที่จะระมัดระวัง  พูดให้ดูเบาเข้าไว้   แต่เมื่อเห็นแถลงการณ์ของกัมพูชา  มันก็แสดงชัดเจนว่าสิ่งที่แถลงออกมานั้นมันกระทบต่อเรื่องภายในของประเทศไทย  ท่าทีที่เขาประกาศชัดเจนว่าเขาจะไม่ส่งตัว   พ.ต.ท.ทักษิณให้กับประเทศไทย  และได้ให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องที่  พ.ต.ท.ทักษิณถูกเล่นงานทางการเมือง

     "จริงๆ  แล้วเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผมได้รับมอบหมายไปชี้แจงให้สมเด็จฮุน  เซน  เข้าใจมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าคุณทักษิณหนีคดีอาญาที่ได้ผ่านการพิจารณาจากศาลยุติธรรมของไทย  ฉะนั้นเมื่อเขมรได้แสดงท่าทีอย่างนี้  ก็ถือว่าได้ก้าวล่วงมาในเรื่องภายในของไทยแล้ว  จำเป็นที่รัฐบาลไทยจะต้องตอบโต้ทางการทูต"

     นายสุเทพกล่าวว่า  การลดระดับความสัมพันธ์จะยืดเยื้อหรือไม่  ก็ต้องดูสถานการณ์ว่าทางกัมพูชาเขาจะคิดได้ไหม  จะเข้าใจได้ไหม

     "จริงๆ   เรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องของคุณทักษิณ  เพราะคุณทักษิณอาจจะคิดใช้รัฐบาลกัมพูชา   ใช้สถานที่ในประเทศกัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการทางการเมือง  ตรงนี้ผมคิดว่าคุณทักษิณก็ควรจะรู้จักที่จะพูดจาบอกกล่าวรัฐบาลกัมพูชา  ช่วยดูแลกิจการของคนไทยทรัพย์สินของคนไทยหรือสถานทูตไทยในกัมพูชา"

     "มีหลายคนให้ความคิดความเห็นกับผมว่าทั้งหมดสงสัยจะเป็นแผนการของคุณทักษิณ   เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีปัญหาเพิ่มมากขึ้น"

     เมื่อถามว่า   จะมีการพูดคุยกับหน่วยงานด้านความมั่นคงหลังได้ออกแถลงการณ์ไปหรือไม่  นายสุเทพกล่าวว่า  ผมก็จะพูดคุยกับหน่วยงานด้านความมั่นคง  เพื่อเตรียมการทุกอย่าง  ซึ่งนายกฯ  ได้ให้แนวทางก่อนไปญี่ปุ่นว่า  ให้ผมได้ปรึกษาหารือกับฝ่ายความมั่นคง  ดูแลอย่าให้สถานการณ์ชายแดนมีความตึงเครียด  นายกฯ  ก็เป็นห่วงว่าประชาชนจะตกใจ  ยืนยันว่าฝ่ายความมั่นคงจะพยายามไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกันบริเวณชายแดน

"เทือก"ยัน"ลาว-ญวน"เข้าใจ

     นายสุเทพกล่าวว่า  ประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่มีความเข้าใจ  เมื่อคืนวันที่  5  พฤศจิกายน  ตนได้ต้อนรับนายกฯ  พม่า  นายกฯ  ลาว  ทั้งสองประเทศก็ได้แสดงความเข้าใจ  ตนก็ได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง

     เมื่อถามว่า  จะประเมินระดับไหนถึงจะมีการปิดด่านตามแนวชายแดน  นายสุเทพกล่าวว่า    ต้องดูท่าที  หากกัมพูชาแข็งกร้าวโต้ตอบมาโดยไม่ประนีประนอม  ระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศก็ต้องลดลงเรื่อยๆ  อาจจะถึงขั้นปิดด่านชายแดนหรืออะไรก็ว่าไป

     "คุณทักษิณไม่ควรเอาประเทศมาเป็นของเล่น  สำหรับการช่วงชิงอำนาจ  ทำได้ด้วยวิธีอื่นตั้งเยอะแยะ"  รองนายกฯ  กล่าว

     นายชวน  หลีกภัย  ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์  ตั้งข้อสังเกตว่าการตั้ง  พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการตอบแทนบุญคุณของสมเด็จฮุน  เซน  ที่กลุ่มรัฐบาลของ  พ.ต.ท.ทักษิณ  รวมถึงกรณีของพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักไทยช่วยเหลือ  โดยเฉพาะในตอนเลือกตั้งกัมพูชา  หรือพูดง่ายๆ  ว่าตอนนั้นยอมสละประโยชน์ของประเทศไทยให้  ดังนั้นความเป็นบุญคุณตรงนี้คงทำให้สมเด็จฮุน  เซน  นึกถึงและเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น

     นายเทพไท  เสนพงศ์  โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า  หาก  พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์มีท่าทีรุนแรงเกินไปต่อรัฐบาลกัมพูชา   ดังนั้นตนอยากถามกลับต่อท่าทีของ   พ.ต.ท.ทักษิณ  ถึงกรณีที่มีการเผาสถานทูตกับเรียกทูตกลับมา  พร้อมประกาศอย่างแข็งกร้าวและก้าวร้าวมากที่สุดว่าจะไปบุกประเทศกัมพูชาถึงกรุงพนมเปญ   ตนจึงอยากถามว่าท่าทีอันไหนที่โอเวอร์รีแอคมากกว่ากัน  และอยากถามว่าตอนนั้นเด็กจังหรือผู้ใหญ่จัง

     นายเทพไทกล่าวว่า  สมเด็จฮุน  เซน  และ  พ.ต.ท.ทักษิณมีความแตกต่างกัน  และมีความเหมือนกันอยู่หลายประเด็น  คือ  1.การเข้าสู่อำนาจและระหว่างอยู่ในอำนาจของสมเด็จฮุน   เซน  มาจากสงครามล้างเผ่าพันธุ์  ขณะที่  พ.ต.ท.ทักษิณเป็นรัฐบาลท่ามกลางการฆ่าตัดตอน  พ.ต.ท.ทักษิณได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนเสื้อแดง  ขณะที่สมเด็จฮุน  เซน  ก็เข้ามามีอำนาจต่อจากเขมรแดงและยศถาบรรดาศักดิ์   ในฐานะที่เป็นสมเด็จอัครมหาเดโชฮุน   เซน   แต่   พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่มี  ตนคิดว่าเมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์  ตนอยากให้  พ.ต.ท.ทักษิณไปขอยศสมเด็จมหาอัครเดโชจากประเทศกัมพูชา  คงจะได้เป็นสมเด็จอย่างสมใจ 

     นายวัชระ  กรรณิการ์  โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา  แถลงว่า  ไม่อยากให้นายกฯ  ให้ความสำคัญกับ  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกฯ  มากเกินไป  เพราะจะกลายเป็นการเพิ่มมูลค่าของ  พ.ต.ท.ทักษิณให้มีมากขึ้นในสายตาคนไทยทั้งประเทศ  หรืออาจจะมองว่าเป็นเรื่องภายในของกัมพูชา   ก็อาจเป็นการลดระดับการตอบโต้ลงไปได้มากพอสมควร  ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นที่จะเป็นมาตรการทางการทูตตอบโต้จากไทย  ขอร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพึงสังวรว่าสิ่งที่รัฐบาลจะทำนั้นต้องไม่เป็นการผลักให้กัมพูชาออกห่างจากประเทศไทนมากไปยิ่งกว่านี้

     โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนาบอกว่า  พ.ต.ท.ทักษิณต้องแสดงความรักประเทศไทยโดยการลาออกจากตำแหน่งใดๆ  ในกัมพูชา  เพราะคงไม่อยากเห็นเพื่อนแท้ของตัวเองกลายเป็นเพื่อนตาย  หรือสร้างความลำบากใจให้นายฮุน  เซน  เป็นการแสดงน้ำใจต่อเพื่อนและประเทศกัมพูชาด้วย  และถ้า  พ.ต.ท.ทักษิณทำเช่นนั้นจริง  ก็จะได้ใจจากกองเชียร์ในประเทศไทย

40 ส.ว.ให้เลิกคบเขมร

     กลุ่ม   40  ส.ว.  นำโดยนายไพบูลย์  นิติตะวัน  ส.ว.สรรหา,  นายสมชาย  แสวงการ   ส.ว.สรรหา,   นายคำนูณ   สิทธิสมาน  ส.ว.สรรหา  ร่วมกันแถลงข่าวสนับสนุนรัฐบาล   และเสนอให้รัฐบาลเตือนนักลงทุนหันไปลงทุนกับประเทศเพื่อนที่มีผู้นำที่น่าเชื่อถือ  เช่น  ลาว  เวียดนาม

     นายคำนูณกล่าวว่า  หาก  พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นคนไทย  และสำนึกในความเป็นไทย  สำนึกในความเป็นข้าในพระองค์   ก็ไม่ควรรับตำแหน่งที่มาจากพระบรมราชโองการของพระมหากษัตริย์กัมพูชา  เพราะการเป็นข้าสองเจ้า  บ่าวสองนาย  หรือหมาสองราง  คติไทยว่าไว้ว่าจะหาความเจริญในชีวิตไม่ได้   พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะคิดว่าเล่นไพ่ฮุน  เซน  แต่แท้จริงแล้วฮุน  เซน  เล่นไพ่ทักษิณ

     ส่วนท่าทีพรรคการเมืองใหม่   ในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย   อ่านแถลงการณ์สนับสนุนรัฐบาลในการปรับระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชา

     นายสุริยะใส  กตะศิลา  เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่  อ่านแถลงการณ์ประณามสมเด็จฮุน  เซน  ที่เข้าแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย  ขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกได้ดำเนินการทุกวิธีเพื่อประณามพฤติกรรมของสมเด็จฮุน  เซน  ขอประณาม  พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคเพื่อไทย   ที่สนับสนุนและยอมรับการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาฯ  ซึ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ  จากกษัตริย์กัมพูชา   แต่ไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาล  ซึ่งกระทำโดยพระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เสมือนเป็นการใช้สถาบันกษัตริย์ชาติอื่นทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมไทย

     นายพิภพ  ธงไชย  แกนนำพันธมิตรฯ  กล่าวว่า  วันที่  9  พฤศจิกายนนี้  จะนำจดหมายไปยื่นต่อนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล  เพื่อขอให้รัฐบาลใช้โอกาสนี้ยกเลิกแผนที่ชายแดนเขตแดนไทย-กัมพูชา  มาตราส่วน  1  ต่อ  200,000  ซึ่งจัดทำโดยคณะกรรมการฝรั่งเศสเพียงฝ่ายเดียว   และผลักดันทหารและประชาชนกัมพูชาออกจากพื้นที่พิพาท   4.6  ตร.กม. โดยไม่มีเงื่อนไข

     แต่นายวีระ  มุสิกพงศ์  แกนนำ  นปช.  แถลงว่า  ที่ผ่านมารัฐบาลลาวยังเคยตั้งนายวีรพงษ์   รามางกูร  อดีต  รมว.คลังของไทย  เป็นที่ปรึกษามาแล้ว  ซึ่งหากรัฐบาลไม่พอใจก็ไม่ควรนำความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาแลก

     อย่างไรก็ตาม   เขาไม่ได้พูดถึงกรณีที่   พ.ต.ท.ทักษิณหลบหนีคดีคอรัปชั่น  แต่นายวีรพงษ์ไม่ได้ติดคดีใดๆ

     นายจตุพร   พรหมพันธุ์  แกนนำคนเสื้อแดง  กล่าวว่า  รัฐบาลพยายามใช้กรณีกัมพูชามากลบเกลื่อนความล้มเหลวทั้งหมด  หวังใช้เป็นเครื่องมือสกัดการชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้  เริ่มจากการปลุกกระแสชาตินิยม  จับผูกมัดกล่าวหา  พ.ต.ท.ทักษิณ  คนเสื้อแดง  และกัมพูชา  เป็นพวกเดียวกัน  ให้เห็นว่าเห็นแก่ต่างชาติมากกว่าประเทศไทย  อำมาตยาธิปไตยพยายามทำทุกอย่าง

     นายนพดล   ปัทมะ   อดีต  รมว.การต่างประเทศ  ในฐานะอดีตที่ปรึกษากฎหมายของ  พ.ต.ท.ทักษิณ  แถลงว่า  พ.ต.ท.ทักษิณเตรียมออกจดหมายเปิดผนึกเพื่อส่งถึงนายอภิสิทธิ์  ถึงความเห็นและท่าทีต่างๆ   และการทำงานในฐานะที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ  พ.ต.ท.ทักษิณตอบรับไปแล้ว   ซึ่งการดำรงตำแหน่งดังกล่าวไม่ได้รับเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้กับกัมพูชาเท่านั้น  แต่รับเป็นที่ปรึกษาให้อีกหลายประเทศ 

     เป็นที่น่าสังเกตว่า   ปกติ  พ.ต.ท.ทักษิณจะทวิตความเห็นลงในเว็บไซต์ทวิตเตอร์  เพื่อตอบโต้ทางการเมือง  แต่พบว่าตลอดทั้งวันที่  6  พฤศจิกายน  ไม่มีแม้ข้อความเดียว


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์